รักษาการผู้ว่า ททท. รับคำติจากเอกชนในโครงการเที่ยวไทย 5 ภาค เล็งปรับความเข้มข้นของกิจกรรม แต่ยืนยันไม่ลดงบ ล่าสุดเปิดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2009 กระหึ่ม เอกชน ยกทัพสินค้าท่องเที่ยวกระหน่ำลดราคา 50-70% หวังปลุกกระแสคนไทยเดินทางท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ “ชุมพล” ฝันเงินสะพัดงานนี้กว่า 1,000 ล้านบาท
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการ ททท. กล่าวถึงกรณีการติชมของภาคเอกชน ในเรื่องของการใช้งบประมาณฉุกเฉินจำนวน 1,000 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมของ ททท. ว่าไม่สมเหตุสมผลนั้น ททท.ขอรับไว้พิจารณา โดยเฉพาะโครงการเทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค ที่ใช้งบประมาณภาคละ 20 ล้านบาท ที่ถูกท้วงติงมามากนั้น
ล่าสุดได้มอบให้ นายอักกพล พฤษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว และนายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ไปเร่งปรับปรุงเนื้อหาการจัดงานให้เข้มข้นขึ้น เช่น การเพิ่มกิจกรรมในการจัดงานในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ในเรื่องของสถานที่จัดงาน และ งบประมาณ ยังยืนยันที่จะจัดในจังหวัดที่วางไว้แล้ว โดยเหลืออีก 4 แห่ง คือ พิษณุโลก อยุธยา นครศรีธรรมราช และ อุบลราชธานี เพราะได้ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดททท.ไปแล้ว
ล่าสุดททท.ใช้งบจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552 และ งานทีทีเอ็ม พลัส 2009 ไปพร้อมกัน โดยใช้งบการจัดงานประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาคในงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย นอกจากจะแสดงให้คนไทยได้ชมแล้ว ยังเป็นหน้าร้าน นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของไทย ให้ผู้ซื้อต่างชาติกว่า 360 ราย จาก 51 ประเทศ ที่มาร่วมงานเทรด ทีทีเอ็มพลัส 2009 ได้ชมด้วย
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน ”เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552” ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า งานดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพราะถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ทั่วทุกภูมิภาค
สำหรับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ ททท.ได้จัดกิจกรรมการแสดง 4 ภาค ตลอดงาน พร้อมจัดพื้นที่ให้แก่ภาคเอกชน สมาคมฯและหน่วยงาน ด้านการท่องเที่ยวมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าและบริการท่องเที่ยว กว่า 350 บูธ นำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวในราคาลดพิเศษ คาดว่าจะเกิดการซื้อขายแพกเกจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ตลอดจนสินค้าและบริการท่องเที่ยวภายในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนคน ตลอดการจัดงานระหว่างวันที่ 3-7 มิ.ย.52 ที่ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552 ผู้ประกอบการโรงแรม และรีสอร์ท ตลอดจนบริษัทนำเที่ยว ได้จัดแพกเกจนำเที่ยว และ ห้องพักในราคาพิเศษมาเสนอขายแก่ผู้เข้าชม ในราคาลดพิเศษ 50-70% จากราคาปกติ โดยในวันแรกของการจัดงาน ยังมีประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมงานยังไม่คึกคักมากนัก
ทั้งนี้การลดราคาสินค้าและบริการ นับว่าเป็นราคาที่ลดมากกว่าทุกๆปีที่จัดงาน โยมีโรงแรมระดับเชน อย่าง ไอบิส ซึ่งอยู่ในเครือของแอคคอร์ มานำเสนอขายห้องพัก สำหรับ 2 ท่านในราคา คืนละ 999 บาท ในทุกโลเกชั่น เช่น สมุย ภูเก็ต พัทยา และ กรุงเทพฯ ขณะที่ จ.กระบี่ นำเสนอขายแพกเกจท่องเที่ยวในราคา 5,999 บาท รวมที่พัก อาหาร ทัวร์นำเที่ยว และบริการรถรับส่งสนามบิน ส่วนภาพรวมของราคาแพกเกจและที่พักที่ขายภายในงานนี้ มีราคาถูกสุดเริ่มที่ 300-400 บาท ต่อคน
การลดราคาของผู้ประกอบการครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการต้องการพึ่งตลาดคนไทยให้เที่ยวในประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงโลวซีซั่นปีนี้ และยังได้จัดแพกเกจในราคาที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นผลให้คนไทยมีกำลังซื้อลดลง ดังนั้นการจัดโปรโมชั่น ลด แจก แถม จึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้
ทางด้านนายวุฒิชัย มากวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทหนุ่มสาวทัวร์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับททท.ภาคใต้ จัดแคมเปญ วสันต์หรรษา กระบี่-พังงา จัดเส้นทางเที่ยว จ.กระบี่ และพังงา แพกเกจละ 3,900 บาท ลด 50% จากราคาปกติ 7,900 บาท จำกัดเพียง 80 คนแรกที่จองซื้อภายในงาน ส่วนเส้นทางอื่นๆ เช่น กรุงเทพฯ-เชียงราย เสนอขายในราคา 4,999 บาท ลดลงกว่า 50% เช่นกัน โดยหวังกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายและเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการ ททท. กล่าวถึงกรณีการติชมของภาคเอกชน ในเรื่องของการใช้งบประมาณฉุกเฉินจำนวน 1,000 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมของ ททท. ว่าไม่สมเหตุสมผลนั้น ททท.ขอรับไว้พิจารณา โดยเฉพาะโครงการเทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค ที่ใช้งบประมาณภาคละ 20 ล้านบาท ที่ถูกท้วงติงมามากนั้น
ล่าสุดได้มอบให้ นายอักกพล พฤษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว และนายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ไปเร่งปรับปรุงเนื้อหาการจัดงานให้เข้มข้นขึ้น เช่น การเพิ่มกิจกรรมในการจัดงานในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ในเรื่องของสถานที่จัดงาน และ งบประมาณ ยังยืนยันที่จะจัดในจังหวัดที่วางไว้แล้ว โดยเหลืออีก 4 แห่ง คือ พิษณุโลก อยุธยา นครศรีธรรมราช และ อุบลราชธานี เพราะได้ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดททท.ไปแล้ว
ล่าสุดททท.ใช้งบจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552 และ งานทีทีเอ็ม พลัส 2009 ไปพร้อมกัน โดยใช้งบการจัดงานประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาคในงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย นอกจากจะแสดงให้คนไทยได้ชมแล้ว ยังเป็นหน้าร้าน นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของไทย ให้ผู้ซื้อต่างชาติกว่า 360 ราย จาก 51 ประเทศ ที่มาร่วมงานเทรด ทีทีเอ็มพลัส 2009 ได้ชมด้วย
นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน ”เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552” ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า งานดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพราะถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ทั่วทุกภูมิภาค
สำหรับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ ททท.ได้จัดกิจกรรมการแสดง 4 ภาค ตลอดงาน พร้อมจัดพื้นที่ให้แก่ภาคเอกชน สมาคมฯและหน่วยงาน ด้านการท่องเที่ยวมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าและบริการท่องเที่ยว กว่า 350 บูธ นำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวในราคาลดพิเศษ คาดว่าจะเกิดการซื้อขายแพกเกจท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ตลอดจนสินค้าและบริการท่องเที่ยวภายในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนคน ตลอดการจัดงานระหว่างวันที่ 3-7 มิ.ย.52 ที่ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2552 ผู้ประกอบการโรงแรม และรีสอร์ท ตลอดจนบริษัทนำเที่ยว ได้จัดแพกเกจนำเที่ยว และ ห้องพักในราคาพิเศษมาเสนอขายแก่ผู้เข้าชม ในราคาลดพิเศษ 50-70% จากราคาปกติ โดยในวันแรกของการจัดงาน ยังมีประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมงานยังไม่คึกคักมากนัก
ทั้งนี้การลดราคาสินค้าและบริการ นับว่าเป็นราคาที่ลดมากกว่าทุกๆปีที่จัดงาน โยมีโรงแรมระดับเชน อย่าง ไอบิส ซึ่งอยู่ในเครือของแอคคอร์ มานำเสนอขายห้องพัก สำหรับ 2 ท่านในราคา คืนละ 999 บาท ในทุกโลเกชั่น เช่น สมุย ภูเก็ต พัทยา และ กรุงเทพฯ ขณะที่ จ.กระบี่ นำเสนอขายแพกเกจท่องเที่ยวในราคา 5,999 บาท รวมที่พัก อาหาร ทัวร์นำเที่ยว และบริการรถรับส่งสนามบิน ส่วนภาพรวมของราคาแพกเกจและที่พักที่ขายภายในงานนี้ มีราคาถูกสุดเริ่มที่ 300-400 บาท ต่อคน
การลดราคาของผู้ประกอบการครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการต้องการพึ่งตลาดคนไทยให้เที่ยวในประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงโลวซีซั่นปีนี้ และยังได้จัดแพกเกจในราคาที่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นผลให้คนไทยมีกำลังซื้อลดลง ดังนั้นการจัดโปรโมชั่น ลด แจก แถม จึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้
ทางด้านนายวุฒิชัย มากวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทหนุ่มสาวทัวร์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับททท.ภาคใต้ จัดแคมเปญ วสันต์หรรษา กระบี่-พังงา จัดเส้นทางเที่ยว จ.กระบี่ และพังงา แพกเกจละ 3,900 บาท ลด 50% จากราคาปกติ 7,900 บาท จำกัดเพียง 80 คนแรกที่จองซื้อภายในงาน ส่วนเส้นทางอื่นๆ เช่น กรุงเทพฯ-เชียงราย เสนอขายในราคา 4,999 บาท ลดลงกว่า 50% เช่นกัน โดยหวังกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายและเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก