“ขนมบ้านอัยการ” โอดเศรษฐกิจพ่นพิษตลาดขนมและเบเกอรี่ ครึ่งปีแรกยอดขายวูบ 20% พลาดเป้าการเติบโต เร่งลดต้นทุนหวังประคองรายได้ แต่ยันลงทุนต่อเนื่องเดินหน้าขยายสาขาบูธ ผุดสแตนด์อโลน และรุกปั๊มน้ำมันเพิ่ม คาดปีนี้ทรงตัวหรือแย่สุดตกลง 20%
นางธนดา สุวรรณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยู.เอ็ม.ไทร์ดอเตอร์ สวีท ผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่แบรนด์ “ขนมบ้านอัยการ” เปิดเผยว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้คนทั่วไปมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แม้กระทั่งพฤติกรรมการซื้อขนมและเบเกอรี่ เพื่อรับประทาน หรือการซื้อเป็นของฝาก
พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อรายได้รวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทำได้ไม่ถึง 50 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ยอดขายของบริษัทได้ลดลงถึง 20% ขณะที่การซื้อสินค้าต่อบิลของลูกค้าก็ลดลงในอัตรา 20% เช่นเดียวกัน
สำหรับการแก้ปัญหาในเรื่องยอดขายที่ลดลงนั้น ทางบริษัทใช้วิธีการลดต้นทุนภายในบริษัทในด้านต่างๆ เช่น การบริหารต้นทุนสินค้าในการผลิต ตลอดจนการกระตุ้นพนักงานขายให้ขายสินค้าให้ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ และสุดท้ายคือ การลดต้นทุนสินค้าในรายการที่ทำรายได้ไม่สูงมากนัก ซึ่งช่วยให้บริษัทไม่ประสบปัญหาทางด้านการขาดทุน
อีกทั้งบริษัทยังประสบปัญหาเรื่องการจัดหาคนเข้าทำงาน ซึ่งหาได้ยากขึ้น และไม่สามารถหาพนักงานที่เหมาะสมได้ เนื่องจากบัณฑิตที่จบการศึกษาปริญญาตรีส่วนใหญ่มักจะเลือกงาน โดยสนใจที่จะทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง และให้เงินเดือนสูง โดยเฉพาะบัณฑิตที่มีทางบ้านมีฐานะก็เลือกที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโททำให้บริษัทฯเห็นว่าปัญหาคนตกงานในปัจจุบันไม่ใช่เพราะไม่มีตำแหน่งงานว่างให้ทำ แต่เพราะคนเลือกมากเกินไปจึงตกงาน
อย่างไรก็ตาม บริษัทหวังว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ซึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทพบว่ายอดขายสินค้าได้เพิ่มขึ้นแล้วเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมและยังมีช่วงสิ้นปีตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2551 – 15 ม.ค.2552 ซึ่งเป็นฤดูการขายบริษัทคาดว่าจะมียอดขายเติบโตเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา ที่ยอดขายเติบโตในช่วงดังกล่าวถึง 300-400% จากเดือนปกติทั้งปี
แม้ว่ายอดขายจะตกลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ในส่วนของแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ก็จะยังคงมีการขยายสาขาต่อเนื่อง โดยจะเน้นการเข้าไปในห้างสรรพสินค้า โดยจะเปิดบูธจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป 3-4 สาขา ภายใต้งบลงทุน 3-4 แสนบาทต่อบูธ และการขยายสาขาเข้าไปในปั๊มน้ำมันปตท.พรีเมียม ซึ่งในขณะนี้กำลังเลือกสาขาและทำเลในการเปิดดำเนินการอยู่ โดยจะต้องใช้งบลงทุนสาขาละ 1.5 แสนบาท รวมทั้งจะมีการเปิดร้านแบบสแตนด์อโลนอีก 1 สาขา ภายในเมืองทองธานี ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 3 แล้วในบริเวณเดียวกันด้วยงบราว 1-2 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ที่จะทำเฉพาะสาขาในต่างจังหวัด คาดว่าจะสามารถเปิดได้ 1 สาขาที่หาดใหญ่ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 สาขาที่จังหวัดชุมพร ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านขนมบ้านอัยการ และจุดจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 28 แห่ง แบ่งเป็นร้านที่บริหารเอง 23 แห่ง และร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ 5 แห่ง
นางธนดา กล่าวต่อว่า สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่าไม่มีอัตราการเติบโต หรือลดลงราว 20% จากปีที่ผ่านมาที่บริษัทมียอดขายราว 97 ล้านบาท
นางธนดา สุวรรณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยู.เอ็ม.ไทร์ดอเตอร์ สวีท ผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่แบรนด์ “ขนมบ้านอัยการ” เปิดเผยว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้คนทั่วไปมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แม้กระทั่งพฤติกรรมการซื้อขนมและเบเกอรี่ เพื่อรับประทาน หรือการซื้อเป็นของฝาก
พฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อรายได้รวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ทำได้ไม่ถึง 50 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ยอดขายของบริษัทได้ลดลงถึง 20% ขณะที่การซื้อสินค้าต่อบิลของลูกค้าก็ลดลงในอัตรา 20% เช่นเดียวกัน
สำหรับการแก้ปัญหาในเรื่องยอดขายที่ลดลงนั้น ทางบริษัทใช้วิธีการลดต้นทุนภายในบริษัทในด้านต่างๆ เช่น การบริหารต้นทุนสินค้าในการผลิต ตลอดจนการกระตุ้นพนักงานขายให้ขายสินค้าให้ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ และสุดท้ายคือ การลดต้นทุนสินค้าในรายการที่ทำรายได้ไม่สูงมากนัก ซึ่งช่วยให้บริษัทไม่ประสบปัญหาทางด้านการขาดทุน
อีกทั้งบริษัทยังประสบปัญหาเรื่องการจัดหาคนเข้าทำงาน ซึ่งหาได้ยากขึ้น และไม่สามารถหาพนักงานที่เหมาะสมได้ เนื่องจากบัณฑิตที่จบการศึกษาปริญญาตรีส่วนใหญ่มักจะเลือกงาน โดยสนใจที่จะทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง และให้เงินเดือนสูง โดยเฉพาะบัณฑิตที่มีทางบ้านมีฐานะก็เลือกที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโททำให้บริษัทฯเห็นว่าปัญหาคนตกงานในปัจจุบันไม่ใช่เพราะไม่มีตำแหน่งงานว่างให้ทำ แต่เพราะคนเลือกมากเกินไปจึงตกงาน
อย่างไรก็ตาม บริษัทหวังว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น ซึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทพบว่ายอดขายสินค้าได้เพิ่มขึ้นแล้วเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมและยังมีช่วงสิ้นปีตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2551 – 15 ม.ค.2552 ซึ่งเป็นฤดูการขายบริษัทคาดว่าจะมียอดขายเติบโตเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา ที่ยอดขายเติบโตในช่วงดังกล่าวถึง 300-400% จากเดือนปกติทั้งปี
แม้ว่ายอดขายจะตกลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ในส่วนของแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ก็จะยังคงมีการขยายสาขาต่อเนื่อง โดยจะเน้นการเข้าไปในห้างสรรพสินค้า โดยจะเปิดบูธจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป 3-4 สาขา ภายใต้งบลงทุน 3-4 แสนบาทต่อบูธ และการขยายสาขาเข้าไปในปั๊มน้ำมันปตท.พรีเมียม ซึ่งในขณะนี้กำลังเลือกสาขาและทำเลในการเปิดดำเนินการอยู่ โดยจะต้องใช้งบลงทุนสาขาละ 1.5 แสนบาท รวมทั้งจะมีการเปิดร้านแบบสแตนด์อโลนอีก 1 สาขา ภายในเมืองทองธานี ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 3 แล้วในบริเวณเดียวกันด้วยงบราว 1-2 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ที่จะทำเฉพาะสาขาในต่างจังหวัด คาดว่าจะสามารถเปิดได้ 1 สาขาที่หาดใหญ่ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 สาขาที่จังหวัดชุมพร ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านขนมบ้านอัยการ และจุดจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 28 แห่ง แบ่งเป็นร้านที่บริหารเอง 23 แห่ง และร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ 5 แห่ง
นางธนดา กล่าวต่อว่า สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่าไม่มีอัตราการเติบโต หรือลดลงราว 20% จากปีที่ผ่านมาที่บริษัทมียอดขายราว 97 ล้านบาท