ครม.มือเปื้อนเลือดยังด้านทำงานต่อ เร่งอนุมัติโครงการเพียบ ทั้งไฟเขียวให้ กระทรวงพลังงาน จัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่ม พร้อมจี้ให้เร่งปรับขึ้นราคาก๊าซ “แอลพีจี” นอกจากนี้ และยังได้อนุมัติโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ราคา 1.2 หมื่นบาท/ตัน ตามที่คาดกันไว้ นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้ง ขรก.การเมืองอีกเพียบ
วันนี้ (21 ต.ค.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติเห็นสมควรให้กระทรวงพลังงานเพิ่มการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะต้องเป็นอัตราที่ไม่ต่ำกว่าการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ในนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ลดลงไปมากแล้ว ซึ่งเมื่อในวันที่ 17 ต.ค.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีเงินอยู่ประมาณ 3.1 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.ยังต้องการให้กระทรวงพลังงาน เร่งปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในภาคการขนส่ง เพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งในตอนนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน ในการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (คพช.)
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติโครงการรับจำนำข้าวนาปี ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอมา โดยจะรับจำนำข้าวเปลือก 100% ในราคาตันละ 1.2 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิ ตันละ 1.5 หมื่นบาท และข้าวเหนียว ราคาตันละ 9 พันบาทซึ่งกำหนดให้รับจำนำตั้งแต่ 1 พ.ย.2551-31 พ.ค.2552
“ราคาข้าวได้ลดลงมาบ้างในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ถึงกับลดลงไปมาก การกำหนดราคา 12,000 บาท ก็ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งราคานี้ คิดว่าพี่น้องเกษตรกรคงพอใจ”
ทั้งนี้ ครม.ยังให้กระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาดูแลราคาปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชและอาหารสัตว์ ให้มีราคาลดลง เพื่อช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร เนื่องจากได้ปรับลดราคาจำนำข้าวลงมา และราคาของต้นทุนการผลิต เช่น น้ำมัน ก็ลดลงมาแล้ว
ราคารับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ในวันนี้ อยู่ในระดับต่ำกว่าที่ ครม.เคยให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดรับจำนำข้าวเปลือก ในราคาตันละ 1.4 หมื่นบาท, ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 1.6 หมื่นบาท และข้าวเหนียวตันละ 1 หมื่นบาท
โดยช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งหารือกับผู้ผลิตปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และอาหารสัตว์เพื่อพิจารณาว่าจะมีการปรับลดราคา เพื่อช่วยลดต้นทุนของเกษตรกรได้อย่างไร
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการรับจำนำราคามันสำปะหลังว่า ยังไม่ได้มีการพิจารณาในวันนี้ เนื่องจาก นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรีขอให้มีการพิจารณาเรื่องราคาต้นทุนและราคาตลาดให้ชัดเจน โดยจะตั้งคณะทำงานเข้ามาศึกษาเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีนักวิชาการเข้าร่วมด้วย
**เร่งแต่งตั้ง ขรก.การเมืองเพียบ
นางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมครม. อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมืองตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้แต่งตั้ง ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ เป็นที่ปรึกษา รมว.พลังงาน
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติ ตามที่สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งบุคคลในการดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 18 ราย ได้แก่ 1.นายกฤษฎา การุญ 2.นายกิตติ์ธเนศ ก้องเกียรตินที 3.นายกล่ำคาน ปาทาน 4.นายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ 5.นายไชยรัตน์ ไทยเจียมอารีย์ 6.นายทนง บุษราคัม 7.นายธานินทร์ แสงวนิช 8.นายนพดล มีวรรณะ 9.นายนัฎฐ์ประชา เกื้อสกุล 10.นายไผ่ ลิกค์ 11.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ 12.นางสาวยุวลักษณ์ อภิธนาคุณ 13.นายศักดา นพสิทธิ์ 14.นายสยาม หัตถสงเคราะห์ 15.นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ 16.นายหัสนัยน์ สอนสิทธิ์ 17.นายเอกธนัช อินทร์รอด และ 18.นายอารี ไกรนรา
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง นายจิรัฎฐ์ นิธิอนันตภร ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้ง นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นอกจากนี้ ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้นายสมภพ งามแสงรัตน์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.ยุติธรรม
นางสาววีรินทร์ทิรา กล่าวอีกว่า ครม.อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการครม.เสนอให้แต่งตั้งนายธวัชชัย สวัสดิ์สาลี ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการครม.สำนักเลขาธิการครม.ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการครม.สำนักเลขาธิการ ครม.ทั้งนี้ ครม.อนุมัติตามนี้ที่กระทรวงการคลังเสนอให้แต่งตั้งบุคคลผู้มีรายนามดังต่อไปนี้ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการสลากแทนตำแหน่งที่ว่าง 2 ตำแหน่งดังนี้ 1.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 2.นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง เสนอแต่งตั้ง นายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ ครม.ยังอนุมัติแต่งตั้งนายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้รักษาราชการแทน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรมในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติราชการได้
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบปรับเปลี่ยนกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ชายฝังทะเลภาคใต้ (กขต.) จากเดิมรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นางจุฑามาศ บาระมีชัย) เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างการบริหารงานภายในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
