xs
xsm
sm
md
lg

CRC เท 400 ล.พัฒนาโลจิสติกส์ ดึงเทคโนโลยีลดต้นทุน 15-20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เซ็นทรัล รีเทล ทุ่มกว่า 400 ล้านบาท ชูเทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพระบบโลจิสติกส์ รับมือปริมาณสินค้าซัปพลายเออร์อื้อ จากการแห่ทำโปรโมชันกระตุ้นยอดขาย พร้อมศึกษาผุดศูนย์ย่อย 5 ปี ชงภาครัฐ-เอกชน ร่วมมือพัฒนาระบบโลจิสติกส์ต่างประเทศ จ่อคิวผุดที่แดนมังกร ตั้งเป้าปีนี้ลดต้นทุน 15-20%

นายดนัย คาลัสซี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายซัปพลายเชน บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัททุ่มงบกว่า 400ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 300 ล้านบาท พัฒนาระบบซัปพลายเชนทั้งหมดของบริษัท เพื่อรองรับปริมาณสินค้าจากซัปพลายเออร์ในปีนี้ซึ่งจะมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีมากนัก ทำให้ต้องเพิ่มความถี่ในการทำโปรโมชัน เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย ระบบการโลจิสติกส์จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยในการลดต้นทุน

“แม้ว่าราคาน้ำมันในปีที่ผ่านมาจะลดลงแล้วก็ตาม แต่เมื่อเทียบระหว่างราคาน้ำมันในปี 2551 ก็ยังสูงว่าปี 2550 ประมาณ 5 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นเช่นกัน และหลายฝ่ายประมาณการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะหยุดอยู่ที่ 60-80เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากปัจจุบันกว่า 40 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เรามองว่า ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในปีนี้และจำเป็นต้องใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน”

สำหรับศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ที่ บางนา จากการใช้งบ 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการการเปิดสาขาใหม่เซ็นทรัล พัทยา และ จ.ชลบุรี และขยายตัวของธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล อาทิ เซ็นทรัล โรบินสัน บีทูเอส ออฟฟิศ ดีโป ได้ถึง 5 ปี ตลอดจนช่วยระบบการส่งขนสินค้าจากภาคตะวันออกจะเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บริษัทได้นำระบบ Radio Frequency Identification (RFI) หรือระบบการสื่อสารไร้สายในระดับขั้นสูงขึ้น จากปีที่ผ่านมาเป็นระบบพื้นฐาน ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ 20-30%

พร้อมกันนี้ ยังได้พัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้า การพัฒนาระบบรับ-ส่ง ข้อมูลทางอิเลกทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งถ่ายข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะเริ่มระบบปลายเดือนมกราคม ประมาณ 100 ราย รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดลองระบบ และคาดว่า จะปฏิบัติงานได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ ควบคู่กับการให้ความรู้แก่ซัปพลายเออร์ 80 ราย

นอกจากนี้ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา สร้างศูนย์การจัดการคลังสินค้าย่อยขึ้นมา ซึ่งอยู่ในแผนระยะยาว 5 ปี โดยเฉพาะภาคใต้ เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางภาคใต้ที่เพิ่มขึ้น 20% จากการทำโปรโมชันกระตุ้นยอดขายของซัปพลายเออร์ โดยปัจจุบันบริษัทยังมีพื้นที่อีก 2 แห่ง พร้อมจะสร้างศูนย์กระจายสินค้า อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของบริษัท ในปีนี้ตั้งเป้าลดต้นทุน 15-20% จากปีที่ผ่านมา ลดต้นทุน 15%

นายดนัย กล่าวว่า ในอนาคตยังวางแผนเปิดศูนย์กระจายสินค้าในจีน ที่ ปักกิ่ง เพราะสินค้าของเครือเซ็นทรัล นำเข้าจากจีน 50% เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้า และประการสำคัญ คือ ลดต้นทุนจากการ ที่ เซ็นทรัล เปิดห้างสรรพสินค้า ที่ หางโจว ในปี 2553 ทำให้ต้องใช้หลังร้านเป็นคลังสินค้า ต้นทุนจึงสูงขึ้นโดยปริยาย แต่โครงการดังกล่าวจะเกิดจากขึ้นได้ ภาครัฐกับเอกชนต้องร่วมมือกันพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ซึ่งหากบริษัทสามารถสร้างศูนย์ดังกล่าว มีผลเอื้อให้การขยายสาขาเซ็นทรัลทางจีนตอนใต้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น