xs
xsm
sm
md
lg

กระทิงแดงดึงมิวสิคสู้ชูกำลัง ลุ้นถูกเรียกคุยปรับภาษีเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้ รักษาตัวรอดแค่ทรงตัว หรือโตมากสุด 1% “กระทิงแดง” ร่ายงบการตลาดแบบระมัดระวัง ชู มิวสิค-ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ดูดคอดื่มกลุ่มคนรุ่นใหม่ หวังเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น สิ้นปีหวังเพียงกอดแชร์ 15% รายได้เท่าปีก่อน เผยรอบสัปดาห์หน้ารู้ผล ว่าจะถูกเรียกเข้าไปพูดคุยเรื่องปรับภาษีด้วยหรือไม่

นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 15,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างอิ่มตัว หรือมีอัตราการเติบโตเพียงปีละ 1% เท่านั้น ปีนี้คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรืออาจจะทำได้เพียงทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา จากที่ก่อนหน้านี้ เคยมีการเติบโตสูงถึง 2 หลัก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตลาดเริ่มอิ่มตัวนั้น มีทั้งผู้เล่นในตลาดนี้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ในท้องตลาดก็มีเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ให้ผู้บริโภคเลือกหลายหลาย รวมถึงสภาพเศรษฐกิจถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ ส่งผลต่อการเติบโตของตลาด โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ยอดขายของกระทิงแดงตกลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากมองว่าปีนี้มีเรื่องของคนตกงาน ซึ่งกลุ่มใช้แรงงานดังกล่าวถือเป็นฐานลูกค้าหลักของกระทิงแดง จึงทำให้ยอดขายลดลง

สำหรับทิศทางการทำตลาดในปีนี้ บริษัทจะใช้งบการตลาดเท่าปีก่อน ซึ่งใช้งบเพียงตัวเลขหลักเดียวจากยอดขายที่วางไว้ โดยจะใช้อย่างระมัดระวังและบริหารให้ดีที่สุด ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว เม็ดเงินที่ใช้ถือว่าน้อยมาก กับการตลาดที่ทำในปีนี้ ที่จะมุ่งใช้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ที่รวมกับไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้งเข้าด้วยกัน กับการจัดคอนเสิร์ตกระทิงแดง ไทยแลนด์ ร็อค เฟสติวัล หรือ KTD Thailand Rock Festival ซึ่งจะจัดถึง 7 ครั้งทั่วประเทศ จากปีก่อนที่จัดเพียง 4 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อต้องการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่เริ่มทำงานเป็นหลัก

ล่าสุด ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ จะมีการจัดคอนเสิร์ต กระทิงแดง ไทยแลนด์ ร็อค เฟสติวัล ออน เดอะ บีช ขึ้นที่หาดยาว ฐานทัพเรือสัตหีบ ภายใต้งบประมาณการจัดงานกว่า 43 ล้านบาท ร่วมกับพันมิตรหลายราย ทั้ง ททท, ไปรษณีย์ไทย และ แคนอน คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 10,000 คน

ที่ผ่านมา กระทิงแดงจะมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 30 ปีขึ้นไป หลังจากเจาะกลุ่มวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ครั้งนี้ เชื่อว่า จะมีฐานลูกค้าอายุลดลง หรือเริ่มตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยตลอดทั้งปีนี้ เชื่อว่า จะยังคงรักษาระดับยอดขายได้เท่ากับปีก่อน หรือยังคงมีส่วนแบ่ง 15% เป็นอันดับ 2 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ปีนี้คาดว่า จะมียอดขายชะลอตัวลงบ้าง ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก แต่อย่างน้อยน่าจะยังคงรักษายอดขายได้เท่ากับปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายทั่วโลกกว่า 3,500 ล้านยูนิต ใน 148 ประเทศ

นายสานิต กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของการที่กรมสรรพสามิต เตรียมเก็บภาษีชา-กาแฟ-เครื่องดื่มชูกำลัง ในเร็วๆ นี้นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถกล่าวอะไรได้ ต้องรอดูรอบสัปดาห์หน้าว่า จะถูกเรียกเข้าไปพูดคุยถึงเรื่องการปรับภาษีครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันกระทิงแดง ก็เสียภาษีให้กับกรมสรรพสามิตอยู่แล้ว ประมาณ 20% ของยอดขายหน้าโรงงาน และอีก 2% ให้กับมหาดไทย รวมแล้วเสียภาษีถึง 22% จึงไม่แน่ใจว่าจะถูกเรียกเข้าไปด้วยหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น