xs
xsm
sm
md
lg

สสปน.ดิ้นสู้จัดแสดงปีหน้าหด อัพเกรดงานท้องถิ่นขึ้นอินเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสปน.ปั้นดินเป็นดาว ดันเอ็กซิบิชั่นโลคัลขึ้นแท่นอินเตอร์ ประเดิม หนุนงาน “เปิดโลกอัญมณี และของดีเมืองจันท์” เปิดเวทีเทรดโชว์ผู้ซื้อพบผู้ขาย หวังใช้เป็นกลยุทธ์ดึงนักธุรกิจกลุ่มไมซ์เข้า สร้างเงินสะพัด ลดความเสี่ยง สู้ผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลก ยอมรับธุรกิจเอ็กซิบิชั่นปีหน้าโตหดเหลือ 5% เร่งผุดงานในประเทศรับมือ

นายพรรธระพี  ชินะโชติ  กรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และ นายกสมาคมการแสดงสินค้า(ไทย) หรือ TEA เปิดเผยว่า   สสปน.ได้จัดเตรียมแผนรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลต่อ ธุรกิจ การประชุม และแสดงสินค้า หรือ MICE (ไมซ์) ในปี 2552  นี้ โดยในส่วนของงาน คอนเวนชั่น( C ) และเอ็กซิบิชั่น ( E ) มีนโยบายเพิ่มจำนวนงาน   พร้อมหาช่องทางในการขยายงานด้วยการยกระดับงานที่จัดเป็นประจำอยู่แล้วในประเทศไทย ให้ขึ้นเป็นงานระดับชาติและระดับนานาชาติ(อินเตอร์)  ตัดสินจากศักยภาพของงาน

ล่าสุดนำร่องสนับสนุนการจัดงาน “เปิดโลกอัญมณี และของดีเมืองจันท์ ครั้งที่ 5” หรือ Chanthaburi World Gem Show 2008  เป็นงานแรก ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 ธ.ค. 51 ณ ศูนย์รวมอัญมณีและเครื่องประดับ จ.จันทบุรี  โดย สสปน. รับผิดชอบในส่วนของงานด้านการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านเครือข่ายสื่อที่เป็นพันธมิตร อาทิ CNN และ  CNBT ที่แพร่ภาพครอบคลุมหลายประเทศต่างๆทั่วโลก

นอกจากนั้นยังให้การแนะนำแก่ สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ในฐานะผู้จัดงาน ในการนำมาตรฐานการจัดงานแบบสากลมาปรับใช้ และกลยุทธ์ด้านการประชาสัมพันธ์งานไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ เพื่อต่อยอดให้แก่ผู้จัดงาน ซึ่งเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมงาน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ชื้อชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อเจรจาธุรกิจกับผู้ค้าอัญมณีคนไทยได้โดยตรง  ถือเป็นการสนับสนุนให้เกิดการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์

***ปั้นงานคันทรีขึ้นอินเตอร์****

นายพรรธระพี กล่าวว่า ในสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ที่เริ่มจะเห็นผลกระทบแล้วในหลายๆธุรกิจ  ทำให้ สสปน. ต้องทำงานเชิงลึกมากยิ่งขึ้น  โดย มีการสำรวจ และเปิดรับพิจารณางาน เอ็กซิบิชั่น และงานเทรดโชว์ต่างๆ ที่จัดอยู่แล้วในประเทศไทย  ที่ผู้จัดงานต้องการให้ สสปน. เข้าไปสนับสนุน ช่วยผลักดันให้เป็นงานระดับอินเตอร์  สร้างกระแสการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะการเปิดเวที ให้ผู้ซื้อได้พบผู้ผลิตโดยตรง ตรงนี้คือหัวใจหลัก ที่จะทำให้งานดูโดดเด่นเหนือคู่แข่งขัน ที่จัดงานในประเทศสิงคโปร์ หรือ ฮ่องกง

“ข้อได้เปรียบของประเทศไทย คือ  แหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ต่างชาติ ที่เข้ามาร่วมงานเอ็กซิบิชั่น เทรดโชว์ต่างๆ เมื่อเสร็จงานแล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อได้ ขณะที่คู่แข่งขันอย่างสิงคโปร์ หรือฮ่องกง ไม่มี  แต่จุดด้อยของไทยคือ ไม่มีงานระดับอินเตอร์ ที่จะเชิญชวนชาวต่างชาติเข้ามา จึงเป็นหน้าที่ของ สสปน.ที่ต้องเร่งสร้างปริมาณงานในรูปแบบอินเตอร์ให้เกิดมีมากขึ้น  เพื่อก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ ลดผลกระทบจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มถดถอย เพราะกลุ่มไมซืเป็นนักท่องเที่ยวระดับไฮเอน ใช้เงินต่อทริปสูง  ”

ในปีงบประมาณ 2552 สสปน. มีการพิจารณางานในประเทศไทยหลายงาน เพื่อผลักดันขึ้นสู่ระดับอินเตอร์ ซึ่งหลังจากงานเปิดโลกอัญมณี แล้ว คาดว่าในเดือน ธ.ค. ศกนี้ จะได้มีโอกาสเข้าไปสนับสนุนงาน PIMEX  หรือ ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล มารีน เอ็กซ์โป ซึ่งเป็นงานที่ชาวต่างชาติ ใช้ประเทศไทย คือ จ.ภูเก็ตสำหรับจัดงานมาตลอดทุกปี เป็นงานแสดงเรือยอร์ชที่ยิ่งใหญ่ ผู้เข้าร่วมงานเป็นไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอน

“การเข้าไปสนับสนุนงานที่มีศักยภาพ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ความจริงแล้ว การเรียกร้องให้สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ ในจังหวัดต่างๆ ไม่จำเป็นเท่ากับการสร้างงานระดับภูมิภาค หรือระดับจังหวัดให้ยิ่งใหญ่ เป็นที่ยอมรับในเวทีต่างชาติ เมื่อประสบความสำเร็จ นักธุรกิจ หรือ รัฐบาลมองเห็นศักยภาพ ก็จะมีการทุ่มงบประมาณเพื่อก่อสร้างศูนย์แสดงสินค้านานาชาติเข้ามาเอง “

***เอ็กซิบิชั่นโตหดตัว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปีหน้า ส่วนของธุรกิจไมซ์ที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดจากวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองในประเทศไทย คือ กรุ๊ป มิตติ้ง (M) และ  อินเซนทีฟ (I) เพราเป็นกลุ่มที่อ่อนไหว กับทุกสถานการณ์ แต่ E และ C หากกำหนดจัดงานไปแล้วจะยกเลิกยาก แต่ของใหม่จะไม่เกิดขึ้น ซึ่ง ปีหน้า งาน เอ็กซิบิชั่น จะมีจำนวนงานน้อยลง จากภาวะเศรษฐกิจ  สสปน. จึงจะใช้กลยุทธ์เพิ่มจำนวนงานให้มากขึ้น ด้วยการสร้างงาน เอ็กซิบิชั่นและคอนเวนชั่น ที่มีอยู่ในประเทศไทย ขึ้นเป็นงานระดับอินเตอร์ ถือเป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศ ส่วนกรุ๊ปสัมมนาดูงาน ของหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ก็ต้องขอความร่วมมือให้จัดขึ้นในประเทศไทย

ในฐานะนายกสมาคมการแสดงสินค้าไทย ยอมรับว่า การเติบโตของ ธุรกิจ เอ็กซิบิชั่นปีหน้า จะไม่เติบโต จากปีนี้ หรือดีที่สุดก็โตเพียง 5% จากทุกปีจะโตประมาณ 10-15%  จากมูลค่าตลาด เอ็กซิบิชั่น ประมาณ 3-5 พันล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมรายได้ที่เกิดจากการเทรดของผู้ค้า ที่เกิดเงินสะพัดอีกนับแสนล้านบาทต่อปี

สำหรับปี 2551 สสปน.ให้การสนับสนุนจัดงานกว่า 74 งาน ทั้งในลักษณะงานแสดงสินค้านานาชาติ ประเภท เทรดโชว์ และงานแสดงสินค้านานาชาติที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศต่างๆ หรือ คันทรี โชว์ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สสปน.ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถดึงงานประชุมและการจัดแสดงสินค้านานาชาติ สำคัญ เข้ามาจัดในประเทศไทยได้หลายงาน เช่น ITU Telecom Asia 2008 และ งาน Fespa Asia pacific นอกจากนั้น สสปน.ยังร่วมสนับสนุนดึงงานแสดงสินค้านานาชาติประเภท เทรดโชว์ รวมกว่า 30 งาน คาดว่าจะนำรายได้เข้าประเทศได้กว่า 2,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น