ทองคำทุบสถิติรอบใหม่ ราคาขายพุ่ง 15,950 บาท ผู้ค้าทองคาด ราคาอาจทะลุ 16,000 บาท ภายใน 50 วัน หลังนักลงทุนทั่วโลกใช้เป็นแหล่งพักเงินทำกำไร พร้อมกับข่าวธนาคารกลางหลายประเทศเข้าซื้อทองคำเพิ่มเป็นทุนสำรอง ประชาชนแห่ไถ่ถอนคืนเพื่อเก็งกำไรส่วนต่างราคา โรงรับจำนำเตรียมพร้อมรับมือ
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองครั้งที่ 2 (ทองคำ 96.5%) ประจำวันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นดังนี้ ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 15,450 บาท ขายบาทละ 15,550 บาท ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 15,220.64 บาท ขายออกบาทละ 15,950 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำวันนี้ ทำสถิติพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิ รองเลขาธิการสมาคมค้าทองคำ เชื่อว่าบรรยากาศการขายทองคำที่ไม่ค่อยคึกคัก เพราะประชาชนส่วนใหญ่ขายทองคำที่ถือครองไว้ตั้งแต่ตรุษจีน พร้อมคาดการณ์ว่า ภายใน 50 วัน ราคาทองคำภายในประเทศจะอยู่ที่บาทละ 16,000 บาท
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ยอมรับว่า ราคาทองคำขณะนี้ยังมีความผันผวน และเชื่อว่า ไม่เกิน 1 เดือน ราคาทองคำในประเทศจะเพิ่มสูงทำลายสถิติอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนตลาดโลกไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจโลก และเห็นว่า การลงทุนในทองคำเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงน้อย และได้รับผลตอบแทนที่ดี
ด้านราคาทองคำตลาดโภคภัณฑ์กรุงลอนดอนปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาทองคำลอนดอน อังกฤษ ปรับสูงขึ้น 2.20 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 944.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ นักวิเคราะห์เผยว่าราคาทองคำที่พุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองหาช่องทางลงทุนในตลาดทองคำในภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบัน และเป็นแหล่งพักเงินเพื่อทำกำไร
นายเอลลิสัน ซู กรรมการผู้จัดการด้านโลหะมีค่าจากสแตนดาร์ด แบงก์ เอเชีย กล่าวว่า ในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน ราคาทองคำทะยานขึ้น 40% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงในช่วงที่มูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินหดตัวลง และธนาคารกลางในหลายประเทศทุ่มเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงกิจการธนาคารพาณิชย์
"เม็ดเงินจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ ในขณะที่ตลาดหุ้นยังคงทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนเข้าซื้อทองกันมากขึ้นทั้งในรูปเหรียญทองคำและทองคำแท่ง นอกจากนี้ สัญญาทองคำพุ่งขึ้น เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางในหลายประเทศจะเพิ่มทองคำสำรอง แต่ข่าวดังกล่าวก็เริ่มเงียบไป อาจจะเป็นเพราะธนาคารกลางไม่ต้องการเข้ามาแทรกแซงตลาด"
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ราคาทองในตลาดโลกที่พุ่งสุงขึ้น เป็นผลจากความต้องการทองที่เพิ่มสูงขึ้น จากการถือครองทองคำของกองทุน ETF รายใหญ่ที่สุดในโลกที่เพิ่มขึ้นเกือบ 4% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนแลกเปลี่ยนทองคำรายใหญ่ของโลก ถือครองทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 985.86 เมตริกตัน
ขณะที่โรงรับจำนำ หรือสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า โรงรับจำนำ กทม.ได้เตรียมสำรองเงินไว้ให้บริการประชาชนจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เตรียมไว้เพื่อจัดสรรให้กับโรงรับจำนำของ กทม.ทั้ง 20 สาขา ใช้กรณีฉุกเฉินที่เงินในสาขาหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เนื่อจากช่วงนี้ ทองราคาปรับขึ้น ประชาชนแห่มาไถ่ถอนเป็นจำนวนมาก คาดว่าอาจเป็นการเก็งกำไรส่วนต่างราคา จึงต้องมีการสำรองเงินเพิ่ม
สำหรับเงินทุนหมุนเวียนของโรงรับจำนำทั้ง 20 สาขาในขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 550 ล้านบาท โดยตัวเลขการไถ่ถอนจะสูงกว่าการจำนำเนื่องจากราคาทองที่สูงขึ้นทำให้ประชาชนหันไปขายขาดมากกว่าการจำนำยอดการจำนำจึงลดลงมากเมื่อเทียบกับหลายเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งประชาชนยังไม่นิยมการเก็บทองไว้กับตัวเพราะกลัวถูกปล้น จี้ชิงทรัพย์
ล่าสุด มีรายงานว่า ราคาทองคำในประเทศพุ่งทะลุ 16,000 บาท ไปเรียบร้อยแล้ว ทำลายสถิติสูงที่สุดในประวัติศาตร์ของวงการค้าทองคำ โดยทองคำรูปพรรณขายออกบาทละ 16,150 บาท ซื้อเข้า 15,326 บาท ส่วนทองคำแท่งขายออกบาทละ 15,650 บาท ซื้อเข้าบาทละ 15,550 บาท โดยวันนี้ ร้านค้าทองปรับขึ้นราคาทองคำถึง 350 บาท และมีการปรับเปลี่ยนราคาถึง 7 ครั้งภายใน 1 วัน
