สหภาพฯ ร.ฟ.ท.ประกาศปิดเดินรถทั่วประเทศ วันนี้ ประท้วงแผนแปรรูป พร้อมจี้ “ซาเล้ง” ยุติโดยทันที เพราะนำแผนเข้า ครม.โดยไม่มีการหารือกับพนักงาน พร้อมตั้งข้อสังเกต การแยกทรัพย์สินเป็น 2 ส่วน โดยจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมารองรับ อาจมีการนำไปเอื้อผลประโยชน์กับกลุ่มทุนการเมือง “ยุทธนา” ยืนยัน ร.ฟ.ท.ถือหุ้น 100% ไม่มีการแบ่งให้เอกชน
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สหภาพได้นัดหมายให้พนักงานสมาชิกสหภาพ หยุดทำงาน โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นพนักงานเดินรถหัวรถจักรให้บริการ เพื่อประท้วงรัฐบาลภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท. (แผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ)
สำหรับแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟนั้น มีเนื้อหาสาระที่มีการจัดตั้งบริษัทลูก ซึ่งสหภาพเห็นว่าเป็นวิธีการแปรรูปกิจการรถไฟฯ และในอนาคตจะนำไปสู่การที่มีเอกชนเข้ามาถือหุ้น เพื่อให้บริการในกิจการเดินรถแทน ร.ฟ.ท.ถือเป็นสิ่งที่พนักงานยอมรับไม่ได้ โดยการหยุดเดินรถครั้งนี้ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ที่มีการเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการและขอให้กลับมาเจรจากับสหภาพก่อนดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด
หลังจากนี้ ในส่วนของสหภาพ พร้อมเจรจากับ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้บริหาร เพื่อให้ได้ทางออกเร็วที่สุด ทั้งนี้ การหยุดเดินรถดังกล่าวสหภาพเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนและต้องขอโทษมา ณ โอกาสนี้และจะพยายามทำให้ปัญหาดังกล่าวคลี่คลายเร็วที่สุด
ด้าน นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในฐานะผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ได้พยายามชี้แจงกับพนักงานและสมาชิกสหภาพให้เข้าใจถึงประเด็นที่ ครม.ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟไปแล้ว โดยยืนยันว่า แผนฟื้นฟูกิจการรถไฟซึ่งมีการจัดตั้งบริษัทลูก ซึ่งทั้ง 2 บริษัททั้งบริษัท บริหารการเดินรถของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และบริษัท บริหารทรัพย์สิน ถือเป็นทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท.และยืนยันว่า ร.ฟ.ท.เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 100 ซึ่งหากในอนาคตมีใครนำบริษัททั้ง 2 แห่งไปให้เอกชนถือหุ้น ร.ฟ.ท.ก็พร้อมยุบเลิกทั้ง 2 บริษัททันทีโดยไม่มีข้อแม้
ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจนว่า การจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อให้การบริหารเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์เกิดความคล่องตัว และสามารถให้บริการได้ในปีนี้ ส่วนบริษัทบริหารทรัพย์สินก็จะเป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจที่จะกลับมาสร้างรายได้ให้แก่ ร.ฟ.ท.เพื่อลดผลขาดทุนสะสมและผลขาดทุนที่จะมีในอนาคต ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่ดีต่อกิจการรถไฟทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม หากสหภาพยังมีจุดยืนที่จะหยุดเดินรถให้บริการฝ่ายบริหารก็พร้อมเปิดโต๊ะเจรจา เพื่อรับฟังข้อเรียกร้อง โดยจะมีการขอให้มาร่วมประชุมหารือวันนี้ (22 มิ.ย.) เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ซึ่งหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากสหภาพ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเจรจากันได้หากไม่มีประเด็นอื่นมาแอบแฝง และสหภาพเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนถึงการหยุดเดินรถครั้งนี้
นายยุทธนา กล่าวว่า เพื่อเป็นการเร่งแก้ไขปัญหาหยุดเดินรถเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ตนได้เรียกประชุมผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ทุกคนเข้าประชุม เพื่อแก้ไขสถานการณ์แล้ว
สำหรับบรรยากาศล่าสุดที่หัวลำโพง ซึ่งปกติในช่วงเช้าจะมีขบวนรถที่ปกติจะออกจากหัวลำโพง 13 ขบวน ได้หยุดเดินรถแล้ว 11 ขบวน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่หัวลำโพงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพาะช่วงเช้า รถไฟจะเป็นขาเข้ามา กทม. เป็นส่วนใหญ่ แต่หากสถานกาณ์ยืดเยื้อ ช่วงสายที่จะมีรถขบวนขาออก ก็คาดว่า จะมีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก
รายงานข่าวระบุว่า ที่สถานีรถไฟแก่งคอย สหภาพ ร.ฟ.ท.บางส่วนพยายามนำหัวรถจักรมากีดขวางราง เพื่อไม่ให้รถไฟใช้เส้นทางได้ ซึ่งหากทำสำเร็จ จะทำให้รถไฟสายอีสานทั้งหมด ได้รับผลกระทบในการเดินรถอย่างแน่นอน
ในส่วนของรถไฟสายใต้ ได้ประกาศหยุดเดินรถไฟทุกขบวนแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ขณะนี้กำลังเคลียร์รถไฟที่ตกค้าง ทั้งรถด่าน รถเร็ว และรถท้องถิ่นอีก 20 ขบวน ให้ถึงปลายทาง ก่อนมารวมตัวกันที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และจะปิดเบ็ดเสร็จทั้งหมดบ่ายนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามมีผู้โดยสารบางส่วนที่ไม่รู้ข่าวเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่สถานีรถไฟจังหวัดพิจิตร บรรยากาศก็ไม่แตกต่างกัน มีประชาชนตกค้างเป็นจำนวนมาก เนื่องจากรถไฟสายเหนืองดบริการเช่นกัน ยกเว้นขบวนธรรมดาเที่ยวล่องพิษณุโลก-กรุงเทพฯ เพียงขบวนเดียว สร้างความเดือดร้อนให้กับนักเรียนและคนทำงานที่ต้องสัญจรด้วยรถไฟเป็นประจำ
เช่นเดียวกับบรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีผู้โดยสารบางตา ขณะที่ทางสถานีก็ประกาศงดขายตั๋วโดยสาร และมีเพียงรถไฟที่เข้ามาจอดตามชานชาลาต่างๆ เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีรถไฟออก ทำให้มีผู้โดยสารบางส่วนตกค้าง แต่ก็สามารถนำตั๋วมาคืนและรับเงินคืนได้เต็มจำนวน เพราะไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า รถไฟจะกลับมาให้บริการตามปกติได้อีกครั้งเมื่อไหร่ ขณะที่สหภาพการรถไฟฯ จะมีการประชุม เพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้อีกครั้งวันนี้