เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ชูแผนทำตลาดสแนกอย่างระมัดระวัง รับมือวิกฤตเศรษฐกิจกระทบตลาดมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท โตน้อย 7-9% ลั่นปีหน้าปั้นแบรนด์ใหม่เสริมธุรกิจ ล่าสุดอัดฉีด 50 ล้านบาท ปรับโฉมเทสโตครั้งใหญ่รอบ 5 ปี รีโพซิชันนิงใหม่ หวังขยายฐานลูกค้ากว้างขึ้นอายุ 13-35 ปี กินรวบคนรุ่นใหม่-วัยทำงาน ปีหน้าโตเกือบ 20% กวาดแชร์จาก 26% เป็น 30% รั้งอันดับ 2
นายปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินการตลาดกลุ่มขนมขบเคี้ยวในปีหน้านี้ จะเพิ่มความระมัดระวังการใช้จ่ายและการลงทุน เพื่อรองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การส่งออก และกลุ่มผู้บริโภครากหญ้า ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 7-9% เมื่อเทียบกับปีนี้ตลาดเติบโต10% โดยแผนปีหน้านี้บริษัทจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 1 แบรนด์ จากปัจจุบันมี เทสโต โดโซะ ปาร์ตี้ และแคมปัส
สำหรับกลุ่มเทสโต ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 50% ในกลุ่มขนมขบเคี้ยว ในปีหน้านี้บริษัทวางงบการตลาดมากกว่า 200 ล้านบาท โดยเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์สัดส่วน 60% และอะโบฟเดอะไลน์ สัดส่วน 30-40% และวางแผนจะเปิดตัวสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาด ล่าสุดในช่วงปลายปีนี้ได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท รีลอนช์มันฝรั่งเทสโตครั้งใหญ่ในรอบ 4-5 ปี โดยได้ปรับตำแหน่งการตลาดใหม่ เป็นมันฝรั่งของผู้ใฝ่หา ใฝ่สนุก สืบหาทุกประสบการณ์ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับชีวิต และยังได้เปลี่ยนสโลแกนสินค้าจาก “เทสโต ความอร่อยเฉพาะตัวที่พลาดไม่ได้” มาเป็น “เทสโต เผยรหัสลับแห่งรส”
นอกจากนี้เทสโตยังได้เปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด ในทุกรสชาติและทุกขนาด เพื่อให้สอดคล้องกับ Brand Essence ใหม่ ทั้งภาพบนบรรจุภัณฑ์แสดงถึงความสดใหม่ของอาหารจากแหล่งกำเนิด โดยเป้าหมายของการปรับในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น จากเดิมที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-25 ปี มาเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อายุ 13-35 ปี โดยเน้นไปที่ผู้บริโภคที่มีใจรักในความท้าทาย รักการค้นหา และชื่นชอบการค้นคว้าเรื่องราวแปลกใหม่
“การแข่งขันตลาดมันฝรั่งโดยมากคู่แข่งจะเน้นการเปิดตัวรสชาติใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 14 รสชาติ แต่เทสโตมี 11 รสชาติ นอกจากนี้ฐานลูกค้าของคู่แข่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเทสโต” นายปฐพงศ์กล่าว
ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง บริษัทได้วางกลยุทธ์สื่อสารแบบครบวงจร เน้นสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ โดยนำ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” มาเป็นพรีเซนเตอร์ และยังมีสื่อสนับสนุนอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ สื่อโฆษณาออนไลน์ สื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย สื่อสิ่งพิมพ์ การแจกสินค้าตัวอย่าง โปรโมชั่น พร้อมกันนี้ยังจัดกิจกรรม “แรลลี่ไขความลับ มันฝรั่งแท้จากธรรมชาติกับเทสโต” ที่ไร่มันฝรั่ง จังหวัดเชียงราย
สำหรับตลาดมันฝรั่งทอดกรอบในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม มูลค่า 4,500 ล้านบาท และขนมขึ้นรูปมูลค่า 4,900 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดขนมขบเคี้ยวอื่นๆ แต่ปีนี้นับว่าตลาดมีการเติบโตน้อยจากปกติเติบโต 10% เพราะประเด็นเรื่องมันฝรั่งขาดแคลน และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงกลางปี
อย่างไรก็ตามสำหรับเทสโตปีนี้เติบโต 45% สวนกระแสตลาดและคู่แข่ง เนื่องจากบริษัทเปิดตัวเทสโต คัลเลอร์ แมกซ์ ทั้งนี้จากการปรับโพซิชันนิ่งใหม่ ในปีหน้านี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตเกือบ 20% หรือส่วนแบ่งเพิ่มจาก 26% เป็น 30% รั้งอันดับ 2 รองจากเลย์ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 55%
นายปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินการตลาดกลุ่มขนมขบเคี้ยวในปีหน้านี้ จะเพิ่มความระมัดระวังการใช้จ่ายและการลงทุน เพื่อรองรับกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การส่งออก และกลุ่มผู้บริโภครากหญ้า ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดขนมขบเคี้ยวมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 7-9% เมื่อเทียบกับปีนี้ตลาดเติบโต10% โดยแผนปีหน้านี้บริษัทจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 1 แบรนด์ จากปัจจุบันมี เทสโต โดโซะ ปาร์ตี้ และแคมปัส
สำหรับกลุ่มเทสโต ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 50% ในกลุ่มขนมขบเคี้ยว ในปีหน้านี้บริษัทวางงบการตลาดมากกว่า 200 ล้านบาท โดยเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์สัดส่วน 60% และอะโบฟเดอะไลน์ สัดส่วน 30-40% และวางแผนจะเปิดตัวสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาด ล่าสุดในช่วงปลายปีนี้ได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท รีลอนช์มันฝรั่งเทสโตครั้งใหญ่ในรอบ 4-5 ปี โดยได้ปรับตำแหน่งการตลาดใหม่ เป็นมันฝรั่งของผู้ใฝ่หา ใฝ่สนุก สืบหาทุกประสบการณ์ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับชีวิต และยังได้เปลี่ยนสโลแกนสินค้าจาก “เทสโต ความอร่อยเฉพาะตัวที่พลาดไม่ได้” มาเป็น “เทสโต เผยรหัสลับแห่งรส”
นอกจากนี้เทสโตยังได้เปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด ในทุกรสชาติและทุกขนาด เพื่อให้สอดคล้องกับ Brand Essence ใหม่ ทั้งภาพบนบรรจุภัณฑ์แสดงถึงความสดใหม่ของอาหารจากแหล่งกำเนิด โดยเป้าหมายของการปรับในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น จากเดิมที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-25 ปี มาเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อายุ 13-35 ปี โดยเน้นไปที่ผู้บริโภคที่มีใจรักในความท้าทาย รักการค้นหา และชื่นชอบการค้นคว้าเรื่องราวแปลกใหม่
“การแข่งขันตลาดมันฝรั่งโดยมากคู่แข่งจะเน้นการเปิดตัวรสชาติใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 14 รสชาติ แต่เทสโตมี 11 รสชาติ นอกจากนี้ฐานลูกค้าของคู่แข่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเทสโต” นายปฐพงศ์กล่าว
ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง บริษัทได้วางกลยุทธ์สื่อสารแบบครบวงจร เน้นสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ โดยนำ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” มาเป็นพรีเซนเตอร์ และยังมีสื่อสนับสนุนอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่ สื่อโฆษณาออนไลน์ สื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย สื่อสิ่งพิมพ์ การแจกสินค้าตัวอย่าง โปรโมชั่น พร้อมกันนี้ยังจัดกิจกรรม “แรลลี่ไขความลับ มันฝรั่งแท้จากธรรมชาติกับเทสโต” ที่ไร่มันฝรั่ง จังหวัดเชียงราย
สำหรับตลาดมันฝรั่งทอดกรอบในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม มูลค่า 4,500 ล้านบาท และขนมขึ้นรูปมูลค่า 4,900 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดขนมขบเคี้ยวอื่นๆ แต่ปีนี้นับว่าตลาดมีการเติบโตน้อยจากปกติเติบโต 10% เพราะประเด็นเรื่องมันฝรั่งขาดแคลน และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงกลางปี
อย่างไรก็ตามสำหรับเทสโตปีนี้เติบโต 45% สวนกระแสตลาดและคู่แข่ง เนื่องจากบริษัทเปิดตัวเทสโต คัลเลอร์ แมกซ์ ทั้งนี้จากการปรับโพซิชันนิ่งใหม่ ในปีหน้านี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตเกือบ 20% หรือส่วนแบ่งเพิ่มจาก 26% เป็น 30% รั้งอันดับ 2 รองจากเลย์ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 55%