xs
xsm
sm
md
lg

ชูกำลังหนีตายแห่ซบคนรุ่นใหม่กระทิงแดงฮึดแจก“ฟีโน่500คัน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทิงแดง ชี้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งเดือดชิงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หลังผู้ใช้แรงงานตกงาน –ความถี่ในการดื่มซบหนัก อัดฉีด 50ล้านบาท ระเบิดแคมเปญโฆษณา “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” ตอกย้ำแบรนด์คอนเซปต์สร้างแรงบันดาลใจ มัดใจคนรุ่นใหม่ เดินเกมอัดมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง-โปรโมทชิงโชครถฟีโน่ หวังเพิ่มความถี่การดื่ม ดันรายได้สิ้นปีโต 5% ครองแชร์ 15% หลังไตรมาสแรกยอดขายวูบ 7%

นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ดำเนินการด้านตลาด เครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงตกลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 8% ดังนั้นบริษัทจึงปรับแผนการตลาดโฟกัสในระยะสั้นมากขึ้น จากการใช้งบการตลาดโดยรวมกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4-5%

ทั้งนี้บริษัทวางแนวทางกระตุ้นความถี่ในการดื่มเพิ่มขึ้น จากการใช้กลยุทธ์มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมีจัดคอนเสิร์ตทั่วประเทศ และตอกย้ำด้วยการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้วงกว้างในการทำคอนซูเมอร์โปรโมชันชิงโชครถจักรยานยนต์ฟีโน 500 คัน ฯลฯ

พร้อมกันนี้บริษัทยังคงเน้นขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังมีช่องว่างให้ทำตลาดอีกมาก ล่าสุดได้ทุ่ม 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโฆษณา “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” โดยนำ กีกี้-ศักดิ์ นานา ดริฟท์ กูรู มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ภายใต้คอนเซปต์การสร้างแรงบัลดาลใจให้ทุกคนมีเป้าหมายและมีความมุ่งมั่นเพื่อไปสู่เป้าหมายในชีวิต โดยเป็นการสื่อสารแบรนด์ให้เข้าใกล้และโดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งภาพยนตร์โฆษณา “เป้าหมายมีไว้พุ่งชน” เริ่มแพร่ภาพวันที่ 9 เมษายน ควบคู่กับการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย และคอนเสิร์ตกระทิงแดง ไทยแลนด์ ร๊อก เฟสติวัล

นายสานิต กล่าวว่า การเปิดตัวแคมเปญโฆษณาเป้าหมายมีไว้พุ่งชน เป็นกลยุทธ์การตลาดเพื่อตอกย้ำแบรนด์คอนเซปต์ของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง เพื่อรองรับกับการแข่งขันของคู่แข่งหันมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น หลังจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังสัดส่วน 60-70% ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โรงงานทยอยปิดกิจการหรือลดคนลง ส่งผลให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานตกงานเพิ่มขึ้น และความถี่ในการดื่มลดลง

สภาพตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ผ่านมาเติบโตน้อยมาก และปีนี้คาดว่าตลาดมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 1% หรือไม่มีการเติบโต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยในช่วงหลายปีผู้ประกอบการเครื่องดื่มชูกำลังทุกแบรนด์พยายามเจาะคนรุ่นใหม่มากขึ้น ส่งผลให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 30-40%

ขณะที่แนวโน้มการแข่งขันมุ่งเน้นคอนเซปต์ของแบรนด์ เพื่อให้โดนใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น สำหรับกระทิงแดงนอกจากนี้สร้างคอนเซปต์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งแล้ว ยังเดินหน้าตอกย้ำทั้งมูฟวี่มาร์เก็ตติ้งควบคู่กับมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เหนือกว่าคู่แข่งที่เน้นมิวสิกมาร์เก็ตติ้งอย่างเดียว

สำหรับสถานการณ์ตลาดในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มกลับมาดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการอัดฉีดเช็ค 2,000 บาทของทางภาครัฐ นอกจากนี้ในช่วงดังกล่าวยังเป็นฤดูกาลจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง จากสภาพอากาศที่ร้อนและเทศกาลสงกรานต์มีการเดินทางกลับบ้านของคนไทย ส่งผลให้ตลาดมีอัตราการเติบโต 10-15% และหากไม่มีสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยที่นอกเหนือจากภาวะเศรษฐกิจ บริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้ผลประกอบการเติบโต 5% ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น