นายกฯ เผยที่ประชุสุดยอดอาเซียน ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลก "ชะอำ-หัวหิน" หลังเห็นตรงกันที่จะใช้นโยบายเชิงรุกและเด็ดขาด เพื่อรับมือ ศก.โลกที่ถดถอยอย่างรุนแรง ควบคู่ไปกับการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดเงิน จนกระทบการค้าการลงทุนในภูมิภาค เพิ่มความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยผู้นำอาเซียนแต่ละประเทศตกลงเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคในประเทศของตนเอง รองรับเศรษฐกิจโลกหดตัว โดยดำเนินนโยบายการเงินผ่อนปรน เร่งช่วย "เอสเอ็มอี" พร้อมเพิ่มกองทุนสำรองร่วม และลงนามข้อตกลงพลังงานช่วยเหลือกันในยามขาดแคลน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนว่า ที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลก ชะอำ-หัวหิน โดยผู้นำเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอย่างรุนแรง ควบคู่ไปกับการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดเงิน จนกระทบการค้าการลงทุนในภูมิภาค เพิ่มความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้นำจึงเห็นพ้องร่วมกันว่าต้องดำเนินนโยบายเชิงรุกและเด็ดขาดในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับคืนมาสู่ในภูมิภาค และให้ระบบการเงินมีเสถียรภาพ
โดยผู้นำยินดีดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับมหภาคของแต่ละประเทศ ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนปรน เพื่อปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี หวังกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ โดยพร้อมประสานนโยบายเศรษฐกิจ และดำเนินการร่วมกันให้สอดคล้องกันมากขึ้น เพื่อให้เกิดการค้า การลงทุน การอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ และเห็นร่วมกันว่าจะต่อต้านนโยบายปกป้องทางการค้า ละเว้นมาตราการกีดกันทางการค้าใหม่ๆ โดยพร้อมยืนยันจะยึดมั่นให้อยู่ภายใต้แผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อีกทั้งพร้อมสนับสนุนความพยายามให้การเจรจา เพื่อพัฒนามากขึ้นในข้อตกลงการค้าโลกรอบโดฮา เพื่อให้เกิดบรรลุผลเป็นรูปธรรม
ที่ประชุมผู้นำอาเซียนเห็นชอบให้หลักการข้อตกลงของรัฐมนตรีคลังอาเซียน+ 3 ในการเพิ่มขนาดกองทุนสำรอง พหุภาคี ภายใต้มาตรการริเริ่มเชียงใหม่เพิ่มจาก 80,000 ล้านดอลร์สหรัฐ เป็น 1.2 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อให้การจัดตั้งกองทุนมีผลเป็นรูปธรรม และยังได้ตระหนักถึงความร่วมมือในการระดมเงินออม สำหรับการลงทุนในสาขาต่างๆ เพื่อนำมาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสมาชิก ให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตได้จากการพัฒนา ตลาดพันธบัตรเอเชีย และที่ประชุมตกลงกันว่า จำเป็นต้องศึกษาหารืออย่างใกล้ชิด ระหว่างองค์กรต่างๆในภูมิภาค เพื่อปกป้องปัญหาวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ที่ประชุมเรียกร้องให้สมาชิกปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อให้ระบบการเงินมีการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจใหม่และประเทศกำลังพัฒนา โดยที่ประชุมให้นำแถลงการณ์ดังกล่าวเสนอต่อการประชุมผู้นำ จี 20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเดือน เมษายน 2552 นี้ โดยมอบให้ผู้นำของไทยและอินโดนีเซีย เป็นตัวแทนไปชี้แจงเพื่อให้ทราบถึงแผนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อเวทีโลก
นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้ลงนามความตกลงอาเซียนว่าด้วยความมั่นคงทางปิโตรเลียม เพื่อให้ประเทศสมาชิก สามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านด้านพลังงาน โดยปรับลดจากข้อตกลงเดิมที่กำหนดว่า หากประเทศสมาชิกขาดแคลนพลังงานร้อยละ 20 ของความต้องการ เป็นการขาดแคลนเพียงร้อยละ 10 ก็สมารถร้องขอจากประเทศสมาชิกได้ โดยราคาที่ขายเป็นตกลงกัน เพื่อให้ให้เกิดการช่วยเหลือกันได้อย่างรวดเร็ว