ทัพสินค้า ชี้ เศรษฐกิจครึ่งปีหลังไม่แตกต่างจากครึ่งปีแรก คนไทยปรับวิธีการใช้เงิน กำลังซื้อไม่กระเตื้อง ยันแม้มีสัญญาณบวกอเมริกาเริ่มฟื้น ออร์เดอร์ส่งออกไทยเริ่มดี แต่หวั่นไข้หวัด 2009 กระทบภาคธุรกิจชะงักงัน ระบุการเมืองตัวแปรสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย “ไลอ้อน” ดัมป์ราคาสินค้า 10-40% งานสหพัฒน์ กรุ๊ป แฟร์รับตลาดอุปโภคบริโภคแข่งสงครามราคาเดือด
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ทิศทางภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังไม่แตกต่างจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ซึ่งหากมีการประกาศเพิ่มระดับเตือนภัยเป็นระดับ 6 จะกระทบต่อภาพรวมธุรกิจชะงักงันอย่างแน่นอนและจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าขณะนี้การฟื้นเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มดีขึ้นก็ตาม ขณะที่การส่งออกของประเทศไทยเริ่มมีออเดอร์สินค้า ส่วนด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค ก็ไม่ได้ดีขึ้นหรือว่าแตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรก
สำหรับตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคแม้ว่าปีนี้ต้องผจญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ แต่ตลาดไม่ได้ถดถอยโดยยังเติบโตบวก 2-3% โดยการเติบโตที่น้อยมาจากการแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการงัดสงครามราคา เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ ทำให้รายได้หรือการเติบโตในเชิงมูลค่าลดลง
ล่าสุดในงานสหพัฒน์ กรุ๊ป แฟร์ : เทรด-เอ็กซ์พอร์ต-เอ็กซิบิวชั่น ปีนี้ไลอ้อน ได้จัดสินค้าร่วมลดราคาโดยเฉลี่ย 10-40% เพื่อลดค่าครองชีพของผู้บริโภค และประการสำคัญรองรับกับแข่งขันหลังจากบริษัทยูนิลีเวอร์ จัดแคมเปญไชโย เซล ลดราคาสินค้า 30% ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น จากผลประกอบการไลอ้อนช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 5% ต่ำกว่าเป้าหมาย
***ซีพีเอฟระบุเศรษฐกิจครึ่งหลังไม่ฟื้น***
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดหน่ายอาหารพร้อมทานซีพี เปิดเผยว่า แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ไม่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคมีการปรับวิธีการจับจ่ายใช้สอย โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สำหรับตลาดอาหารพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคลดการกินข้าวนอกบ้านน้อยลง และหันไปกินข้าวที่บ้าน โดยซื้ออาหารพร้อมทานหรือปรุงเองมากขึ้น
สำหรับตลาดอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน มองว่า เป็นโอกาสทางการตลาด แม้กระทั่งโมเดิร์นเทรดเริ่มทำสินค้าเฮาส์แบรนด์จำหน่ายเช่นเดียวกับ โดยใช้กลยุทธ์ราคาถูกกว่า 10-15% ตอบโจทย์ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย โดยบริษัทคาดว่าสถานการณ์ตลาดอาหารเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะนี้ผู้ประกอบการแต่ละค่ายแข่งขันสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ
***ส.ขายตรงไทยฯชี้การเมืองตัวแปร***
พญ.นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยพบว่า ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ดีมากนัก แต่ในด้านจิตวิทยาเริ่มดีขึ้น และเริ่มปรับตัวจากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและความวุ่นวายการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ส่วนธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มดีขึ้นจากการที่เป็นฤดูกาลจำหน่ายสินค้าในช่วงปลายปี ซึ่งขณะนี้ยอดขายของกิฟฟารีนในช่วงเดือนพฤษภาคมเริ่มเติบโตเพิ่มขึ้น สำหรับกิฟฟารีนในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าเติบโต 10-12% แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหลักกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
***ส.การค้าส่งชี้เศรษฐครึ่งหลังเริ่มดี***
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากการที่ภาคการส่งออกเริ่มมีออร์เดอร์จากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสกัดไม่ให้มีผู้ที่ตกงานไปมากกว่านี้ สำหรับในส่วนค้าปลีกและค้าส่ง ช่วงครึ่งปีหลังมองว่ายังไปได้ แต่ก็ไม่มีการเติบโตมาก เพราะส่วนใหญ่สินค้าที่จำหน่ายในโชวห่วยเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ต้องกินต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
“กำลังซื้อของผู้บริโภคช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ลดลงอย่างมาก สังเกตได้จากบริษัทยูนิลีเวอร์ ส่งแคมเปญไชโย เซล ลดราคาสินค้าสูงถึง 30% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคตกลง ทำให้ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภคครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในหลายตลาด ต้องทำแคมเปญลดราคา เพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาส่วนแบ่งตลาด” นายสมชาย กล่าว
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ทิศทางภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังไม่แตกต่างจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ซึ่งหากมีการประกาศเพิ่มระดับเตือนภัยเป็นระดับ 6 จะกระทบต่อภาพรวมธุรกิจชะงักงันอย่างแน่นอนและจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าขณะนี้การฟื้นเศรษฐกิจอเมริกาเริ่มดีขึ้นก็ตาม ขณะที่การส่งออกของประเทศไทยเริ่มมีออเดอร์สินค้า ส่วนด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค ก็ไม่ได้ดีขึ้นหรือว่าแตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรก
สำหรับตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคแม้ว่าปีนี้ต้องผจญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ แต่ตลาดไม่ได้ถดถอยโดยยังเติบโตบวก 2-3% โดยการเติบโตที่น้อยมาจากการแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการงัดสงครามราคา เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ ทำให้รายได้หรือการเติบโตในเชิงมูลค่าลดลง
ล่าสุดในงานสหพัฒน์ กรุ๊ป แฟร์ : เทรด-เอ็กซ์พอร์ต-เอ็กซิบิวชั่น ปีนี้ไลอ้อน ได้จัดสินค้าร่วมลดราคาโดยเฉลี่ย 10-40% เพื่อลดค่าครองชีพของผู้บริโภค และประการสำคัญรองรับกับแข่งขันหลังจากบริษัทยูนิลีเวอร์ จัดแคมเปญไชโย เซล ลดราคาสินค้า 30% ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น จากผลประกอบการไลอ้อนช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 5% ต่ำกว่าเป้าหมาย
***ซีพีเอฟระบุเศรษฐกิจครึ่งหลังไม่ฟื้น***
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดหน่ายอาหารพร้อมทานซีพี เปิดเผยว่า แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ไม่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคมีการปรับวิธีการจับจ่ายใช้สอย โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สำหรับตลาดอาหารพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคลดการกินข้าวนอกบ้านน้อยลง และหันไปกินข้าวที่บ้าน โดยซื้ออาหารพร้อมทานหรือปรุงเองมากขึ้น
สำหรับตลาดอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน มองว่า เป็นโอกาสทางการตลาด แม้กระทั่งโมเดิร์นเทรดเริ่มทำสินค้าเฮาส์แบรนด์จำหน่ายเช่นเดียวกับ โดยใช้กลยุทธ์ราคาถูกกว่า 10-15% ตอบโจทย์ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย โดยบริษัทคาดว่าสถานการณ์ตลาดอาหารเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะนี้ผู้ประกอบการแต่ละค่ายแข่งขันสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ
***ส.ขายตรงไทยฯชี้การเมืองตัวแปร***
พญ.นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยพบว่า ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ดีมากนัก แต่ในด้านจิตวิทยาเริ่มดีขึ้น และเริ่มปรับตัวจากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและความวุ่นวายการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ส่วนธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มดีขึ้นจากการที่เป็นฤดูกาลจำหน่ายสินค้าในช่วงปลายปี ซึ่งขณะนี้ยอดขายของกิฟฟารีนในช่วงเดือนพฤษภาคมเริ่มเติบโตเพิ่มขึ้น สำหรับกิฟฟารีนในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าเติบโต 10-12% แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหลักกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
***ส.การค้าส่งชี้เศรษฐครึ่งหลังเริ่มดี***
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากการที่ภาคการส่งออกเริ่มมีออร์เดอร์จากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสกัดไม่ให้มีผู้ที่ตกงานไปมากกว่านี้ สำหรับในส่วนค้าปลีกและค้าส่ง ช่วงครึ่งปีหลังมองว่ายังไปได้ แต่ก็ไม่มีการเติบโตมาก เพราะส่วนใหญ่สินค้าที่จำหน่ายในโชวห่วยเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ต้องกินต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
“กำลังซื้อของผู้บริโภคช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ลดลงอย่างมาก สังเกตได้จากบริษัทยูนิลีเวอร์ ส่งแคมเปญไชโย เซล ลดราคาสินค้าสูงถึง 30% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคตกลง ทำให้ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภคครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในหลายตลาด ต้องทำแคมเปญลดราคา เพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาส่วนแบ่งตลาด” นายสมชาย กล่าว