xs
xsm
sm
md
lg

บีโอไอเผย2เดือนยอดลงทุนวูบ46.7% ต่างชาติผวาลงทุนหลังคุมมาบตาพุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานบอร์ดกนอ.เผยนักลงทุนญี่ปุ่นสอบถามเรื่องแผนอีไอเอ หลังไทยเดินหน้าประกาศมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ แนะให้เร่งคลอดแผนด้านสิ่งแวดล้อมโดยเร็ว หวั่นยิ่งช้ายิ่งฉุดเชื่อมั่นและควรต้องชัดเจนในระยะยาว หากอีไอเอปรับเปลี่ยนตลอดจะกระทบลงทุนในอนาคต บีโอไอเผยผลพวงวิกฤติเศรษฐกิจฉุดการลงทุนตรงจากต่างประเทศ 2 เดือนวูบ 46.7%

นายประสาน ตันประเสริฐ ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บอร์ด กนอ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ไทยเดินหน้าประกาศให้พื้นที่บริเวณมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ ส่งผลให้มีนักลงทุนจากต่างประเทศสอบถามมายังกนอ.ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่นเกี่ยวกับแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมใหม่ว่าจะทำให้การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยยอมรับว่ากนอ. ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ดังนั้น การจัดทำกรอบแผนจัดการสิ่งแวดล้อมควรจะต้องเร่งออกมาให้ชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน

“ขอให้ออกมาเถอะอีไอเอ ซึ่งนักลงทุนเขาก็อยากเห็นให้ชัดว่าจะเป็นอย่างไร เหมือนกรณีค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงอย่างไรไม่ว่า แต่ขอให้มันมีเสถียรภาพ และต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าอีไอเอจะไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีก ไม่เช่นนั้นจะฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน แม้ว่าขณะนี้การลงทุนอาจจะไม่มีนัก เพราะเศรษฐกิจชะลอ แต่อย่าลืมว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัวอีก 1-2 ปี การลงทุนก็จะกลับมา หากกติกาลงทุนไม่ชัดจะลำบาก ไทยต้องดูคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนามด้วย เพราะเวลานี้เม็ดเงินลงทุนไปเวียดนามมากกว่าไทยมาก”นายประสานกล่าว

ทั้งนี้ พื้นที่ในบริเวณมาบตาพุดยังมีนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ของเอกชนที่ยังคงมีความสามารถในการรองรับการลงทุนได้อีกพอสมควร แต่ต้องยอมรับว่ากรณีของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น เป็นนิคมฯที่รองรับอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี โรงกลั่น ที่มีระบบการขนส่งทางท่อที่เป็นการเฉพาะ จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ ต้องมาลงทุนในบริเวณดังกล่าว และหากจะขยายงานก็ไม่สามารถจะไปที่อื่นได้ เนื่องจากพื้นที่ใหม่ที่รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไม่มี ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้หรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ด แต่ยังต้องใช้เวลาอย่างต่ำอีก 5-7 ปี ดังนั้น ในช่วง 5-7 ปีนี้ หากยังไม่มีที่ใหม่รองรับพื้นที่บริเวณมาบตาพุดก็ยังคงเป็นแหล่งการลงทุนสำคัญของประเทศ

สำหรับแผนการโรดโชว์ของกนอ.ที่ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 2 เม.ย. ที่บีโอไอจะไปเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนที่ปักกิ่ง ประเทศจีนนั้น นโยบายของรมว.อุตสาหกรรมจะมีการเชิญชวนนักลงทุนจากจีนมาดูพื้นที่การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในไทยที่จะรองรับนักลงทุนจีนเป็นการเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนจีนได้แสดงความสนใจผ่านรมว.อุตสาหกรรมเบื้องต้นแล้ว

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวถึง การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในเดือน ม.ค.-ก.พ.2552 พบว่า จำนวนโครงการและปริมาณเงินลงทุนลดลงจากปีก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกันค่อนข้างมาก โดยจำนวนโครงการลดลงถึง 46.7% จากปีก่อนมีโครงการลงทุนเข้ามา 167 โครงการ แต่ปีนี้เหลือเพียง 89 โครงการ ส่วนเงินลงทุนเหลือเพียง 14,649 ล้านบาท ลดลง 73.6% จากปีก่อนที่มีเงินลงทุนเข้ามา 53,516 ล้านบาท

“วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในไทยค่อนข้างมาก ทำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการลงทุนจากนักลงทุนกลุ่มประเทศยุโรป มูลค่าลดลงไปถึง 54.6% ส่วนนักลงทุนหลักของไทย คือ ญี่ปุ่น มีมูลค่าลดลงไปถึง 32.1% โดยโครงการลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการเล็กๆ มีมูลค่าไม่ถึง 100 ล้านบาทถึง 70%”

นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน บีโอไอ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนโครงการพัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์ประเภท ดิจิตอล คอนเทนท์ แก่บริษัท ครีเอทีฟ คิงดอม เกมส์ แอนด์ แอนนิเมชั่น จำกัด มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 110 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น