ครม.เห็นชอบปล่อยกู้ 1.4 พันล้าน แก่กัมพูชา เพื่อพัฒนาถนนหมายเลข 68 กลอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด ได้ต่อ พร้อมเงื่อนไขพิเศษ ดบ.ต่ำ 1.5 ต่อปี อายุสัญญา 30 ปี ปลอดหนี้ 10 ปี "มาร์ค" สั่ง สมช.เปิดจุดผ่อนปรนทั่วประเทศ หวังเพิ่มเส้นทางการค้า พร้อมแจ้งข่าวดี พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้าน เข้าสภาฯ 3 ส.ค.นี้
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ โดยระบุว่า ครม.อนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้านบาท ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นองค์การมหาชนให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (เงินกู้) ให้แก่ประเทศกัมพูชา เพื่อนำไปพัฒนาถนนหมายเลข 68 ต่อ (กลอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อปี อายุสัญญา 30 ปี ปลอดหนี้ 10 ปีแรก แต่ต้องชำระดอกเบี้ยทุกปีในวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งกรณีนี้ไม่เข้าข่ายมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีบัญชาให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาเรื่องการเปิดจุดผ่อนปรนรอบประเทศ ซึ่งจะส่งผลในการเพิ่มมูลค่าการค้าขาย และขยายความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชามากขึ้น
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ในวันที่ 3 สิงหาคม 2552 นี้ จะมีการประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 จำนวน 400,000 ล้านบาท ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว จึงขอให้ ครม.ได้เข้าร่วมประชุมวุฒิสภาอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแจ้งให้ทราบด้วยว่า มีกฎหมายสำคัญที่ต้องเร่งพิจารณาให้ทันสมัยประชุมสภานี้จำนวน 33 ฉบับด้วย
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ โดยระบุว่า ครม.อนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้านบาท ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นองค์การมหาชนให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (เงินกู้) ให้แก่ประเทศกัมพูชา เพื่อนำไปพัฒนาถนนหมายเลข 68 ต่อ (กลอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อปี อายุสัญญา 30 ปี ปลอดหนี้ 10 ปีแรก แต่ต้องชำระดอกเบี้ยทุกปีในวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งกรณีนี้ไม่เข้าข่ายมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีบัญชาให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาเรื่องการเปิดจุดผ่อนปรนรอบประเทศ ซึ่งจะส่งผลในการเพิ่มมูลค่าการค้าขาย และขยายความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชามากขึ้น
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ในวันที่ 3 สิงหาคม 2552 นี้ จะมีการประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 จำนวน 400,000 ล้านบาท ที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว จึงขอให้ ครม.ได้เข้าร่วมประชุมวุฒิสภาอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแจ้งให้ทราบด้วยว่า มีกฎหมายสำคัญที่ต้องเร่งพิจารณาให้ทันสมัยประชุมสภานี้จำนวน 33 ฉบับด้วย