“อานันท์ ปันยารชุน” เตือนรับมือวิกฤต ศก.ไทยครั้งนี้ หนักกว่าปี 40 เพราะเกิดจากสถาบันการเงินโลก แล้วลามไปสู่ภาคการผลิตแท้จริง ยัน ระบบธนาคารไทยแข็งแกร่ง พร้อมแนะ “มาร์ค” ยึดหลัก 3 ข้อในการใช้เงินเพื่อกระตุ้น ศก.เพื่อให้ถึงเป้าหมายจริงๆ ส่วนปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น เป็นมะเร็งร้ายที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาต่อเนื่อง 3-4 ปีแล้ว เชื่อปัญหาที่ถูกกำหนดขึ้น จะถูกกำจัดไปโดยระบบกลไกสังคมเอง พร้อมตำหนิเสื้อแดงประกาศล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย พูดจาเลอะเทอะ
นายอานันท์ ปันยารชุน กรรมการอิสระ และกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจไทยในครั้งนี้หนักกว่าเมื่อเทียบกับปี 2540 เพราะปัญหาระบบการเงินของแบงก์เริ่มต้นจากสหรัฐฯ และแพร่ขยายไปยุโรปและลุกลามมายังไทย ซึ่งครั้งนี้เป็นวิกฤตในระบบการผลิตของไทย โดยภาคอุตสาหกรรมที่คิดเป็น 40% ของจีดีพี และถือเป็นสัดส่วนที่สูง ส่วนใหญ่คือภาคการส่งออก ซึ่งหากประเทศฝั่งอเมริกา และยุโรปมีปัญหา ก็จะทำให้ความต้องการในส่วนของสินค้าลดลง จึงมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจการผลิต การส่งออก และการท่องเที่ยวโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าโชคดี เนื่องจากระบบธนาคารในประเทศยังถือว่าดีอยู่ เพราะมีเกราะป้องกันหลังจากเผชิญปัญหาปี 2540 ทำให้ระบบธนาคารมีเสถียรภาพและมั่นคง
นายอานันท์ ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยแนะนำว่า รัฐบาลควรยึดหลัก 3 ประการ โดยเฉพาะในการใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ ประการที่ 1 ต้องรู้ว่าเงินที่แจกๆ ให้ใคร ประการที่ 2 มีความจำเป็นหรือไม่ และประการที่ 3 เงินนั้นถูกนำไปใช้เพื่ออะไร หากรัฐบาลสามารถใช้เงินให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ ก็จะทำให้เงินเข้าสู่ระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม นายอานันท์ มองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วย ซึ่งมาตรการต่างๆ คงจะไม่เห็นผลได้ทันตา แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นผลได้ประมาณไตรมาส 4 ของปีนี้
สำหรับมาตรการเช็คช่วยชาติ 2 พันบาทนั้น นายอานันท์ ให้ความเห็นว่า หากนำไปใช้ในทางที่ถูกเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เนื่องจากทำให้วงจรของเศรษฐกิจสามารถหมุนรอบต่อไปได้ พร้อมเชื่อว่า จีดีพี ในไตรมาส 1-3 ปีนี้ ยังคงไม่เติบโต แต่จะกลับมาฟื้นได้ในไตรมาส 4 โดยจีดีพีทั้งปีคาดว่าจะติดลบ 3% ขณะที่เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี ในการฟื้นตัว
ด้านปัญหาการเมืองภายในประเทศ นายอานันท์ แสดงความเห็นว่า ความระส่ำระสายมีมากอย่างต่อเนื่อง 3-4 ปีแล้ว การปรับตัวของเราก็น่าจะมีกันมาต่อเนื่อง แต่ปัญหาแต่ละช่วงเวลาอาจจะแตกต่างกันตรงที่ความหนักแน่นและความลึกซึ่งของปัญหา แต่มันก็อยู่ในวิสัยจะแก้ปัญหากันเองได้ มันก็เหมือนกับการที่คนเราดำเนินชีวิต เราสร้างตัวปัญหาขึ้นมาเอง เราก็ต้องสร้างทางออกขึ้นมาเอง ก็เชื่อมั่นคนไทยจะสามารถแก้ปัญหากันไปได้
สำหรับการที่มีม็อบต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้ ถือเป็นการเพิ่มความยุ่งยากการบริหารงานให้แก่รัฐบาล แต่เชื่อว่า สุดท้ายแล้วทุกอย่างน่าจะแก้ไปได้ เพราะปัญหาการเมืองไทยได้เกิดขึ้นต่อเนื่องมา 3-4 ปีแล้ว ทั้งนี้ เชื่อในที่สุดคนไทยจะปรับตัว และหาทางแก้ไขปัญหาได้
ต่อคำถามที่ว่าจะมีการล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตยหรือไม่นั้น นายอานันท์ กล่าวว่า ต้องใช้วิจารณญาณในการฟังให้ดี พร้อมตำหนิว่า ใครที่ชอบพูดเลอะเทอะ คงต้องใช้วิจารณญาณในการฟังให้ดีว่า พูดเลอะเทอะมากแค่ไหน
