รัฐบาล "มาร์ค" เตรียมชง ครม.ไฟเขียวกฎหมายยกเว้นค่าธรรมเนียมโรงงานอุตสาหกรรม ยกเว้นภาษีกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมกฎหมายคุมคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น วันนี้
มีรายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 มีนาคม 2552) จะมีการพิจารณาเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีแก่โรงงานทุกประเภท หลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาในรายละเอียดเรียบร้อยแล้วเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
โดยก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอให้ ครม.พิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่โรงงานทุกประเภท เพราะเห็นว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 51 และต่อเนื่องถึงปี 52 โดยพบว่าดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 4 ของปี 51 ติดลบถึง 2.0% และคาดว่าในปี 52 จะขยายตัวเพียง 1-2% เท่านั้นและอาจทำให้เกิดการว่างงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ดังนั้น จึงต้องลดภาระให้กับผู้ประกอบการและช่วยรักษาการจ้างงานไว้ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร หรือการยกเว้นภาษีตามมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจร่างเสร็จเรียบร้อยแล้วและมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป โดยมีสาระสำคัญ คือ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะ และวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่ใช้กับยานพาหนะ เป็นจำนวน 25% ของค่าใช้จ่ายนั้น
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินดังกล่าวต้องไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ขณะเดียวกันต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตามประสงค์ตั้งแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้จถึงวันที่ 31 ธ.ค.53 และต้องได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานว่าเป็นวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน ภายในวันที่ 31 ธ.ค.53 รวมทั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามและต้องหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานได้ตามประสงค์
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่าที่ประชุมจะพิจารณาเห็นชอบร่างกฎหมายคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็นของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้รัฐเข้าไปกำกับดูแลการประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสุจริตถูกต้องและไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเดือดร้อนจากการได้รับสินค้าที่ชำรุดเสียหาย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 มีนาคม 2552) จะมีการพิจารณาเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีแก่โรงงานทุกประเภท หลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาในรายละเอียดเรียบร้อยแล้วเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
โดยก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอให้ ครม.พิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่โรงงานทุกประเภท เพราะเห็นว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 51 และต่อเนื่องถึงปี 52 โดยพบว่าดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 4 ของปี 51 ติดลบถึง 2.0% และคาดว่าในปี 52 จะขยายตัวเพียง 1-2% เท่านั้นและอาจทำให้เกิดการว่างงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ดังนั้น จึงต้องลดภาระให้กับผู้ประกอบการและช่วยรักษาการจ้างงานไว้ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร หรือการยกเว้นภาษีตามมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจร่างเสร็จเรียบร้อยแล้วและมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป โดยมีสาระสำคัญ คือ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะ และวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่ใช้กับยานพาหนะ เป็นจำนวน 25% ของค่าใช้จ่ายนั้น
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินดังกล่าวต้องไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ขณะเดียวกันต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตามประสงค์ตั้งแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้จถึงวันที่ 31 ธ.ค.53 และต้องได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานว่าเป็นวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน ภายในวันที่ 31 ธ.ค.53 รวมทั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามและต้องหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานได้ตามประสงค์
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมอีกว่าที่ประชุมจะพิจารณาเห็นชอบร่างกฎหมายคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็นของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้รัฐเข้าไปกำกับดูแลการประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโลและห้องเย็นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสุจริตถูกต้องและไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเดือดร้อนจากการได้รับสินค้าที่ชำรุดเสียหาย
