ทิฟฟานี่ มึน พิษเศรษฐกิจ การเมือง ฉุดลุกค้าเข้าชมการแสดงวูบ 40% ดิ้นหาทางรอด เจรจาเมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน นำทีมเปิดแสดง ที่ไทยทาวน์ ส่วนธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ “วู้ดแลนด์” ก็เหนื่อย ยอดพักไม่เข้าเป้า เหลือไม่ถึง 50% เหตุต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ชะลอลงทุนในประเทศไทย กระทบตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนักธุรกิจที่พำนักระยะยาว
นางสาวอลิสา พันธุ์ศักดิ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิฟฟานี่โชว์-พัทยา, วู้ดแลนด์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท และ วู้ดแลนด์ สวีทม เซอร์วิส เรสสิเดนซ์ กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าชมการแสดงทิฟฟานี่โชว์ ลดลงมากถึง 40% จากช่วงปกติที่จะมีผู้ชมราว 70-80% ของจำนวนที่นั่ง โดยกลุ่มที่หายมากสุด คือ คนไทย ทั้งนี้ เพราะผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันแพง ส่งผลให้ตลาดคนไทยชะลอการเดินทางท่องเที่ยว และใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
ล่าสุด มีแนวคิดจะเดินกลยุทธ์ตลาดเชิงรุก โดยเตรียมนำทิฟฟานี่โชว์ไปจัดแสดงที่เมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียด โดยรัฐบาลจีน โดยเมืองเซียะเหมิน ต้องการจัดย่านเมืองไทย หรือไทยทาวน์ ขึ้นมาเป็นจุดขาย เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จึงต้องการทิฟฟานี่ไปจัดแสดงโชว์ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จ ก็เท่ากับว่า ทิฟฟานี่ ได้ขยายตลาดและฐานลูกค้าสู่ประเทศจีนอีกแห่งหนึ่ง
“ยอมรับว่า ธุรกิจของทิฟฟานี่ จะผูกติดกับสถานการณ์นักท่องเที่ยว หาก โรงแรม หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพัทยาลดลง ลูกค้าของทิฟฟานี่ก็จะลดลงด้วย เพราะส่วนใหญ่แต่ละโรงแรม หรือแพกเกจทัวร์จะบรรจุการแสดงของทิฟฟานี่เข้าไปในแพกเกจด้วย ทุกวันนี้มีลูกค้ามาใช้บริการวันละไม่ถึง 1 พันคน จากปกติจะมีลูกค้าวันละราว 1.5-2 พันคน มาโดยตลอด”
สำหรับตลาดต่างชาติ ที่หายไปเยอะสุด ได้แก่ เกาหลี เวียดนาม รัสเซีย และ อินเดีย ส่วนตลาดคนไทย ปกติช่วงศุกร์-เสาร์ จะมีสัดส่วนต่อผู้ชมทั้งหมดที่ 60% ปัจจุบันนี้บางวันไม่มีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้าชมเลย แต่ในช่วงปิดเทอมนี้เริ่มมีลูกค้าคนไทยบาง 20-30%
นางสาวอลิสา กล่าวถึงธุรกิจโรงแรม ว่า ล่าสุด เปิดตัว วู้ดแลนด์ สวีท เซอร์วิส เรสสิเดนซ์ ไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่อัตราเข้าพักไม่ดีอย่างที่หวังไว้ โดยมีอัตราเข้าพักต่ำกว่า 50% ของจำนวนห้อง ทั้งนี้ เพราะจากภาวะเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศไทย ภาวะการเมืองของไทย ทำให้ต่างชาติชะลอการลงทุนในประเทศไทย เปลี่ยนไปลงทุนที่ประเทศเวียดนาม จึงกระทบกับลูกค้าเป้าหมายหลักของโรงแรม คือ กลุ่มพำนักระยะยาวเพื่อทำงาน และกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้น บริษัทจึงหาทางออกด้วยการเดินสายเจาะกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน เพื่อหวังกระตุ้นให้ทางโรงแรมมีอัตราเข้าพักเพิ่มเป็น 60% ให้ได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ วู้ดแลนด์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท มีอัตราเข้าพัก 62% ในเดือน ก.ย. จากปกติจะมีอัตราเข้าพักที่ 70-80% เพราะเดือนดังกล่าว รัฐประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ หากสถานการณ์ไม่แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ ก็หวังว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงไฮซีซัน ประคองให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีเพิ่มเป็น 70% ก็ยังพอให้ธุรกิจอยู่ได้ ซึ่งจะเน้นเจาะตลาดคู่ฮันนีมูนจากเกาหลี แต่ทุกๆ ปีที่ผ่านมาทางโรงแรมจะมีลูกค้าเข้าพักเฉลี่ยที่ 90% ฉุกเฉิน ต่ำกว่าปกติที่อัตราเข้าพักไม่เคยต่ำกว่า 70-80% อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังว่า หากทั้งปีอัตราเข้าพักถึง 70% ก็ถือว่าดีแล้ว แม้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักถึง 90%
นางสาวอลิสา พันธุ์ศักดิ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิฟฟานี่โชว์-พัทยา, วู้ดแลนด์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท และ วู้ดแลนด์ สวีทม เซอร์วิส เรสสิเดนซ์ กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าชมการแสดงทิฟฟานี่โชว์ ลดลงมากถึง 40% จากช่วงปกติที่จะมีผู้ชมราว 70-80% ของจำนวนที่นั่ง โดยกลุ่มที่หายมากสุด คือ คนไทย ทั้งนี้ เพราะผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันแพง ส่งผลให้ตลาดคนไทยชะลอการเดินทางท่องเที่ยว และใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
ล่าสุด มีแนวคิดจะเดินกลยุทธ์ตลาดเชิงรุก โดยเตรียมนำทิฟฟานี่โชว์ไปจัดแสดงที่เมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียด โดยรัฐบาลจีน โดยเมืองเซียะเหมิน ต้องการจัดย่านเมืองไทย หรือไทยทาวน์ ขึ้นมาเป็นจุดขาย เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จึงต้องการทิฟฟานี่ไปจัดแสดงโชว์ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จ ก็เท่ากับว่า ทิฟฟานี่ ได้ขยายตลาดและฐานลูกค้าสู่ประเทศจีนอีกแห่งหนึ่ง
“ยอมรับว่า ธุรกิจของทิฟฟานี่ จะผูกติดกับสถานการณ์นักท่องเที่ยว หาก โรงแรม หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพัทยาลดลง ลูกค้าของทิฟฟานี่ก็จะลดลงด้วย เพราะส่วนใหญ่แต่ละโรงแรม หรือแพกเกจทัวร์จะบรรจุการแสดงของทิฟฟานี่เข้าไปในแพกเกจด้วย ทุกวันนี้มีลูกค้ามาใช้บริการวันละไม่ถึง 1 พันคน จากปกติจะมีลูกค้าวันละราว 1.5-2 พันคน มาโดยตลอด”
สำหรับตลาดต่างชาติ ที่หายไปเยอะสุด ได้แก่ เกาหลี เวียดนาม รัสเซีย และ อินเดีย ส่วนตลาดคนไทย ปกติช่วงศุกร์-เสาร์ จะมีสัดส่วนต่อผู้ชมทั้งหมดที่ 60% ปัจจุบันนี้บางวันไม่มีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้าชมเลย แต่ในช่วงปิดเทอมนี้เริ่มมีลูกค้าคนไทยบาง 20-30%
นางสาวอลิสา กล่าวถึงธุรกิจโรงแรม ว่า ล่าสุด เปิดตัว วู้ดแลนด์ สวีท เซอร์วิส เรสสิเดนซ์ ไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่อัตราเข้าพักไม่ดีอย่างที่หวังไว้ โดยมีอัตราเข้าพักต่ำกว่า 50% ของจำนวนห้อง ทั้งนี้ เพราะจากภาวะเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศไทย ภาวะการเมืองของไทย ทำให้ต่างชาติชะลอการลงทุนในประเทศไทย เปลี่ยนไปลงทุนที่ประเทศเวียดนาม จึงกระทบกับลูกค้าเป้าหมายหลักของโรงแรม คือ กลุ่มพำนักระยะยาวเพื่อทำงาน และกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้น บริษัทจึงหาทางออกด้วยการเดินสายเจาะกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน เพื่อหวังกระตุ้นให้ทางโรงแรมมีอัตราเข้าพักเพิ่มเป็น 60% ให้ได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ วู้ดแลนด์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท มีอัตราเข้าพัก 62% ในเดือน ก.ย. จากปกติจะมีอัตราเข้าพักที่ 70-80% เพราะเดือนดังกล่าว รัฐประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ หากสถานการณ์ไม่แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ ก็หวังว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงไฮซีซัน ประคองให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีเพิ่มเป็น 70% ก็ยังพอให้ธุรกิจอยู่ได้ ซึ่งจะเน้นเจาะตลาดคู่ฮันนีมูนจากเกาหลี แต่ทุกๆ ปีที่ผ่านมาทางโรงแรมจะมีลูกค้าเข้าพักเฉลี่ยที่ 90% ฉุกเฉิน ต่ำกว่าปกติที่อัตราเข้าพักไม่เคยต่ำกว่า 70-80% อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังว่า หากทั้งปีอัตราเข้าพักถึง 70% ก็ถือว่าดีแล้ว แม้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีอัตราเข้าพักถึง 90%
