อาดามัส ชี้คอนเสิร์ตเป็นธุรกิจเสี่ยง ยิ่งเจอปัญหาเหนือความคาดหมายอย่าง หวัดใหญ่2009 เล่นงาน ยิ่งกระทบหนัก เลิกชูคอนเสิร์ตเป็นเรือธง ปรับทิศดันธุรกิจสื่อตัวหลักแทน
นายรัฎ อักษรานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาดามัส เวิลด์ เปิดเผยว่า ธุรกิจคอนเสิร์ตซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักเดิมของบริษัทฯ ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงหากเกิดปัจจัยลบภายนอกองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ปัญหาเรื่องการเมืองที่มีความขัดแย้งกัน
รวมไปถึงขณะนี้ที่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ที่รุนแรงในเวลานี้และส่งผลกระทบต่อภาพรวมที่หลากหลาย
ธุรกิจหลักของบริษัทฯอย่างคอนเสิร์ตก็เป็นการจัดคอนเสิร์ตนำเข้าจากต่างประเทศเช่น จากเกาหลี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งแล้ว และแต่ละครั้ง ในบางครั้งก็มีปัจจัยลบเกิดขึ้นโดยไม่สามารถคดาดการณ์ได้ล่วงหน้า ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนี้มาบริษัทฯเพิ่งจัดคอนเสิร์ตไปได้แค่งานเดียวเองคือ คอนเสิร์ตศิลปินเอสเอ็ม ทาวน์
อย่างไรก็ตาม ในสิ้นปีนี้ อาดามัส ยังมีแผนที่จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่อีก 1 งาน แต่เป็นคอนเสิร์ตของศิลปินในประเทศไทยเอง ไม่ใช่คอนเสิร์ตนำเข้า
“เรื่องปัญหาการเมืองเป็นสิ่งที่เรากังวลมากที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ไม่สามารถควบคุมได้เลย แต่ยังหลีกเลี่ยงยากด้วย ส่วนปัญหาเรื่องสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ตอนนี้ โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าไม่นานสถานการณ์คงจะสามารถคลี่คลายลงได้แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบเหมือนกัน ขณะที่เรื่องของเศรษฐกิจนั้นไม่กังวลมากนัก เพราะว่าธุรกิจบันเทิงถือเป็นสิ่งเดียว ที่เป็นทางออกของประชาชนได้” นายรัฎ กล่าว
ล่าสุดบริษัทฯได้ปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ หลังจากที่ตนได้เข้ามาบริหารเมื่อเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีสาเหตุมาจากการที่ธุรกิจคอนสิร์ตที่เป็นหัวใจหลักของบริษัทฯมีความเสี่ยงสูงนั่นเอง ซึ่งคาดว่าโครงสร้างธุรกิจใหม่จะชัดเจนในต้นปีหน้า โดยจะหันมาเน้นธุรกิจสื่อเป็นหลัก จากเดิมเน้นธุรกิจบันเทิง การจัดคอนเสิร์ต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางด้านธุรกิจสื่อ คาดว่าจะสามารถสรุปการเจรจาในเดือนสิงหาคมนี้
โดยโครงสร้างธุรกิจใหม่ของอาดามัสนั้น ในเบื้องต้นในต้นปีหน้า จะมีรายการโทรทัศน์ 1 รายการ และคาดว่าจาการรุกธุรกิจสื่อมากขึ้นนี้จะทำให้รายได้ของบริษัทฯมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี ซึ่งสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯจากเดิมที่มีรายได้จากคอนเสิร์ตเป็นหลัก แต่โครงสร้างใหม่จะเป็นดังนี้ ตัวหลักจะมาจากธุรกิจสื่อ 40% ส่วนงานคอนเสิร์ตเป็น 30% และการจัดกิจกรรมด้านกีฬาอีก 30% นอกจากนี้ยังเป็นรับจ้างผลิตรายการข่าวให้กับช่องที – สปอร์ต แชนแนล ของการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท
นายรัฎ อักษรานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาดามัส เวิลด์ เปิดเผยว่า ธุรกิจคอนเสิร์ตซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักเดิมของบริษัทฯ ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงหากเกิดปัจจัยลบภายนอกองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ปัญหาเรื่องการเมืองที่มีความขัดแย้งกัน
รวมไปถึงขณะนี้ที่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ที่รุนแรงในเวลานี้และส่งผลกระทบต่อภาพรวมที่หลากหลาย
ธุรกิจหลักของบริษัทฯอย่างคอนเสิร์ตก็เป็นการจัดคอนเสิร์ตนำเข้าจากต่างประเทศเช่น จากเกาหลี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งแล้ว และแต่ละครั้ง ในบางครั้งก็มีปัจจัยลบเกิดขึ้นโดยไม่สามารถคดาดการณ์ได้ล่วงหน้า ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนี้มาบริษัทฯเพิ่งจัดคอนเสิร์ตไปได้แค่งานเดียวเองคือ คอนเสิร์ตศิลปินเอสเอ็ม ทาวน์
อย่างไรก็ตาม ในสิ้นปีนี้ อาดามัส ยังมีแผนที่จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่อีก 1 งาน แต่เป็นคอนเสิร์ตของศิลปินในประเทศไทยเอง ไม่ใช่คอนเสิร์ตนำเข้า
“เรื่องปัญหาการเมืองเป็นสิ่งที่เรากังวลมากที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ไม่สามารถควบคุมได้เลย แต่ยังหลีกเลี่ยงยากด้วย ส่วนปัญหาเรื่องสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ตอนนี้ โดยส่วนตัวยังเชื่อว่าไม่นานสถานการณ์คงจะสามารถคลี่คลายลงได้แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบเหมือนกัน ขณะที่เรื่องของเศรษฐกิจนั้นไม่กังวลมากนัก เพราะว่าธุรกิจบันเทิงถือเป็นสิ่งเดียว ที่เป็นทางออกของประชาชนได้” นายรัฎ กล่าว
ล่าสุดบริษัทฯได้ปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ หลังจากที่ตนได้เข้ามาบริหารเมื่อเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีสาเหตุมาจากการที่ธุรกิจคอนสิร์ตที่เป็นหัวใจหลักของบริษัทฯมีความเสี่ยงสูงนั่นเอง ซึ่งคาดว่าโครงสร้างธุรกิจใหม่จะชัดเจนในต้นปีหน้า โดยจะหันมาเน้นธุรกิจสื่อเป็นหลัก จากเดิมเน้นธุรกิจบันเทิง การจัดคอนเสิร์ต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางด้านธุรกิจสื่อ คาดว่าจะสามารถสรุปการเจรจาในเดือนสิงหาคมนี้
โดยโครงสร้างธุรกิจใหม่ของอาดามัสนั้น ในเบื้องต้นในต้นปีหน้า จะมีรายการโทรทัศน์ 1 รายการ และคาดว่าจาการรุกธุรกิจสื่อมากขึ้นนี้จะทำให้รายได้ของบริษัทฯมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี ซึ่งสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯจากเดิมที่มีรายได้จากคอนเสิร์ตเป็นหลัก แต่โครงสร้างใหม่จะเป็นดังนี้ ตัวหลักจะมาจากธุรกิจสื่อ 40% ส่วนงานคอนเสิร์ตเป็น 30% และการจัดกิจกรรมด้านกีฬาอีก 30% นอกจากนี้ยังเป็นรับจ้างผลิตรายการข่าวให้กับช่องที – สปอร์ต แชนแนล ของการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท