ซีอาร์จี ซุ่มเจรจาต่างประเทศ ซื้อแฟรนไชส์แบรนด์อาหารเข้าไทยเสริมพอร์ต ซุ่มปลายปีเปิดตัวใหม่อีกแบรนด์ ขณะที่มิสเตอร์โดนัทเปิดแผนรุกสกัดคู่แข่ง หวังสิ้นปีโกยแชร์เป็น 75%
นายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ มิสเตอร์โดนัท บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ปัจจุบันซีอาร์จีมีการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์ร้านอาหารหลายแบรนด์จากต่างประเทศ ที่สนใจจะนำลิขสิทธิ์เข้ามาเปิดตลาดในไทย ซึ่งมีทั้งแบรนด์ในเครือของพันธมิตรที่ซีอาร์จีถือลิขสิทธิ์อยู่เช่นในเครือมิสเตอร์โดนัท หรือเปปเปอร์ลั้นช์ ซึ่งคาดว่า ในปีนี้จะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ได้อย่างน้อย 1 แบรนด์
นายสุชีพ กล่าวต่อถึงตลาดโดนัท ว่า ตลาดรวมโดนัทแม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีมานานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีแนวโน้มและมีการเติบโตที่ดีอยู่ สังเกตได้จากมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทมั่นใจว่า มิสเตอร์โดนัทเป็นผู้นำตลาดด้วยมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 65% และคาดว่า สิ้นปีนี้จะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 75%
ทั้งนี้ ปี 2552 นี้ มิสเตอร์โดนัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 8-10% และมีกำไรเติบโต 7% แต่ยอมรับว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ มิสเตอร์โดนัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20-30% ขณะที่ปีที่แล้วเติบโตประมาณ 7-10% โดยครึ่งปีแรกมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท โดยมีรายได้เติบโต 7% และกำไรเติบโต 5% คาดว่า สิ้นปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้กว่า 40% ของรายได้รวมซีอาร์จี
สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ จะมีการขยายสาขาเพิ่มประมาณ 10 แห่งที่เป็นรูปแบบใหม่เช่นเดียวกับที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ลงทุนเฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อสาขา และจะรีโนเวทอีก 5 สาขา งบรวม 2.5 ล้านบาท และคาดว่า ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ สาขาเก่าทั้งหมดจะปรับเป็นสาขารูปแบบใหม่ได้ทั้งหมด จากปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 214 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 108 สาขา และในต่างจังหัด 106 สาขา (โดยเป็นรูปแบบครัวเปิด 81 สาขาและเป็นรูปแบบใหม่ 6 สาขา)
ส่วนแผนการตลาดปีนี้ คาดว่า จะใช้งบตลาด 70 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว โดยครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วเกือบ 50% ซึ่งจะเน้นทั้งการจัดกิจกรรม การทำซีเอสอาร์ การออกเมนูใหม่ โดยครึ่งปีหลังจะออกนวัตกรรมเมนูใหม่อีก 3 ชนิด ปัจจุบันเพิ่มเมนู 10 บาทเป็น 8 ชนิดแล้ว จากเดิมมี 4 ชนิด ปัจจุบันมีสมาชิก 150,000 ราย เพิ่มขึ้น 50% โดยมีที่แอคทีฟ 30% และค่าใช้จ่ายของลูกค้าเฉลี่ย 70 บาทต่อบิล แต่มีปริมาณลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น 30%
“สำหรับแคมเปญ อร่อยฮิตชิ้นละ 10 บาท บริษัทฯ ใช้งบตลาดรวม 20 ล้านบาท ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยผลักดันยอดขายเติบโตขึ้นตามเป้าหมาย” นายสุชีพ กล่าว
นายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ มิสเตอร์โดนัท บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ปัจจุบันซีอาร์จีมีการเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์ร้านอาหารหลายแบรนด์จากต่างประเทศ ที่สนใจจะนำลิขสิทธิ์เข้ามาเปิดตลาดในไทย ซึ่งมีทั้งแบรนด์ในเครือของพันธมิตรที่ซีอาร์จีถือลิขสิทธิ์อยู่เช่นในเครือมิสเตอร์โดนัท หรือเปปเปอร์ลั้นช์ ซึ่งคาดว่า ในปีนี้จะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ได้อย่างน้อย 1 แบรนด์
นายสุชีพ กล่าวต่อถึงตลาดโดนัท ว่า ตลาดรวมโดนัทแม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีมานานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีแนวโน้มและมีการเติบโตที่ดีอยู่ สังเกตได้จากมีแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทมั่นใจว่า มิสเตอร์โดนัทเป็นผู้นำตลาดด้วยมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 65% และคาดว่า สิ้นปีนี้จะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 75%
ทั้งนี้ ปี 2552 นี้ มิสเตอร์โดนัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 8-10% และมีกำไรเติบโต 7% แต่ยอมรับว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ มิสเตอร์โดนัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20-30% ขณะที่ปีที่แล้วเติบโตประมาณ 7-10% โดยครึ่งปีแรกมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท โดยมีรายได้เติบโต 7% และกำไรเติบโต 5% คาดว่า สิ้นปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้กว่า 40% ของรายได้รวมซีอาร์จี
สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ จะมีการขยายสาขาเพิ่มประมาณ 10 แห่งที่เป็นรูปแบบใหม่เช่นเดียวกับที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ลงทุนเฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อสาขา และจะรีโนเวทอีก 5 สาขา งบรวม 2.5 ล้านบาท และคาดว่า ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ สาขาเก่าทั้งหมดจะปรับเป็นสาขารูปแบบใหม่ได้ทั้งหมด จากปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 214 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 108 สาขา และในต่างจังหัด 106 สาขา (โดยเป็นรูปแบบครัวเปิด 81 สาขาและเป็นรูปแบบใหม่ 6 สาขา)
ส่วนแผนการตลาดปีนี้ คาดว่า จะใช้งบตลาด 70 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว โดยครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วเกือบ 50% ซึ่งจะเน้นทั้งการจัดกิจกรรม การทำซีเอสอาร์ การออกเมนูใหม่ โดยครึ่งปีหลังจะออกนวัตกรรมเมนูใหม่อีก 3 ชนิด ปัจจุบันเพิ่มเมนู 10 บาทเป็น 8 ชนิดแล้ว จากเดิมมี 4 ชนิด ปัจจุบันมีสมาชิก 150,000 ราย เพิ่มขึ้น 50% โดยมีที่แอคทีฟ 30% และค่าใช้จ่ายของลูกค้าเฉลี่ย 70 บาทต่อบิล แต่มีปริมาณลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น 30%
“สำหรับแคมเปญ อร่อยฮิตชิ้นละ 10 บาท บริษัทฯ ใช้งบตลาดรวม 20 ล้านบาท ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยผลักดันยอดขายเติบโตขึ้นตามเป้าหมาย” นายสุชีพ กล่าว