ไฮเนเก้น แก้เกมบุกตลาดเบียร์อีโคโนมี ปั้น “เชียร์ เอ็กซ์ตร้า” เบียร์ดีกรีหนักทะลวงนักดื่มคอแข็งชนเบียร์ช้าง อาชา พร้อมหวังสร้างภาพลักษณ์ใหม่เจาะตลาดภูธร ชูกลยุทธ์ไซซ์ซิงส่งกระป๋องขนาด 500 มล.ราคา 38 บาท ล่าสุด ลุยกระจายสินค้ากรุงเทพฯ หลังเดินแผนซุ่มปูพรมจำหน่ายต่างจังหวัดนานร่วม 5 เดือน ส่วนเบียร์เชียร์หวังตอดแชร์ลีโอ
แหล่งข่าวจาก บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และ เชียร์ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดตัวเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า หรือเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี มีปริมาณแอลกกอฮอล์ 6.5% โดยปูพรมเจาะตลาดต่างจังหวัดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด ล่าสุด ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงได้เริ่มกระจายสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้การเปิดตัวเบียร์เชียร์เอ็กซ์ตร้า เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเบียร์ระดับล่าง ที่ต้องการเบียร์ที่มีปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์สูง
“ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการทดลองตลาด โดยช่วงแรกเปิดตัวเชียร์เอ็กซ์ตร้า มีปริมาณดีกรี 7% จากนั้นได้ทยอยปรับรสชาติ จนสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีหลายบรรจุภัณฑ์ทั้งขวด กระป๋อง 330 มล.เป็นต้น ซึ่งเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้าจะเป็นตัวสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแบรนด์ หลังจากก่อนหน้านี้ กลุ่มเป้าหมายมองว่าเป็นเบียร์ที่มีปริมารดีกรีไม่แรง ไม่สอดรับกับความต้องการ”
สำหรับเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า ใช้กลยุทธ์ไซซ์ซิงเปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋อง ขนาด 500 มล. ราคา 38 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าคู่แข่งอย่างเบียร์ช้างหรือลีโอ มีเพียงบรรจุภัณฑ์กระป๋องขนาด 330 มล.ราคา 30 บาท อย่างไรก็ตาม เชียร์ เอ็กซ์ตร้า เจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งเจาะตลาดเดียวกับเบียร์ช้าง หรือ อาชา ส่วนเบียร์เชียร์ เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ 5% ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับรสชาติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งปัจจุบันมีคู่แข่ง คือ เบียร์ลีโอ เจาะกลุ่มคนเมือง
“การออกบรรจุภัณฑ์กระป๋อง 500 มล.38 บาท เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเบียร์ระดับล่างในขณะนี้ ที่ปัจจัยการตัดสินใจซื้อคำนึงในเรื่องของราคาเป็นหลัก อีกทั้งการวางตำแหน่งราคาถูกกว่าคู่แข่ง ยังกระตุ้นให้เกิดการทดลองดื่มได้ง่าย โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก”
สภาพตลาดเบียร์โดยรวมมูลค่า 1 แสนล้านบาท ปีนี้แทบไม่มีอัตราการเติบโต โดยเฉพาะเบียร์เซกเมนต์พรีเมียมมูลค่า 8,000 ล้านบาท ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อยู่ในภาวะติดลบ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยหันไปซื้อเบียร์ราคาถูก หรือเซกเมนต์อีโคโนมีแทน ส่งผลให้เบียร์ระดับล่างมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพียงเซกเมนต์เดียวเท่านั้น ขณะที่เซกเมนต์สแตนดาร์ด มูลค่า 9,000 ล้านบาท อยู่ในภาวะทรงตัว
แหล่งข่าวบริษัท ไทยเอเชีย กล่าวว่า การรุกตลาดเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี หรือกระทั่งเบียร์สแตนดาร์ด เพราะนโยบายทางการตลาดบริษัทจะก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเบียร์หลายแบรนด์ หรือเป็น “พอร์ตโฟลิโอ บริวเวอรี” คือ การมีเบียร์ครอบคลุม ทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัทมีเบียร์ไฮเนเก้นลงสู่ตลาดเมืองไทยมานานแล้ว ตามด้วยเบียร์ไทเกอร์ จัดอยู่ระดับสแตนดาร์ด เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2547 และเบียร์เชียร์ เจาะในเซกเมนต์อีโคโนมี โดยเปิดตัวเมื่อปี 2548 ทั้งนี้ เพื่อสร้างการเติบโต และรองรับกับการแข่งขันของตลาดเบียร์ของประเทศไทย ที่ต้องมีเบียร์ครบทุกเซกเมนต์ในการทำตลาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า ได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาด เพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนในขณะนี้ต้องรอดูผลตอบรับอีกครั้ง หลังจากเริ่มทยอยวางจำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น จากปัจจุบัน เบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี เบียร์ช้าง เป็นผู้นำตลาด ตามด้วยลีโอ
แหล่งข่าวจาก บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และ เชียร์ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดตัวเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า หรือเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี มีปริมาณแอลกกอฮอล์ 6.5% โดยปูพรมเจาะตลาดต่างจังหวัดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด ล่าสุด ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงได้เริ่มกระจายสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้การเปิดตัวเบียร์เชียร์เอ็กซ์ตร้า เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเบียร์ระดับล่าง ที่ต้องการเบียร์ที่มีปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์สูง
“ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการทดลองตลาด โดยช่วงแรกเปิดตัวเชียร์เอ็กซ์ตร้า มีปริมาณดีกรี 7% จากนั้นได้ทยอยปรับรสชาติ จนสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีหลายบรรจุภัณฑ์ทั้งขวด กระป๋อง 330 มล.เป็นต้น ซึ่งเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้าจะเป็นตัวสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแบรนด์ หลังจากก่อนหน้านี้ กลุ่มเป้าหมายมองว่าเป็นเบียร์ที่มีปริมารดีกรีไม่แรง ไม่สอดรับกับความต้องการ”
สำหรับเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า ใช้กลยุทธ์ไซซ์ซิงเปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋อง ขนาด 500 มล. ราคา 38 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าคู่แข่งอย่างเบียร์ช้างหรือลีโอ มีเพียงบรรจุภัณฑ์กระป๋องขนาด 330 มล.ราคา 30 บาท อย่างไรก็ตาม เชียร์ เอ็กซ์ตร้า เจาะกลุ่มเป้าหมายตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งเจาะตลาดเดียวกับเบียร์ช้าง หรือ อาชา ส่วนเบียร์เชียร์ เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ 5% ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับรสชาติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งปัจจุบันมีคู่แข่ง คือ เบียร์ลีโอ เจาะกลุ่มคนเมือง
“การออกบรรจุภัณฑ์กระป๋อง 500 มล.38 บาท เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเบียร์ระดับล่างในขณะนี้ ที่ปัจจัยการตัดสินใจซื้อคำนึงในเรื่องของราคาเป็นหลัก อีกทั้งการวางตำแหน่งราคาถูกกว่าคู่แข่ง ยังกระตุ้นให้เกิดการทดลองดื่มได้ง่าย โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก”
สภาพตลาดเบียร์โดยรวมมูลค่า 1 แสนล้านบาท ปีนี้แทบไม่มีอัตราการเติบโต โดยเฉพาะเบียร์เซกเมนต์พรีเมียมมูลค่า 8,000 ล้านบาท ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อยู่ในภาวะติดลบ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยหันไปซื้อเบียร์ราคาถูก หรือเซกเมนต์อีโคโนมีแทน ส่งผลให้เบียร์ระดับล่างมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพียงเซกเมนต์เดียวเท่านั้น ขณะที่เซกเมนต์สแตนดาร์ด มูลค่า 9,000 ล้านบาท อยู่ในภาวะทรงตัว
แหล่งข่าวบริษัท ไทยเอเชีย กล่าวว่า การรุกตลาดเบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี หรือกระทั่งเบียร์สแตนดาร์ด เพราะนโยบายทางการตลาดบริษัทจะก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเบียร์หลายแบรนด์ หรือเป็น “พอร์ตโฟลิโอ บริวเวอรี” คือ การมีเบียร์ครอบคลุม ทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัทมีเบียร์ไฮเนเก้นลงสู่ตลาดเมืองไทยมานานแล้ว ตามด้วยเบียร์ไทเกอร์ จัดอยู่ระดับสแตนดาร์ด เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2547 และเบียร์เชียร์ เจาะในเซกเมนต์อีโคโนมี โดยเปิดตัวเมื่อปี 2548 ทั้งนี้ เพื่อสร้างการเติบโต และรองรับกับการแข่งขันของตลาดเบียร์ของประเทศไทย ที่ต้องมีเบียร์ครบทุกเซกเมนต์ในการทำตลาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับเบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า ได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาด เพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนในขณะนี้ต้องรอดูผลตอบรับอีกครั้ง หลังจากเริ่มทยอยวางจำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น จากปัจจุบัน เบียร์เซกเมนต์อีโคโนมี เบียร์ช้าง เป็นผู้นำตลาด ตามด้วยลีโอ