โกดักแหยงพิษเศรษฐกิจ วางเป้ารายได้ทรงตัวเท่าปีก่อน หลังปีที่ผ่านมาวืดเป้า 5% วางหมากทำธุรกิจแบบเดือนต่อเดือน ล่าสุด ชูโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” หวังดูดรายได้เพิ่ม พร้อมทุ่มการลงทุนผุดฮาร์ดแวร์อีก 40% จาก 300 เครื่อง จับมือโฟโต้ฮัทเพิ่มช่องทางเข้าถึงคนอัดภาพอีก 30 เครื่อง
นายพัลลภ สันติพันธุ์ ผู้จัดการธุรกิจระบบผลิตภัณฑ์ดิจิตัลและฟิล์ม ประจำประเทศไทย พม่า ลาว และ กัมพูชา บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของโกดักในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์เศรษฐกิจที่ดูแล้วค่อนข้างมีความผันผวน จึงมองว่า จะต้องมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจแบบเดือนต่อเดือน โดยแต่ละเดือนจะต้องตีโจทย์ให้แตก ว่า ควรจะชูเรื่องอะไรเพื่อใช้ทำการตลาด จากเดิมที่มีการวางแผนเป็นปี หรือเป็นแบบไตรมาสต่อไตรมาสอย่างปีที่ผ่านมา เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ภาพรวมรายได้ของปีนี้ทรงตัวเท่าปีก่อน
ขณะที่ในปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า ภาพความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศช่วงปลายไตรมาส 3 เข้าไตรมาส 4 ได้ส่งผลต่อภาพรวมรายได้ให้มีการเติบโตต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 5%
แผนการทำตลาดในปีนี้ ทางบริษัทจะโฟกัสในเรื่องของพฤติกรรมการล้างอัดภาพของผู้บริโภคเป็นหลัก ในการพัฒนาโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” ให้ผู้บริโภคสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายออกมาเป็นรูปเล่มได้ด้วยตนเอง ภายในร้านที่ให้บริการทั้งในร้านโกดักเอ็กซ์เพรส, โกดักคีออส และพันธมิตรอย่าง โฟโต้ฮัท
สำหรับการลงทุนเบื้องต้น ขณะนี้มีจำนวนเครื่องที่รองรับโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” ทั้งหมด 300 จุด แบ่งเป็นในโกดักเอ็กซ์เพรส 200 จุด และโกดักคีออส อีก 100 จุด แต่สามารถให้บริการ “โฟโต้บุ๊คส์” ได้เพียง 20 จุดเท่านั้น ตั้งเป้าที่จะให้บริการที่ 100 จุดในปีนี้
โดยปี 2552 มีแผนจะเพิ่มจำนวนเครื่องอีก 40% จากฐาน 300 จุด ซึ่งการลงทุนอยู่ที่ราคา แสนกว่าบาทต่อเครื่อง นอกจากนี้ ยังมีการนำเครื่องดังกล่าวไปเปิดให้บริการในโฟโต้ฮัทอีกส่วนหนึ่งด้วยจำนวน 30 จุด ซึ่งเปิดให้บริการโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” ได้ 5-6 จุด ปีนี้จะพยายามเปิดให้บริการให้ได้ครบ 30 จุด
“สาเหตุที่หันมาให้ความสำคัญในส่วนของการล้างอัดภาพนั้น มองว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีความชื่นชอบในการถ่ายรูปมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังไม่มีขีดจำกัดในการถ่ายรูปอย่างที่ผ่านมา ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับฟิล์มถ่ายรูป บวกกับช่วงเวลานี้อากาศหนาวค่อนข้างยาวนาน ผู้บริโภคมีการถ่ายรูปสูง ดังนั้น จากปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ใช้บริการล้างอัดภาพอยู่ที่ 8 แสนใบต่อเดือน น่าจะมีแนวโน้มเติบโตที่ดีมาก ซึ่งการบุกตลาดครั้งนี้จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทั่วไปโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ที่เรียนรู้ในการใช้เทคโนโลยี และชื่นชอบในการถ่ายภาพ”
นอกจากนี้ ในส่วนของกล้องดิจิตอล ปีนี้จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 14-16 รุ่น ระดับราคาตั้งแต่ 3,000-12,000 บาท หรือไตรมาสละประมาณ 4-5 รุ่น คาดว่า จะมีรายได้ในส่วนนี้เติบโตขึ้นประมาณ 10-12% ขณะที่ภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอล คาดว่า จะโตเพียง 6% ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของบริษัท ในส่วนของกล้องดิจิตอล จะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 35% ส่วนของการพิมพ์และล้างอัดภาพอยู่ที่ 50-55% และฟิล์มจะอยู่ที่ 5% จากเดิมปีก่อนอยู่ที่ 10%
นายพัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนร้านโกดักเอ็กซ์เพรส ปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่แล้วกว่า 467 สาขาทั่วประเทศ ตามแผนที่วางไว้ต้องการให้มีทั้งสิ้น 500 สาขา เพราะถือเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในตลาดยังไม่สูงมากนัก ทั้งนี้ คาดว่า จะเปิดเพิ่มได้อีกหลายสาขาในปีนี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและผู้ที่สนใจด้วย
นายพัลลภ สันติพันธุ์ ผู้จัดการธุรกิจระบบผลิตภัณฑ์ดิจิตัลและฟิล์ม ประจำประเทศไทย พม่า ลาว และ กัมพูชา บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของโกดักในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์เศรษฐกิจที่ดูแล้วค่อนข้างมีความผันผวน จึงมองว่า จะต้องมีการวางแผนการดำเนินธุรกิจแบบเดือนต่อเดือน โดยแต่ละเดือนจะต้องตีโจทย์ให้แตก ว่า ควรจะชูเรื่องอะไรเพื่อใช้ทำการตลาด จากเดิมที่มีการวางแผนเป็นปี หรือเป็นแบบไตรมาสต่อไตรมาสอย่างปีที่ผ่านมา เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ภาพรวมรายได้ของปีนี้ทรงตัวเท่าปีก่อน
ขณะที่ในปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า ภาพความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศช่วงปลายไตรมาส 3 เข้าไตรมาส 4 ได้ส่งผลต่อภาพรวมรายได้ให้มีการเติบโตต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 5%
แผนการทำตลาดในปีนี้ ทางบริษัทจะโฟกัสในเรื่องของพฤติกรรมการล้างอัดภาพของผู้บริโภคเป็นหลัก ในการพัฒนาโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” ให้ผู้บริโภคสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายออกมาเป็นรูปเล่มได้ด้วยตนเอง ภายในร้านที่ให้บริการทั้งในร้านโกดักเอ็กซ์เพรส, โกดักคีออส และพันธมิตรอย่าง โฟโต้ฮัท
สำหรับการลงทุนเบื้องต้น ขณะนี้มีจำนวนเครื่องที่รองรับโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” ทั้งหมด 300 จุด แบ่งเป็นในโกดักเอ็กซ์เพรส 200 จุด และโกดักคีออส อีก 100 จุด แต่สามารถให้บริการ “โฟโต้บุ๊คส์” ได้เพียง 20 จุดเท่านั้น ตั้งเป้าที่จะให้บริการที่ 100 จุดในปีนี้
โดยปี 2552 มีแผนจะเพิ่มจำนวนเครื่องอีก 40% จากฐาน 300 จุด ซึ่งการลงทุนอยู่ที่ราคา แสนกว่าบาทต่อเครื่อง นอกจากนี้ ยังมีการนำเครื่องดังกล่าวไปเปิดให้บริการในโฟโต้ฮัทอีกส่วนหนึ่งด้วยจำนวน 30 จุด ซึ่งเปิดให้บริการโปรแกรม “โฟโต้บุ๊คส์” ได้ 5-6 จุด ปีนี้จะพยายามเปิดให้บริการให้ได้ครบ 30 จุด
“สาเหตุที่หันมาให้ความสำคัญในส่วนของการล้างอัดภาพนั้น มองว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคมีความชื่นชอบในการถ่ายรูปมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังไม่มีขีดจำกัดในการถ่ายรูปอย่างที่ผ่านมา ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับฟิล์มถ่ายรูป บวกกับช่วงเวลานี้อากาศหนาวค่อนข้างยาวนาน ผู้บริโภคมีการถ่ายรูปสูง ดังนั้น จากปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ใช้บริการล้างอัดภาพอยู่ที่ 8 แสนใบต่อเดือน น่าจะมีแนวโน้มเติบโตที่ดีมาก ซึ่งการบุกตลาดครั้งนี้จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทั่วไปโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง ที่เรียนรู้ในการใช้เทคโนโลยี และชื่นชอบในการถ่ายภาพ”
นอกจากนี้ ในส่วนของกล้องดิจิตอล ปีนี้จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 14-16 รุ่น ระดับราคาตั้งแต่ 3,000-12,000 บาท หรือไตรมาสละประมาณ 4-5 รุ่น คาดว่า จะมีรายได้ในส่วนนี้เติบโตขึ้นประมาณ 10-12% ขณะที่ภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอล คาดว่า จะโตเพียง 6% ส่งผลให้ภาพรวมรายได้ของบริษัท ในส่วนของกล้องดิจิตอล จะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 35% ส่วนของการพิมพ์และล้างอัดภาพอยู่ที่ 50-55% และฟิล์มจะอยู่ที่ 5% จากเดิมปีก่อนอยู่ที่ 10%
นายพัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนร้านโกดักเอ็กซ์เพรส ปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่แล้วกว่า 467 สาขาทั่วประเทศ ตามแผนที่วางไว้ต้องการให้มีทั้งสิ้น 500 สาขา เพราะถือเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในตลาดยังไม่สูงมากนัก ทั้งนี้ คาดว่า จะเปิดเพิ่มได้อีกหลายสาขาในปีนี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและผู้ที่สนใจด้วย
