เรตติ้งข่าวภาคประเด็นเด็ด 7 สี จากฝีมือ มีเดียฯ ฟุ้งชนะ ข่าว 3 มิติ ช่อง7 เชื่อใจ ส่งเวลาข่าวเช้า ให้ทำเพิ่ม คุยสิ้นปีรายได้เพิ่มอีก 200 ล้านบาท
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางบริษัท ได้เข้ามาทำรายการข่าวภาคดึก ช่วงเวลาประมาณ 22.15 น. ทางช่อง 7 สี พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา เรตติ้งรายการข่าวดังกล่าว มีบางวันที่มีเรตติ้งสูงถึง 7.5 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าของทาง รายการข่าว 3 มิติ ของทางช่อง3 ซึ่งผลการทำงานดังกล่าว ส่งผลให้ทางช่อง7 ได้ไว้วางใจให้ทางบริษัท เข้ามาดูแลข่าวช่วงเช้า แทนรายการจมูกมดด้วยโดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้เป็นต้นไป ภายใต้ชื่อ “เช้านี้ ที่หมอชิต”
โดยรูปแบบรายการที่นำเสนอนั้น จะมีความแตกต่างจากรายการข่าวเช้าทั่วไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ ผู้รู้ ผู้เล่า ชูผู้ที่มีความรู้ในวงการต่างๆ มาเป้นผุ้นำเสนอเนื้อหาและวิเคราะห์ข่าว เช่น นายวีระ ธีรภัทร มาวิเคราะห์เรื่องเศรษฐกิจ, นายปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, นายสมจิตร จงจอหอและนายภราดร ศรีชาพันธุ์ มาวิเคราะห์ข่าวกีฬา เป็นต้น
เชื่อว่าหลังจากที่ได้เวลามาทำรายการข่าวช่วงเช้าแล้ว ทั้ง 2 รายการจะสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทฯอีกราว 200 ล้านบาท จากปัจจุบันรายการประเด็นเด็ด7สี ขายโฆษณานาทีละ 3 แสน ขณะที่เช้านี้ ที่หมอชิต ตั้งเวลาโฆษณาขายไว้ที่นาทีละ 1.2 แสน รวมแล้วทั้ง 2 รายการจะทำให้มีเวลาในการขายโฆษณารวมเป็น 1,172 นาทีต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะทำให้อัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเป็น14-16% ในปีนี้ จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 990 ล้านบาท
นางชาลอต กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่าตนถูกทาบทามให้ขึ้นมาบริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 นั้น มันเป็นแค่เพียงข่าวลือเท่านั้น ตนมุ่งทำงานบริหารมีเดียฯเต็มที่มากกว่า โดยปีนี้จะเห็นถึงความชัดเจนของการทำงานของมีเดียฯชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทีวีดาวเทียมและเม็ดเงินรายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางบริษัท ได้เข้ามาทำรายการข่าวภาคดึก ช่วงเวลาประมาณ 22.15 น. ทางช่อง 7 สี พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา เรตติ้งรายการข่าวดังกล่าว มีบางวันที่มีเรตติ้งสูงถึง 7.5 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าของทาง รายการข่าว 3 มิติ ของทางช่อง3 ซึ่งผลการทำงานดังกล่าว ส่งผลให้ทางช่อง7 ได้ไว้วางใจให้ทางบริษัท เข้ามาดูแลข่าวช่วงเช้า แทนรายการจมูกมดด้วยโดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้เป็นต้นไป ภายใต้ชื่อ “เช้านี้ ที่หมอชิต”
โดยรูปแบบรายการที่นำเสนอนั้น จะมีความแตกต่างจากรายการข่าวเช้าทั่วไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ ผู้รู้ ผู้เล่า ชูผู้ที่มีความรู้ในวงการต่างๆ มาเป้นผุ้นำเสนอเนื้อหาและวิเคราะห์ข่าว เช่น นายวีระ ธีรภัทร มาวิเคราะห์เรื่องเศรษฐกิจ, นายปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, นายสมจิตร จงจอหอและนายภราดร ศรีชาพันธุ์ มาวิเคราะห์ข่าวกีฬา เป็นต้น
เชื่อว่าหลังจากที่ได้เวลามาทำรายการข่าวช่วงเช้าแล้ว ทั้ง 2 รายการจะสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทฯอีกราว 200 ล้านบาท จากปัจจุบันรายการประเด็นเด็ด7สี ขายโฆษณานาทีละ 3 แสน ขณะที่เช้านี้ ที่หมอชิต ตั้งเวลาโฆษณาขายไว้ที่นาทีละ 1.2 แสน รวมแล้วทั้ง 2 รายการจะทำให้มีเวลาในการขายโฆษณารวมเป็น 1,172 นาทีต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะทำให้อัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเป็น14-16% ในปีนี้ จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 990 ล้านบาท
นางชาลอต กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่าตนถูกทาบทามให้ขึ้นมาบริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 นั้น มันเป็นแค่เพียงข่าวลือเท่านั้น ตนมุ่งทำงานบริหารมีเดียฯเต็มที่มากกว่า โดยปีนี้จะเห็นถึงความชัดเจนของการทำงานของมีเดียฯชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทีวีดาวเทียมและเม็ดเงินรายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง