xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยเชื่อผจญวิกฤตอีกนาน รัดเข็มขัดรับโอกาสตกงานสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากการสำรวจออนไลน์ของนีลเส็น ของผู้บริโภค ซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ครั้งต่อปี เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ข้อกังวล และการจับจ่ายเงินจาก 52 ประเทศ จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ประมาณ 26,000 คน ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ถึง วันที่ 6 ตุลาคม 2551

ผลการสำรวจในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในระหว่างวิกฤตการณ์เงินทั่วโลก ผลสำรวจล่าสุด เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลก ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 99 ในปี พ.ศ.2549 มาแตะที่ระดับ 84 ในการสำรวจรอบนี้ โดยพบว่า จากทั้ง 52 ประเทศที่เราทำการสำรวจนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคใน 43 ประเทศ (หรือคิดเป็น 83%) ลดลงจากผลการสำรวจในครึ่งปีแรก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกค่อนข้างสิ้นหวัง โดย 62% คิดว่า โอกาสทางด้านการงานข้างหน้าจะไม่ค่อยดี และมากกว่าสองในสาม เชื่อว่า ภายใน 12 เดือนข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่จะซื้อสิ่งของที่พวกเขาต้องการ

ส่วนผู้บริโภคในประเทศที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว พบว่า ยังคงมีความเชื่อมั่นในทางบวกโดยจะเห็นได้จากผลการสำรวจ ว่า อินเดียเป็นประเทศที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสูงที่สุดอันดับหนึ่งในโลก บราซิล และ จีน มีระดับความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น ส่วน รัสเซีย ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ห้าของโลก ที่มองทิศทางในเศรษฐกิจในทิศทางที่ดี โดยประเทศทั้งหมดดังกล่าวจัดอยู่ในสิบลำดับแรกที่มีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจภายในประเทศของตน

นางจันทิรา ลือสกุล กรรมการผู้จัดการ นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศดังกล่าว เราพบว่าสินค้าและบริการหลายอย่างยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และการใช้จ่ายของผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบในระดับที่รุนแรงเหมือนอย่างประเทศในทางตะวันตก

ส่วนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดวิกฤตเศรษฐกิจ พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วยดัชนีความเชื่อมั่นที่ต่ำสุดในระดับใหม่ที่ 82 ซึ่งลดลงจากระดับ 100 จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยผู้บริโภคมากถึง 86% คิดว่า เศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ในภาวะถดถอย และมากกว่าครึ่งคิดว่าภาวะนี้จะยังคงยึดยาวไปอีกใน 12 เดือนข้างหน้า

ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทย เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการสำรวจใน 6 เดือนที่แล้วจาก 87 เป็น 89 โดยแปดในสิบของผู้บริโภคชาวไทย คิดว่า เศรษฐกิจของประเทศตนในขณะนี้อยู่ในภาวะถดถอย และสี่ในสิบของผู้บริโภคไม่เชื่อว่าประเทศของตนจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้ในอีกสิบสองเดือนข้างหน้า

จากการสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคชาวไทย (72%) เชื่อว่า โอกาสทางด้านการงานภายใน 12 เดือนข้างหน้า จะไม่ค่อยดีหรือแย่ และผู้บริโภคชาวไทย (68%) เชื่อว่า ในช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ไม่ดี หรือไม่เหมาะสมที่จะซื้อสิ่งของที่พวกเขาต้องการภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดยพบผู้บริโภคชาวไทยกว่าครึ่ง (58%) มีความประสงค์จะเก็บเงินในส่วนที่เหลือเพื่อเก็บออมหลังจากใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต

ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจจัดอยู่ในลำดับแรกที่ผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคชาวไทยกังวลมากที่สุด โดยพบผู้บริโภคชาวไทย (40%) กังวลเรื่องเศรษฐกิจ รองลงมาคือความไม่มั่นคงทางการเมือง (27%) ราคาน้ำมัน (20%) ปัญหาหนี้สิน (18%) และความมั่นคงในงาน (16%) ตามลำดับ

ผู้บริโภคชาวไทย กว่าครึ่ง (58%) มีความประสงค์จะออมเงินหลังจากใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคชาวไทยสนใจที่จะลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Funds) เป็นจำนวนมาก

ในขณะที่ไม่มีใครสามารถจะคาดการณ์ได้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจของโลกจะยืดเยื้อไปอีกนานเท่าไร นีลเส็น ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยได้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยพบว่าพวกเขาได้ตัดค่าใช้จ่ายในเรื่องต่อไปนี้ ประหยัดไฟ (60%), ลดการออกไปหาความบันเทิงนอกบ้าน (57%), ซื้อเสื้อผ้าใหม่น้อยลง (56%), ใช้รถยนต์น้อยลง (49%), ลดค่าโทรศัพท์ (44%)

นางจันทิรา กล่าวเสริมว่า การอยู่ในบ้านจะเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับผู้บริโภคในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเทรนด์นี้ก็ถือเป็นโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ที่ดี สำหรับธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสูง รวมถึงทางเลือกของสิ่งบันเทิงใหม่ๆ ซึ่งเจาะกลุ่มเฉพาะเพื่อความบันเทิงในบ้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น