นักวิเคราะห์ชี้เศรษฐกิจยุโรปถูกกระทบหนัก หลังประเทศคู่ค้ากลุ่มตลาดเกิดใหม่เริ่มชะลอตัว "ฝรั่งเศส-ฟินแลนด์" ยอดสั่งซื้อลดฮวบ "อีซีบี" ส่งสัญญาณหั่น ดบ.อีกรอบ สัปดาห์หน้า เพราะวิกฤตครั้งนี้ส่งผลกระทบแรงกว่าเงินเฟ้อ
วันนี้ (28 ต.ค.) นายนิค โคนิส นักวิเคราะห์จากธนาคารฟอร์ติส กล่าวยอมรับว่า เศรษฐกิจยุโรปกำลังได้รับผลกระทบจากอย่างหนัก เนื่องจากประเทศคู่ค้าในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของยุโรปถดถอยลง หลังจากที่เคยแซงหน้ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐและญี่ปุ่น
"ประเทศคู่ค้าที่ส่งออกสินค้าให้กับยุโรปในอัตรา 1 ใน 3 กำลังเผชิญปัญหาในภาคการธนาคารและค่าเงินที่ร่วงลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงกำลังส่งผลให้ความต้องการในตะวันออกกลางลดน้อยลงด้วย บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรป อาทิ บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็กทริก เอสเอ ของฝรั่งเศส และบริษัทโคน โอจี ของฟินแลนด์ ระบุว่า ยอดสั่งซื้อของบริษัทถดถอยลงเนื่องจากประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างจีนกำลังเผชิญภาวะสินเชื่อตึงตัว"
ด้านนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยอมรับว่า เขาไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะขยายตัวได้แกร่งพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปให้ฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าได้หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจยุโรปเกี่ยวพันกันอย่างมากกับประเทศคู่ค้าในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ พร้อมกับส่งสัญญาณว่า อีซีบี อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากวิกฤตการณ์ด้านการเงินส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปมากกว่าเงินเฟ้อ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตรียมปล่อยกู้ให้กับประเทศยูเครน 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ฮังการี เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อทั่วโลกและความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยได้ลุกลามไปถึงตลาดเกิดใหม่ในยุโรปตะวันออก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า รัฐบาลเบลเยี่ยมจะเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิมูลค่า 3.5 พันล้านยูโร หรือประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเคบีซี กรุ๊ป เอ็นวี ซึ่งเป็นธนาคารและบริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดของเบลเยียม ซึ่งถือเป็นมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินล่าสุดของรัฐบาลในแถบยุโรป