จับพิรุธโครงการนำเที่ยวเยาวชน คนพิการและผู้สูงอายุ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ราคากลางค่าทัวร์หล่นหายแล้วหัวละ 100 บาทจากจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนคน เอกชนโวย เงื่อนไขโหด ชี้เอื้อผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่ารายเล็ก
แหล่งข่าวจากบริษัทนำเที่ยว จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือเรียกสอบราคาจ้างการดำเนินกิจกรรมนำเที่ยวและกระตุ้นการเรียนรู้ในกลุ่มนักเรียน เยาวชน และผู้สูงอายุ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 ซึ่งจากการศึกษาในรายละเอียดพบว่า เส้นทาง ราคา และจำนวนนักเรียนที่จะร่วมเดินทางนั้นไม่คุ้มค่ากับการที่จะเข้าไปร่วมประมูล เพราะเป็นราคาทัวร์ที่ต่ำมาก คือ เดินทางวันเดียวที่ 700 บาท ต่อคน และ เดินทาง 2 วัน 1 คือ ที่ 1,100 บาท ต่อคน
ในรายละเอียดของหนังสือเรียกสอบราคา ระบุว่า ให้งบ 245,000 บาท จัดโปรแกรมนำเที่ยวกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นแบบไม่ค้างคืน 350 คน เท่ากับให้ค่าหัวคนละ 700 บาท และจัดโปรแกรมนำเที่ยวกลุ่มอาชีวศึกษา แบบค้างคืน 2 วัน 1 คืน ด้วยงบ 328,900 บาท สำหรับ 299 คน เท่ากับให้ค่าหัวละ 1,100 บาท และโปรแกรมนำเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ค้างคืน 80 คน ด้วยงบ 56,000 บาท เท่ากับหัวละ 700 บาท
ทั้งนี้โปรแกรมทัวร์และเส้นทางที่กำหนดขึ้นดังกล่าวเป็นการหารือกันเฉพาะในหน่วยราชการเท่านั้น เช่น สถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งที่ความจริงควรเรียกบริษัทนำเที่ยวไปร่วมจัดโปรแกรมทัวร์ด้วย
***เงื่อนไขเอื้อทัวร์รายใหญ่
“จากการคำนวณคร่าวๆตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ต้องจัดทำ คู่มือเดินทาง กระเป๋าเป๋ ธงนำเที่ยว หมวก และเสื้อ เพื่อแจกจ่ายแก่ลูกทัวร์ มีอาหารครบทุกมื้อ และอาหารว่าง ประกันภัยกลุ่ม และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เท่านี้ก็เป็นต้นทุนที่สูงมากอยู่แล้ว ยังไม่รวมค่าที่พัก และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เช่นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จ.ชลบุรี ที่ต้องเสียค่าเข้าชม 30 บาทต่อคน ซึ่งน่าจะขาดทุนราว 20% จากราคากลางที่กำหนด ส่วนระยะทางที่เหมาะสมที่สามารถจัดทัวร์ได้จริง ในราคากลางที่กำหนด น่าจะเป็นระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรจากจุดเริ่มต้น โดยล่าสุดมีรายงานผู้ชนะการประมูลในเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครพนมว่าผู้ชนะเสนอราคาเพียง 500 บาทต่อคนเท่านั้น แต่ต้องเขียนบิลให้แกหน่วยราชการเต็มวงเงินในราคากลางที่กำหนด”
จากเงื่อนไขและรายละเอียดเส้นทางทัวร์ครั้งนี้ มองว่าเป็นการเอื้อแก่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีรถโค้ชเป็นของตัวเองเท่านั้น จึงจะสามารถเสนอราคาได้ถูกกว่า เท่ากับว่าโครงการนี้ไม่ได้ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยตามวัตถุประสงค์
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวและกรรมการในสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า)ว่า โครงการนำเที่ยวสำหรับเยาวชน ผู้พิการและผู้สูงอายุนี้ ได้ออกหนังสือเรียกสอบราคา โดยตั้งราคากลางไว้ที่ คืนละ 1,100 บาท ต่อคน และ ทัวร์วันเดียวที่ 700 บาทต่อคนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการดำเนินงาน โดย นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬา ระบุว่า โครงการนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลมาทั้งสิ้น 145.06 ล้านบาท สำหรับจัดนำเที่ยวแก่ประชาชนใน 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน ผู้พิการและผู้สูงอายุ รวม 160,805 คน โดยกำหนดราคากลางของการจัดทัวร์เป็น 2 ประเภท คือ เที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ราคา 800 บาทต่อคน และ ประเภทค้างคืน ในราคาคืนละ 1,200 บาทต่อคน นานไม่เกิน 2 คืน โดยให้อำนาจแก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในแต่ละจังหวัด ไปดำเนินการออกประกาศจัดซื้อจัดจ้าง บริษัทนำเที่ยวในแต่ละพื้นที่ ส่วนโรงเรียนจะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ และสำนักงานของกระทรวงพัฒนาสังคมฯเป็นผู้คัดเลือกผู้สูงอายุและผู้พิการ
ตัวเลขราคากลางในการจัดทัวร์ในโครงการนี้มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่กระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่า ทัวร์วันเดียว 800 บาท และทัวร์ค้างคืนๆละ 1,200 บาท แต่จากเอกสารเรียกสอบราคาจ้างฯกลับคำนวณได้เพียง ทัวร์วันเดียว 700 บาท และทัวร์ค้างคืน 1,100 บาท เท่ากับราคาค่าทัวร์หายไปแล้ว 100 บาทต่อนักท่องเที่ยว 1 คน
แหล่งข่าวจากบริษัทนำเที่ยว จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือเรียกสอบราคาจ้างการดำเนินกิจกรรมนำเที่ยวและกระตุ้นการเรียนรู้ในกลุ่มนักเรียน เยาวชน และผู้สูงอายุ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 ซึ่งจากการศึกษาในรายละเอียดพบว่า เส้นทาง ราคา และจำนวนนักเรียนที่จะร่วมเดินทางนั้นไม่คุ้มค่ากับการที่จะเข้าไปร่วมประมูล เพราะเป็นราคาทัวร์ที่ต่ำมาก คือ เดินทางวันเดียวที่ 700 บาท ต่อคน และ เดินทาง 2 วัน 1 คือ ที่ 1,100 บาท ต่อคน
ในรายละเอียดของหนังสือเรียกสอบราคา ระบุว่า ให้งบ 245,000 บาท จัดโปรแกรมนำเที่ยวกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นแบบไม่ค้างคืน 350 คน เท่ากับให้ค่าหัวคนละ 700 บาท และจัดโปรแกรมนำเที่ยวกลุ่มอาชีวศึกษา แบบค้างคืน 2 วัน 1 คืน ด้วยงบ 328,900 บาท สำหรับ 299 คน เท่ากับให้ค่าหัวละ 1,100 บาท และโปรแกรมนำเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ ไม่ค้างคืน 80 คน ด้วยงบ 56,000 บาท เท่ากับหัวละ 700 บาท
ทั้งนี้โปรแกรมทัวร์และเส้นทางที่กำหนดขึ้นดังกล่าวเป็นการหารือกันเฉพาะในหน่วยราชการเท่านั้น เช่น สถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งที่ความจริงควรเรียกบริษัทนำเที่ยวไปร่วมจัดโปรแกรมทัวร์ด้วย
***เงื่อนไขเอื้อทัวร์รายใหญ่
“จากการคำนวณคร่าวๆตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น ต้องจัดทำ คู่มือเดินทาง กระเป๋าเป๋ ธงนำเที่ยว หมวก และเสื้อ เพื่อแจกจ่ายแก่ลูกทัวร์ มีอาหารครบทุกมื้อ และอาหารว่าง ประกันภัยกลุ่ม และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เท่านี้ก็เป็นต้นทุนที่สูงมากอยู่แล้ว ยังไม่รวมค่าที่พัก และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เช่นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จ.ชลบุรี ที่ต้องเสียค่าเข้าชม 30 บาทต่อคน ซึ่งน่าจะขาดทุนราว 20% จากราคากลางที่กำหนด ส่วนระยะทางที่เหมาะสมที่สามารถจัดทัวร์ได้จริง ในราคากลางที่กำหนด น่าจะเป็นระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรจากจุดเริ่มต้น โดยล่าสุดมีรายงานผู้ชนะการประมูลในเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครพนมว่าผู้ชนะเสนอราคาเพียง 500 บาทต่อคนเท่านั้น แต่ต้องเขียนบิลให้แกหน่วยราชการเต็มวงเงินในราคากลางที่กำหนด”
จากเงื่อนไขและรายละเอียดเส้นทางทัวร์ครั้งนี้ มองว่าเป็นการเอื้อแก่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีรถโค้ชเป็นของตัวเองเท่านั้น จึงจะสามารถเสนอราคาได้ถูกกว่า เท่ากับว่าโครงการนี้ไม่ได้ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยตามวัตถุประสงค์
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวและกรรมการในสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า)ว่า โครงการนำเที่ยวสำหรับเยาวชน ผู้พิการและผู้สูงอายุนี้ ได้ออกหนังสือเรียกสอบราคา โดยตั้งราคากลางไว้ที่ คืนละ 1,100 บาท ต่อคน และ ทัวร์วันเดียวที่ 700 บาทต่อคนเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการดำเนินงาน โดย นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬา ระบุว่า โครงการนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลมาทั้งสิ้น 145.06 ล้านบาท สำหรับจัดนำเที่ยวแก่ประชาชนใน 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน ผู้พิการและผู้สูงอายุ รวม 160,805 คน โดยกำหนดราคากลางของการจัดทัวร์เป็น 2 ประเภท คือ เที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ราคา 800 บาทต่อคน และ ประเภทค้างคืน ในราคาคืนละ 1,200 บาทต่อคน นานไม่เกิน 2 คืน โดยให้อำนาจแก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในแต่ละจังหวัด ไปดำเนินการออกประกาศจัดซื้อจัดจ้าง บริษัทนำเที่ยวในแต่ละพื้นที่ ส่วนโรงเรียนจะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ และสำนักงานของกระทรวงพัฒนาสังคมฯเป็นผู้คัดเลือกผู้สูงอายุและผู้พิการ
ตัวเลขราคากลางในการจัดทัวร์ในโครงการนี้มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่กระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่า ทัวร์วันเดียว 800 บาท และทัวร์ค้างคืนๆละ 1,200 บาท แต่จากเอกสารเรียกสอบราคาจ้างฯกลับคำนวณได้เพียง ทัวร์วันเดียว 700 บาท และทัวร์ค้างคืน 1,100 บาท เท่ากับราคาค่าทัวร์หายไปแล้ว 100 บาทต่อนักท่องเที่ยว 1 คน