xs
xsm
sm
md
lg

ธ.ก.ส.รับอัดฉีด 3 แสนล้าน เน้นสร้างงาน ตจว.4 หมื่น ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธ.ก.ส.สวนกระแสเศรษฐกิจเดินหน้าปล่อยสินเชื่อ 3.23 แสนล้าน เข้าสู่ระบบสร้างงานสร้างรายได้ในชนบทช่วงเศรษฐกิจถดถอยหลังพบสัญญาณแบงก์พาณิชย์เข้มงวดปล่อยกู้ พร้อมปรับโครงสร้างดอกเบี้ยใหม่จาก 5 ระดับเป็น 9 ระดับลดระยะห่างจาก 0.75% เป็น 0.25% ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มและเพิ่มความคล่องตัวการปรับขึ้นลดดอกเบี้ยของธนาคาร

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ รักษาการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส ) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 2552 (เม.ย.52 - มี.ค.53) ธนาคารมีแผนปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบจำนวนทั้งสิ้น 3.23 แสนล้านบาท เพื่อเป็นส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเมื่อเทียบกับสมัยวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ธ.ก.ส.ได้ปล่อยสินเชื่อในช่วงนั้น 1.4 แสนล้านบาท โดยเชื่อว่าจะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง

“สินเชื่อ 3.23 แสนล้านบาทที่ ธ.ก.ส.ตั้งเป้าในปีบัญชีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 9.49% เมื่อดูจากผลงานในปีที่ผ่านมาก็สามารถทำได้เกินเป้าหมายได้ทุกด้าน โดยภาคเกษตรนี้ถือว่ามีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเนื่องจากจะมีแรงงานในภาคอุตสาหกรรมบางส่วนที่ว่างงานกลับเข้าสู่ภาคเกษตร ดังนั้นธ.ก.ส.จึงเตรียมสินเชื่อไว้รองรับแรงงานเหล่านี้” นายเอ็นนู กล่าวและว่า สินเชื่อจะเข้าไปหมุนเวียนในระบบผ่านทางภาคการเกษตรซึ่งเป็นหน้าที่ที่ ธ.ก.ส.ต้องเข้าไปดำเนินการหากปล่อยทิ้งไว้นานจะทำให้ความรู้สึกของเกษตรกรต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปในทางที่ไม่ดี

***อัด 3 แสนล้านสร้างงานสร้างรายได้
สำหรับวงเงินสินเชื่อ 3.23 แสนล้านบาท ที่ ธ.ก.ส.เตรียมไว้แบ่งเป็น 4 กลุ่มสินเชื่อหลักประกอบไปด้วย 1.สินเชื่อเพื่อการเกษตรวงเงิน 2.34 แสนล้านบาท ที่เป็นภารกิจหลักของ ธ.ก.ส.กลุ่มที่ 2.สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการสร้างงานในชนบทวงเงิน 4.1 หมื่นล้านบาท โดยจะปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการสินเชื่อแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มวงเงิน 3.17 หมื่นล้านบาท สินเชื่อเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และสินเชื่อ 108 อาชีพ 4.3 พันล้านบาทและสินเชื่อในโครงการแรงงานคืนถิ่นจำนวน 5 พันล้านบาท

สำหรับกลุ่มที่ 3.คือ สินเชื่อเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน วงเงินรวม 2.3 หมื่นล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อให้กับสหกรณ์ต่างๆ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) วิสาหกิจชุมชน โครงการเศรษฐกิจพอเพียงและการต่อยอดให้กับโครงการกองทุนหมู่บ้านปีละเฉลี่ย 1.7 หมื่นล้านบาท และกลุ่มที่ 4 คือโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะใช้ในโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่โดยในปีที่แล้วตั้งเป้าไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านเช่นกันแต่ดำเนินการจริงในวงเงินสูงถึง 1 แสนล้านบาท

“ธ.ก.ส.เชื่อว่า การปล่อยสินเชื่อในช่วงที่เศรษฐกิจขาลงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจได้โดยเฉพาะโครงการสวินเชื่อสนับสนุนการสร้างงานในชนบท 4.1 หมื่นล้านบาทนั้น จะปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าเฉลี่ยรายละ 1 แสนบาทจะมีการการสร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 4.1 หมื่นรายได้ แต่อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.ก็พยายามควบคุมเอ็นพีแอลไม่ให้มากกว่าระดับปัจจุบันที่ 9.0% โดยในปัจจุบัน ธ.ก.ส.มีสินเชื่อรวม 5.28 ล้านบาท” นายเอ็นนู กล่าว

***ปรับโครงสร้างดอกเบี้ยถี่ยิบ
นายเอ็นนู กล่าวว่า ธนาคารเตรียมปรับโครงสร้างดอกเบี้ยจากเดิมที่มีอยู่ 5 ระดับ โดยดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 7.25% ซึ่งเป็นระดับกลาง มีระดับที่สูงขึ้น 2 ระดับ และต่ำกว่า 2 ระดับ ความห่างอยู่ที่ 0.75% โดยที่ผ่านมาส่งผลให้การปรับขึ้นลงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อทั้ง ธ.ก.ส.และลูกค้าในการปรับอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง

ดังนั้น ธนาคารจึงเตรียมปรับโครงสร้างดอกเบี้ยใหม่เป็น 9 ระดับ และระยะห่างจากเดิม 0.75% เหลือ 0.25% ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งธนาคารในแง่การปรับขึ้นลงอัตราดอกเบี้ยและตรงกับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าธ.ก.ส.ที่มีอยู่หลากหลาย โดยลูกค้าที่มีประวัติการชำระดีก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่เหมาะสมกับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่เตรียมเสนอให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณาก่อนประกาศใช้ในกลางปีนี้

***จัดกิจกรรมพิเศษ 2 วันซ้อน
นายเอ็นนู กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ ธ.ก.ส.จะจัดกิจกรรมพิเศษ 2 กิจกรรมด้วยกัน กิจกรรมแรก ได้แก่ การจัดประชุมสัมมนา “ขับเคลื่อนนโยบายสู่ความสำเร็จ” โดยกำหนดจัดในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายนนี้ ระหว่างเวลา 08.30-17.00 น.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ วัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารให้พนักงานในระดับผู้บริหารของ ธ.ก.ส.ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 1,170 คน ได้เข้าใจถึงภารกิจในภาพรวมของ ธ.ก.ส.รับทราบความสำคัญของงาน และสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความยากจนเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งเพื่อสร้างความพร้อมและรวมพลังในการขับเคลื่อนนโยบายของ ธ.ก.ส.ในปีบัญชี 2552 ไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาและปาฐกถาพิเศษในเวลา 09.00 น.

ส่วนกิจกรรมที่ 2 ได้แก่ การจัดงาน “100 ปี บิดาสินเชื่อเกษตร จำเนียร สาระนาค” กำหนดจัดในวันศุกร์ที่ 24 เมษายนที่จะถึงนี้ ระหว่างเวลา 10.00-16.30 น.ที่ห้องประชุมรอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี จ.นนทบุรี งานนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเปิดงานในเวลา 10.00 น.โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีในโอกาสครบรอบอายุ 100 ปี อาจารย์จำเนียร สาระนาค อดีตผู้จัดการคนแรกของ ธ.ก.ส.ซึ่งได้ทุ่มเทเสียสละและมุ่งมั่นในการสร้างระบบสินเชื่อเกษตรให้มีคุณภาพและช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น