ซีเมนส์ รับปรับแผนให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ชูแผนยืดหยุ่น หนุนดีลเลอร์เต็มที่ พร้อมมุ่งเน้นตลาดรีเทลเพิ่มขึ้น ยันไม่เล่นสงครามราคา ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 10% หวังขึ้นเป็นผู้นำตลาดบิวท์อินในไทยอีก 2 ปี
นายอูเว บลานาร์ช ซีมอน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอสเอช โฮม แอ็พพลายแอ็นซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน "SIEMENS-ซีเมนส์" เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี และปีนี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะเป็นอย่างไร ทุกบริษัททุกอุตสาหกรรมได้ปรับแผนงานกันหมด เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะที่เป็นอยู่ ในส่วนบริษัทฯเองก็เช่นกันได้มีการปรับแผนงานให้มีความยืดหยุ่นกับสถานการณ์มากขึ้น
โดยคาดว่าปีนี้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจะยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรง จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 60,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดบิ้วด์อินประมาณ 18,000 ล้านบาทหรือประมาณ 25% ของตลาด
ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯจะเพิ่มสัดส่วนการขายรีเทลมากขึ้น แต่ช่องทางโปรเจ็คต์ก็ยังเป็นช่องทางหลักอยู่ รวมทั้งการเข้าไปสนับสนุนดีลเลอร์ทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 100 ราย ในด้านของการทำอินสโตร์โปรโมชันร่วมกัน การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เป็นท้องถิ่นมากขึ้นหรือโลคอลแอดเวอร์ไทซิ่ง การจัดงานแฟร์กระจายไปแต่ละพื้นที่เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า และการออกสินค้าใหม่ๆตลอดทั้งปีซึงคาดว่าปีนี้จะมีมากกว่า 200 เอสเคยู
"แต่แม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงแค่ไหน เศรษฐกิจไม่ดีอย่างไร เราก็ต้องดำเนินต่อไป หยุดไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหวตลอด แต่ยืนยันว่าบริษัทฯจะไม่ใช้กลยุทธ์สงครามราคาเข้ามาทำตลาดแน่นอน เพราะบริษัทฯจับกลุ่มเป้าหมายพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการเทคโนโลยีและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ที่จะใช้มากกว่าคำนึงถึงเรื่องราคาและเรามั่นใจนาพลักษณ์แบรนด์เราด้วย" นายอูเวกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเพิ่มช่องทางรีเทลมากขึ้น แต่ตลาดหลักยังคงเป็นช่องทางโปรเจ็คต์ ซึ่งปีนี้อยู่ระหว่างที่บริษัทฯจะต้องทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ซีเมนส์ให้กับลูกค้าโครงการหลายแห่งเช่น เดอะเมด, เดอะมิลเลเนียมสุขุมวิท, นอร์ทพ้อยท์พัทยา โครงการที่หัวหินและภูเก็ต เป็นต้น
สำหรับงบการตลาดปีนี้ตั้งไว้ที่ 5-8% ของยอดขายรวม ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-15% จากปีที่แล้วที่มียอดขายรวมกว่า 650 ล้านบาท เติบโต 15% โดยที่ซีเมนส์เป็นอันดับสองในตลาดเครื่องซักผ้า มีแชร์ 25% และเป็นรายได้หลักของซีเมนส์ในไทยด้วย ซึ่งมีโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าอยู่ที่กบินท์บุรี และเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคนี้ โดยป้อนตลาดไทย 20% และส่งออก 80% โดยแต่ละปีบริษัทแม่ที่เยอรมันจะมีงบการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์มากกว่า 200 ล้านยูโร จากรายได้รวมของบริษัทแม่ปีที่แล้วที่มีประมาณ 8.8 พันล้านยูโร
นายอูเว กล่าวต่อว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าซีเมนส์มีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในหมวดผลิตภัณฑ์บิวด์อินในประเทศไทย ภายในอีก 2 ปีนับจากนี้ นอกจากตลาดกลุ่มเครื่องซักผ้าที่มีแชร์ระดับต้นๆแล้ว ทั้งนี้ปัจจุบันรายได้จากกลุ่มบิวท์อินของบริษัทฯมีสัดส่วน 25% จากรายได้รวมของบริษัทฯ คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ในปีนี้
ขณะที่ตลาดโครงการคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้น10% ส่วนตลาดรีเทลจะเพิ่มขึ้น 5% สำหรับบีเอสเอชนี้เป็นกลุ่มบริษัทที่มีสาขาทั่วโลก เป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุโรปและในเยอรมัน มีโรงงานผลิตกระจายมากกว่า 43โรงงานใน 14ประเทศทั่วโลก ทั้งในทวีปยุโรป ลาตินอเมริกา และเอเชีย มีบริษัทเครือข่ายทางด้านการขายและการบริการมากกว่า 70แห่ง ใน 40ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานรวมกว่า 39, 000 คน
นายอูเว บลานาร์ช ซีมอน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอสเอช โฮม แอ็พพลายแอ็นซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน "SIEMENS-ซีเมนส์" เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี และปีนี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะเป็นอย่างไร ทุกบริษัททุกอุตสาหกรรมได้ปรับแผนงานกันหมด เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะที่เป็นอยู่ ในส่วนบริษัทฯเองก็เช่นกันได้มีการปรับแผนงานให้มีความยืดหยุ่นกับสถานการณ์มากขึ้น
โดยคาดว่าปีนี้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจะยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรง จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 60,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดบิ้วด์อินประมาณ 18,000 ล้านบาทหรือประมาณ 25% ของตลาด
ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯจะเพิ่มสัดส่วนการขายรีเทลมากขึ้น แต่ช่องทางโปรเจ็คต์ก็ยังเป็นช่องทางหลักอยู่ รวมทั้งการเข้าไปสนับสนุนดีลเลอร์ทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 100 ราย ในด้านของการทำอินสโตร์โปรโมชันร่วมกัน การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เป็นท้องถิ่นมากขึ้นหรือโลคอลแอดเวอร์ไทซิ่ง การจัดงานแฟร์กระจายไปแต่ละพื้นที่เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า และการออกสินค้าใหม่ๆตลอดทั้งปีซึงคาดว่าปีนี้จะมีมากกว่า 200 เอสเคยู
"แต่แม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงแค่ไหน เศรษฐกิจไม่ดีอย่างไร เราก็ต้องดำเนินต่อไป หยุดไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหวตลอด แต่ยืนยันว่าบริษัทฯจะไม่ใช้กลยุทธ์สงครามราคาเข้ามาทำตลาดแน่นอน เพราะบริษัทฯจับกลุ่มเป้าหมายพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการเทคโนโลยีและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ที่จะใช้มากกว่าคำนึงถึงเรื่องราคาและเรามั่นใจนาพลักษณ์แบรนด์เราด้วย" นายอูเวกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเพิ่มช่องทางรีเทลมากขึ้น แต่ตลาดหลักยังคงเป็นช่องทางโปรเจ็คต์ ซึ่งปีนี้อยู่ระหว่างที่บริษัทฯจะต้องทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์ซีเมนส์ให้กับลูกค้าโครงการหลายแห่งเช่น เดอะเมด, เดอะมิลเลเนียมสุขุมวิท, นอร์ทพ้อยท์พัทยา โครงการที่หัวหินและภูเก็ต เป็นต้น
สำหรับงบการตลาดปีนี้ตั้งไว้ที่ 5-8% ของยอดขายรวม ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-15% จากปีที่แล้วที่มียอดขายรวมกว่า 650 ล้านบาท เติบโต 15% โดยที่ซีเมนส์เป็นอันดับสองในตลาดเครื่องซักผ้า มีแชร์ 25% และเป็นรายได้หลักของซีเมนส์ในไทยด้วย ซึ่งมีโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าอยู่ที่กบินท์บุรี และเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาคนี้ โดยป้อนตลาดไทย 20% และส่งออก 80% โดยแต่ละปีบริษัทแม่ที่เยอรมันจะมีงบการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์มากกว่า 200 ล้านยูโร จากรายได้รวมของบริษัทแม่ปีที่แล้วที่มีประมาณ 8.8 พันล้านยูโร
นายอูเว กล่าวต่อว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าซีเมนส์มีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในหมวดผลิตภัณฑ์บิวด์อินในประเทศไทย ภายในอีก 2 ปีนับจากนี้ นอกจากตลาดกลุ่มเครื่องซักผ้าที่มีแชร์ระดับต้นๆแล้ว ทั้งนี้ปัจจุบันรายได้จากกลุ่มบิวท์อินของบริษัทฯมีสัดส่วน 25% จากรายได้รวมของบริษัทฯ คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ในปีนี้
ขณะที่ตลาดโครงการคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้น10% ส่วนตลาดรีเทลจะเพิ่มขึ้น 5% สำหรับบีเอสเอชนี้เป็นกลุ่มบริษัทที่มีสาขาทั่วโลก เป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุโรปและในเยอรมัน มีโรงงานผลิตกระจายมากกว่า 43โรงงานใน 14ประเทศทั่วโลก ทั้งในทวีปยุโรป ลาตินอเมริกา และเอเชีย มีบริษัทเครือข่ายทางด้านการขายและการบริการมากกว่า 70แห่ง ใน 40ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานรวมกว่า 39, 000 คน
