แว่นกรุงไทย-KT Optic ทุ่มงบ 50 ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา เดินหน้าเปิด Flag Ship Store ร้านแว่นตาครบวงจรแห่งแรก ยึดทำเลทองฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต สาขาต้นแบบ ก่อนขยายสู่ ซีคอนสแควร์ ตั้งเป้าโกยยอดขายปีนี้ 880 ล้านบาท
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีพลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารร้าน แว่นกรุงไทย -KT Optic เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนบุกตลาดร้านแว่นตาอย่างจริงจัง โดยเตรียมขยายสาขาใหม่ 18 แห่งปีนี้ เป็นสาขาปกติ 16 แห่ง และสาขาขนาดใหญ่ในรูปแบบ Flag Ship Store (แฟลกชิปสโตร์) 2 แห่ง รวมถึงปรับปรุงสาขาเก่าให้มีรูปลักษณ์ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับกลางถึงบน ด้วยงบลงทุนรวม 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วง 5 เดือนแรกทยอยเปิดสาขาใหม่แล้ว 8 แห่ง โดยในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกที่ห้างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต พื้นที่ 200 ตร.ม.ใหญ่กว่าสาขาปกติถึง 4 เท่า ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับเป็นที่น่าหลังจากเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จึงมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมจัดกิจกรรมโชว์แว่นตาเก่าแก่ยุคเมจิ (ยุคซามูไร) อายุเกือบ 200 ปี นำเข้ามาจากพิพิธภัณฑ์แว่นตา ประเทศญี่ปุ่น ส่วนแฟลกชิบสโตร์แห่งที่ 2 เตรียมเปิดที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์
สำหรับรูปแบบร้ายแว่นตากรุงไทย ได้ปรับปรุงให้แตกต่างจากร้านแว่นตาทั่วไป โดยแยกโซนจัดวางสินค้า พร้อมบริการครบวงจร นายชัชวาล กล่าวต่อว่า ร้านแว่นตาทั่วไปมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ไม่ได้แยกโซนการจัดวางสินค้าอย่างชัดเจน มีมุมกาแฟ และมุมอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเลือกสินค้าได้สะดวกขึ้น
ด้านผลการดำเนินงาน 5 เดือนที่ผ่านมา ทางร้ายมียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ไม่มากนัก ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ทำให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายใช้สอย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถสร้างยอดขายจะได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มียอดขาย 880 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ตลาดแว่นตาโดยรวมมีมูลค่า 5,500 ล้านบาท แว่นกรุงไทย-KT Optic มีส่วนแบ่ง 16% เป็นอันดับ 3 รองจากท็อปเจริญที่เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งการตลาด 30% ตามด้วยบิวตี้ฟูล มี 18% และหอแว่นมีส่วนแบ่งการตลาด 10%
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีพลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารร้าน แว่นกรุงไทย -KT Optic เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนบุกตลาดร้านแว่นตาอย่างจริงจัง โดยเตรียมขยายสาขาใหม่ 18 แห่งปีนี้ เป็นสาขาปกติ 16 แห่ง และสาขาขนาดใหญ่ในรูปแบบ Flag Ship Store (แฟลกชิปสโตร์) 2 แห่ง รวมถึงปรับปรุงสาขาเก่าให้มีรูปลักษณ์ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับกลางถึงบน ด้วยงบลงทุนรวม 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วง 5 เดือนแรกทยอยเปิดสาขาใหม่แล้ว 8 แห่ง โดยในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกที่ห้างฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต พื้นที่ 200 ตร.ม.ใหญ่กว่าสาขาปกติถึง 4 เท่า ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับเป็นที่น่าหลังจากเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จึงมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมจัดกิจกรรมโชว์แว่นตาเก่าแก่ยุคเมจิ (ยุคซามูไร) อายุเกือบ 200 ปี นำเข้ามาจากพิพิธภัณฑ์แว่นตา ประเทศญี่ปุ่น ส่วนแฟลกชิบสโตร์แห่งที่ 2 เตรียมเปิดที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์
สำหรับรูปแบบร้ายแว่นตากรุงไทย ได้ปรับปรุงให้แตกต่างจากร้านแว่นตาทั่วไป โดยแยกโซนจัดวางสินค้า พร้อมบริการครบวงจร นายชัชวาล กล่าวต่อว่า ร้านแว่นตาทั่วไปมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ไม่ได้แยกโซนการจัดวางสินค้าอย่างชัดเจน มีมุมกาแฟ และมุมอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเลือกสินค้าได้สะดวกขึ้น
ด้านผลการดำเนินงาน 5 เดือนที่ผ่านมา ทางร้ายมียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ไม่มากนัก ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ทำให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายใช้สอย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถสร้างยอดขายจะได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มียอดขาย 880 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ตลาดแว่นตาโดยรวมมีมูลค่า 5,500 ล้านบาท แว่นกรุงไทย-KT Optic มีส่วนแบ่ง 16% เป็นอันดับ 3 รองจากท็อปเจริญที่เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งการตลาด 30% ตามด้วยบิวตี้ฟูล มี 18% และหอแว่นมีส่วนแบ่งการตลาด 10%