xs
xsm
sm
md
lg

สิเรียมบิวตี้ฯเร่งเครื่องแฟรนไชส์ ผ่อนแรงขายสินค้าช่องทางค้าปลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนตกงาน แห่ซื้อแฟรนไชส์ “สิเรียม บิวตี้ แคร์” หวังฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัว เผยปีนี้ธุรกิจสลิม เพื่อสุขภาพ ยังแรงอยู่ เหตุสาวไทยยังพร้อมจ่ายเพื่อรูปร่างที่สวยงาม “นันท์ลภัส” เดินหน้าผุด “สลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม” อีก 3-4 สาขาในปีนี้ แม้ต้องแตะเบรกไลน์สินค้าส่งขายในห้าง มั่นใจสิ้นปียังโตได้ 20% หรือกว่า 60 ล้านบาท

นายชโลธร เส็งสมวงศ์ กรรมการ บริษัท นันท์ลภัส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านแฟรนไชส์ให้บริการความงามและสุขภาพ ภายใต้ร้าน สิเรียม บิวตี้ แคร์ และสลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน”ว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในส่วนของธุรกิจให้บริการความงามและสุขภาพ ยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร โดยภาพรวมธุรกิจดูแลรูปร่างและสุขภาพ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ปีนี้ยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ เพราะกลุ่มเป้าหมายที่ใช้บริการ ส่วนใหญ่จะเป็นระดับกลางขึ้นไปเป็นกลุ่มที่ยังไม่เจอผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยตรง และยังพร้อมจ่ายเพื่อให้ได้รูปร่างและสุขภาพที่ดีอยู่

ขณะเดียวกัน ธุรกิจให้บริการด้านความงามและสุขภาพนี้ ยังเป็นธุรกิจที่มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยในส่วนของ สิเรียม บิวตี้ แคร์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทางบริษัทดำเนินธุรกิจในลักษณะการขายแฟรนไชส์ พบว่า ปีนี้มีผู้สนใจเข้ามาติดต่อซื้อแฟรนไชส์มากกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องการลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว กลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มที่ถูกเลย์ออฟ ซึ่งกลุ่มหลังนี้ พบว่า ปีนี้มีสัดส่วนกว่า 30% จากจำนวนผู้ที่สนใจเข้ามาเจรจาทั้งหมด ขณะที่ปีก่อนมีเพียง 10-20%เท่านั้น

อย่างไรก็ตามทางบริษัท ไม่ได้มุ่งขายแฟรนไชส์มากไปกว่า การที่แฟรนไชน์ที่ขายไปจะต้องอยู่ได้ มีศักยภาพที่ดี ดังนั้นจากเดิมในปีก่อน สิเรียม บิวตี้ แคร์ เปิดให้บริการ 7 สาขา ปีนี้ทั้งปีจะมีการขายเพิ่มอีกไม่เกิน 2 สาขา โดยครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 1 สาขา ช่วงปลายปีจะเปิดอีก 1 สาขาเท่านั้น โดยลูกค้าจะเสียค่าแฟรนไชส์ที่ 5 แสนบาท ในระยะ 3 ปี โดยการต่ออายุแฟรนไชส์หลังจากนี้ จะอยู่ที่ปีละ 2.5 แสนบาท พื้นที่ร้านจะมีขนาดตั้งแต่ 120 ตารางเมตรขึ้นไป ให้บริการด้านบิวตี้ และจำหน่ายสินค้าเพื่อความงาม ภายใต้แบรนด์สิเรียม  

นายชโลธร กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ปีนี้จะมุ่งเน้นการเปิดให้บริการร้านสลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม เป็นหลัก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่บริษัทลงทุนเองทั้งหมด ไม่มีการขายแฟรนไชส์  ตั้งแต่ปีก่อนที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดี มีจำนวนลูกค้าอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ทั้งรายใหม่ และฐานลูกค้าเดิมจาก สิเรียม บิวตี้ แคร์ เข้ามาใช้บริการรวมแล้วมีอัตราการเข้าใช้บริการสูงขึ้น 100% เมื่อเทียบกับยอดลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่สิเรียม บิวตี้ แคร์ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการด้านสลิม60%  บิวตี้30%  และสปา10%  ปีก่อนมีทั้งสิ้น 3 สาขา ที่เซ็นทรัล 2 สาขา และเดอะมอลล์ บางแค 1 สาขา ปีนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 3-4 สาขา โดยแต่ละสาขาจะมีการลงทุนราว 6-10 ล้านบาท เป็นการเปิดภายในห้างสรรพสินค้าทั้งหมด โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 1 สาขา ที่ เซ็นทรัล ชลบุรี

นอกจากนี้ในส่วนของไลน์ธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความงามภายใต้แบรนด์ สิเรียม ปีนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเลื่อนการผลิตสินค้าบางตัวลง หลังจากที่วางแผนจะนำสินค้ากลุ่มนี้ ลุยในช่องทางโมเดิร์นเทรด ในร้านวัตสันและบู๊ทส์ โดยเปลี่ยนทิศทางเป็นนำมาจำหน่ายในร้านเครื่องสำอางทั่วไปแทนซึ่งมีกว่า 40 ร้านทั่วประเทศ

ขณะนี้มีเพียง 2-3 ตัวเท่านั้น คือ กลุ่มไวท์เทนนิ่ง, กันแดด และชะลอริ้วรอย โดยครึ่งปีที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าเหล่านี้มียอดการขายเติบโตขึ้น 20% จากเดิมที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในร้านสิเรียมบิวตี้เท่านั้น หรือทั้งปีรายได้จากกลุ่มสินค้านี้ จะอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้รวมปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีกราว 20% คิดเป็นมูลค่ากว่า 50-60 ล้านบาท มาจาก ร้านสลิมมิ่ง พลัส บาย สิเรียม 60-70% และจากร้านสิเรียม บิวตี้ แคร์ อีกราว 30% ภายใต้งบการตลาดที่ใช้เพียง 5-10 ล้านบาท ใช้น้อยกว่าปีก่อน 30% เพราะปีนี้เน้นใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง  มากกว่าการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในวงกว้างอย่างที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น