โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เดินกลยุทธ์ ลด แลก แจก แถม กระตุ้นยอด รับมือวิกฤตเศรษฐกิจ ตลาดอุปโภคบริโภคแข่งสงครามราคา ควัก 50 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญชิงโชคเบบี้มายด์ รอบ 20 ปี หวังอีก 3 ปี โค่นบัลลังก์แคร์ ส่วนรายได้รวมปีนี้โต 5% กวาด 1.8 หมื่นล้านบาท
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดปีนี้บริษัทฯทุ่มงบ 800 -1,000 ล้านบาท มุ่งเน้นกลยุทธ์ ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นกำลังการซื้อของผู้บริโภค ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย และรองรับกับการแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้กลยุท์ ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรง
ล่าสุดนำร่องผลิตภัณฑ์แป้งเบบี้มายด์ ทุ่มงบเกือบ 50 ล้านบาท จากงบรวมเบบี้มายด์ 500 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญเบบี้มายด์ “สวีทตี้พิงค์ สวีทตี้ เลิฟ เล็ตเตอร์” นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่เบบี้มายด์ทำแคมเปญชิงโชค เพื่อรองรับกับการแข่งขันสงครามราคา ซื้อ 1 แถม 1 และแคมเปญชิงโชค ของคู่แข่งอย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 22% และแป้งเด็กแคร์ 42-43% เนื่องจากทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งลดลง
นายวิเชียร กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ การทำแคมเปญต้องมุ่งเน้นกลุ่มวัยรุ่น เพราะมีกำลังการซื้อเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นตลาดใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มคุณแม่ที่มีลูก และที่ผ่านมาปรับโพซิชันนิง และชูจุดขายฟังก์ชันนัล ให้มีความชัดเจนมากขึ้น คาดว่าเบบี้มายด์ จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้น และสามารถกระตุ้นยอดขาย 30% โดยปัจจุบันแป้งเบบี้มายด์ สวีทตี้พิงค์ เจาะกลุ่มวัยรุ่น เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้40%
สำหรับในปี 2554 บริษัทตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยการมีส่วนแบ่ง 40% แทนที่แป้งเด็กแคร์ ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งจาก 22% เป็น 25% จากการเติบโต 30% ขึ้นเป็นอันดับ 2 อย่างชัดเจน และทำให้ทิ้งห่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 2 กับเบบี้มายด์ ส่วนตลาดแป้งเด็กมูลค่า 2,100 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าเติบโต 5-7% จากปีที่ผ่านมาโต 9% ขณะที่ตลาดแป้งโดยรวมปีที่ผ่านมา 4,000 ล้านบาท เติบโต 4%
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาแป้งเย็นทเวลพลัส ในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยนำดาราจากเกาหลี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ประมาณว่าปีนี้ตลาดแป้งเย็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท ไม่เติบโตหรือมีโอกาสติดลบ จากปีที่ผ่านมาตลาดแป้งเย็นหดตัว 4%
ผลประกอบการโอสถสภามาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือมีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมาเติบโตเกิน 10% หรือมีรายได้ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท โดยสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ มาจากกลุ่มแป้งเด็กเบบี้มายด์ และแป้งเย็นทเวลพลัส ตามด้วยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เป็นต้น
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดปีนี้บริษัทฯทุ่มงบ 800 -1,000 ล้านบาท มุ่งเน้นกลยุทธ์ ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นกำลังการซื้อของผู้บริโภค ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย และรองรับกับการแข่งขันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้กลยุท์ ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรง
ล่าสุดนำร่องผลิตภัณฑ์แป้งเบบี้มายด์ ทุ่มงบเกือบ 50 ล้านบาท จากงบรวมเบบี้มายด์ 500 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญเบบี้มายด์ “สวีทตี้พิงค์ สวีทตี้ เลิฟ เล็ตเตอร์” นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่เบบี้มายด์ทำแคมเปญชิงโชค เพื่อรองรับกับการแข่งขันสงครามราคา ซื้อ 1 แถม 1 และแคมเปญชิงโชค ของคู่แข่งอย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 22% และแป้งเด็กแคร์ 42-43% เนื่องจากทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งลดลง
นายวิเชียร กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ การทำแคมเปญต้องมุ่งเน้นกลุ่มวัยรุ่น เพราะมีกำลังการซื้อเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นตลาดใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มคุณแม่ที่มีลูก และที่ผ่านมาปรับโพซิชันนิง และชูจุดขายฟังก์ชันนัล ให้มีความชัดเจนมากขึ้น คาดว่าเบบี้มายด์ จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้น และสามารถกระตุ้นยอดขาย 30% โดยปัจจุบันแป้งเบบี้มายด์ สวีทตี้พิงค์ เจาะกลุ่มวัยรุ่น เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้40%
สำหรับในปี 2554 บริษัทตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยการมีส่วนแบ่ง 40% แทนที่แป้งเด็กแคร์ ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งจาก 22% เป็น 25% จากการเติบโต 30% ขึ้นเป็นอันดับ 2 อย่างชัดเจน และทำให้ทิ้งห่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 2 กับเบบี้มายด์ ส่วนตลาดแป้งเด็กมูลค่า 2,100 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าเติบโต 5-7% จากปีที่ผ่านมาโต 9% ขณะที่ตลาดแป้งโดยรวมปีที่ผ่านมา 4,000 ล้านบาท เติบโต 4%
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาแป้งเย็นทเวลพลัส ในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยนำดาราจากเกาหลี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ประมาณว่าปีนี้ตลาดแป้งเย็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท ไม่เติบโตหรือมีโอกาสติดลบ จากปีที่ผ่านมาตลาดแป้งเย็นหดตัว 4%
ผลประกอบการโอสถสภามาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือมีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมาเติบโตเกิน 10% หรือมีรายได้ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท โดยสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้ มาจากกลุ่มแป้งเด็กเบบี้มายด์ และแป้งเย็นทเวลพลัส ตามด้วยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เป็นต้น