เซสปรี ยักษ์ใหญ่กีวีจากนิวซีแลนด์ ลุยตลาดผลไม้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เต็มสูบ หลังตลาดโตพรวด วางหมากบุกไทยระยะยาว ผุดแคมเปญ”สุดยอดพลังสารอาหาร เพื่อที่สุดของพลังชีวิต” หวังป้อนความรู้ด้านโภชนาการ สร้างความต่างและตอกย้ำแบรนด์กีวีเซสปรี ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าคนไทยเพิ่ม สิ้นปีโต 100% จากยอด 1.2 แสนลัง
นายแดเนียล แมททิสัน ผู้จัดการตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล (เอเชีย) จำกัด ผู้ผลิตและนำเข้ากีวีจากประเทศนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเร็วมาก และยังมีช่องว่างทางการตลาด เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนไทยชอบรับประทานขนมหวาน
ดังนั้นบริษัทจึงค่อนข้างให้ความสำคัญและดำเนินการตลาดเชิงรุก ซึ่งแม้ว่ารายได้ในภูมิภาคนี้คิดเป็น 1.2% จากรายได้รวม 1,000 ล้านดอลล่าร์ฯ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี รวมทั้งจีน นับว่าเป็นตลาดที่เติบโตเร็ว ส่วนตลาดใหญ่ที่สุด คือ ประเทศญี่ปุ่น มีสัดส่วนรายได้ 16%
จากการทำตลาดในประเทศไทยมากว่า 10 ปี นโยบายการขยายตลาดในปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นการให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้บริโภคคนไทย ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่บริษัททำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างกีวีนำเข้าจากนิวซีแลนด์ กับผู้ประกอบการนำเข้ากีวีอื่นๆ อาทิ จีน อิตาลี ชิลี และฝรั่งเศส
เพราะเป้าหมายของบริษัทต้องการทำตลาดกีวีในประเทศไทยระยะยาว จากปัจจุบันบริษัทมีทั้งกีวีเขียว วางกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ และกีวีทอง เจาะกลุ่มเด็ก
“การที่บริษัทต้องการสร้างความแตกต่าง เพื่อรองรับกับการแข่งขันของตลาด เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ พฤติกรรมของคนไทยชอบรับประทานผลไม้ และใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ การตัดสินใจซื้อผลไม้คำนึงถึงโภชนาการมากขึ้น”
ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญการตลาดภายใต้คอนเซปต์”สุดยอดพลังสารอาหาร เพื่อที่สุดของพลังชีวิต” โดยจะให้ความรู้ด้านโภชนาการผ่านกิจกรรมต่างๆ ทางสื่อโฆษณานิตยสาร วิทยุ และมีการจัดอบรมให้กับพนักงานขายผ่านทางช่องทางค้าปลีก อาทิ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แมคโคร เดอะมอลล์ เป็นต้น โดยจะเริ่มในเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน และจัดโรดโชว์ตามโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษา 30-40แห่ง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเด็กนักเรียนเพิ่มจาก 1 หมื่นราย เป็น 2 หมื่นราย
สำหรับรายได้ในประเทศไทยปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 100% จากในปีที่ผ่านมาเซสปรีกีวี เติบโต 50% หรือรวมประมาณ 1.2 แสนลัง และจากการจัดแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลทางโภชนาการ คาดว่าจะผลักดันให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์เซสปรีมากขึ้น นอกจากนี้ยังขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคคนไทยเพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมาลูกค้าหลัก ยังคงเป็นคนต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในไทย
นายแดเนียล แมททิสัน ผู้จัดการตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล (เอเชีย) จำกัด ผู้ผลิตและนำเข้ากีวีจากประเทศนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเร็วมาก และยังมีช่องว่างทางการตลาด เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยเฉพาะคนไทยชอบรับประทานขนมหวาน
ดังนั้นบริษัทจึงค่อนข้างให้ความสำคัญและดำเนินการตลาดเชิงรุก ซึ่งแม้ว่ารายได้ในภูมิภาคนี้คิดเป็น 1.2% จากรายได้รวม 1,000 ล้านดอลล่าร์ฯ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี รวมทั้งจีน นับว่าเป็นตลาดที่เติบโตเร็ว ส่วนตลาดใหญ่ที่สุด คือ ประเทศญี่ปุ่น มีสัดส่วนรายได้ 16%
จากการทำตลาดในประเทศไทยมากว่า 10 ปี นโยบายการขยายตลาดในปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นการให้ข้อมูลและความรู้แก่ผู้บริโภคคนไทย ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่บริษัททำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างกีวีนำเข้าจากนิวซีแลนด์ กับผู้ประกอบการนำเข้ากีวีอื่นๆ อาทิ จีน อิตาลี ชิลี และฝรั่งเศส
เพราะเป้าหมายของบริษัทต้องการทำตลาดกีวีในประเทศไทยระยะยาว จากปัจจุบันบริษัทมีทั้งกีวีเขียว วางกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ และกีวีทอง เจาะกลุ่มเด็ก
“การที่บริษัทต้องการสร้างความแตกต่าง เพื่อรองรับกับการแข่งขันของตลาด เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ พฤติกรรมของคนไทยชอบรับประทานผลไม้ และใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ การตัดสินใจซื้อผลไม้คำนึงถึงโภชนาการมากขึ้น”
ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญการตลาดภายใต้คอนเซปต์”สุดยอดพลังสารอาหาร เพื่อที่สุดของพลังชีวิต” โดยจะให้ความรู้ด้านโภชนาการผ่านกิจกรรมต่างๆ ทางสื่อโฆษณานิตยสาร วิทยุ และมีการจัดอบรมให้กับพนักงานขายผ่านทางช่องทางค้าปลีก อาทิ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แมคโคร เดอะมอลล์ เป็นต้น โดยจะเริ่มในเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน และจัดโรดโชว์ตามโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษา 30-40แห่ง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเด็กนักเรียนเพิ่มจาก 1 หมื่นราย เป็น 2 หมื่นราย
สำหรับรายได้ในประเทศไทยปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 100% จากในปีที่ผ่านมาเซสปรีกีวี เติบโต 50% หรือรวมประมาณ 1.2 แสนลัง และจากการจัดแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลทางโภชนาการ คาดว่าจะผลักดันให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์เซสปรีมากขึ้น นอกจากนี้ยังขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคคนไทยเพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมาลูกค้าหลัก ยังคงเป็นคนต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในไทย
