xs
xsm
sm
md
lg

“โอสถสภา” รับศึกชิงกำลังซื้อ โหมโปรโมชันหนักครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โอสถสภา อัดฉีด 200 ล้านบาท สู้ศึกสินค้าอุปโภคบริโภคครึ่งปีหลัง ระเบิดสงครามโปรโมชันเดือด หลังผู้บริโภคยังไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจ แห่ซื้อสินค้าคุ้มค่าคุ้มราคา ลั่นเดินเกมลด แลก แจก แถม ช่วงชิงกำลังซื้อสกัดลูกค้าหันไปซื้อสินค้าคู่แข่ง จ่อคิวขยายกำลังผลิตแป้งเด็กเบบี้มายด์ สิ้นปีโต 10% กวาด 6,400 ล้านบาท

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเด็กเบบี้มายด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์โปรโมชัน หรือ ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรง เพื่อกระตุ้นยอดขายและช่วงชิงส่วนแบ่ง หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก และสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ไม่ดีมากนักในช่วงครึ่งปีแรก ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และซื้อสินค้าเท่าที่จำเป็นมากกว่าการซื้อเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ และยังเน้นการเลือกซื้อสินค้าคุ้มค่าคุ้มราคา หรือเลือกสินค้าจัดรายการส่งเสริมการขาย ความภักดีต่อตราสินค้าในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีจึงยิ่งมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ในฐานะภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเดินแผนทำโครงการเมกะโปรเจกต์

แนวทางตลาดของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทใช้กลยุทธ์การทำโปรโมชัน เพื่อรองรับกับการแข่งขันรุนแรงและสกัดกลุ่มเป้าหมายหันไปซื้อสินค้าของคู่แข่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัจจัยการตัดสินใจซื้อสินค้าคำนึงถึงมูลค่าที่จะได้รับเพิ่มจากการทำโปรโมชันเป็นหลัก

ดังนั้น โอกาสที่ผู้บริโภคจะหันไปซื้อสินค้าของคู่แข่งที่ให้มูลค่าหรือข้อเสนอที่ดีกว่าเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก

“แม้ว่าราคาน้ำมันจะผกผันอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา กระทั่งปีนี้มีแนวโน้มว่าราคาจะเพิ่มขึ้น แต่จากสภาพการแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง การขึ้นราคาอาจทำให้สินค้าเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งได้ง่าย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่มีนโยบายปรับราคาสินค้าขึ้น แม้ว่าต้นทุนในปีที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นถึง 20% จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น หรือกระทั่งปีนี้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 10% ก็ตาม”

ขณะเดียวกัน ยังในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้เตรียมงบการตลาด 150-200 ล้านบาท จากทั้งปีใช้ราว 300-400 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำแบรนด์แก่ผู้บริโภค และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทเวลฟ์พลัส 2 กลุ่มใหม่ ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเบบี้มายด์ เน้นทำตลาดโลชั่นและออยล์ เป็นหลัก เนื่องจากเป็นฤดูกาลจำหน่ายสินค้าจากสภาพอากาศหนาวปลายปีนี้ จากการที่แป้งเด็กเบบี้มายด์มีอัตราการเติบโต 50% ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีกำลังผลิต 90% หรือประมาณ 900-1,000 ตันต่อเดือน

สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้า 6,400 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 10% เกินเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้าเติบโต 5% แบ่งเป็นรายได้จากเบบี้มายด์ 20-25% ทเวลฟ์พลัส 20-25% และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เอ็กซิท 5-8% ทั้งนี้ การเติบโตเกินเป้าหมาย มาจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโต 6-7% เกินเป้าหมายที่ตั้งเป้าการเติบโตเป็น 5% โดยมาจากกลุ่มแป้งเด็กเบบี้มายด์ ซึ่งมีอัตราการเติบโต 50% ทเวลฟ์พลัส โคโลญ โต 20% ที่เหลือผลิตภัณฑ์อื่นๆ เติบโตเฉลี่ย 5% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเบบี้มายด์โต 2-3%
กำลังโหลดความคิดเห็น