xs
xsm
sm
md
lg

ซันโยลุยกล้องดิจิตอลมูฟวิ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซันโยลุยตลาดกล้องเต็มสูบ ทุ่ม 30 ล้านบาท เจาะเซ็กเมนต์นิชมาร์เก็ต จับตลาดกล้องดิจิตอลมูฟวิ่ง คาเมร่า หนีตลาดกล้องดิจิตอลภาพนิ่ง เหตุการณ์แข่งขันสูง สู้แบรนด์เจ้าตลาดยาก อัดหนักโค้งสุดท้าย เปิดม่านแคมเปญ Xacti party days 2008 ถล่มลดราคาโกยยอดขาย มั่นใจทั้งปี รายได้โตเท่าตัว กว่า 240 ล้านบาท

นายพศณัฐ ทองเจือ ผู้จัดการอาวุโส แผนกขายโมเดิร์นเทรด แผนกขายกล้องดิจิตอล บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า 5 ปี ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทได้เข้ามาทำตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทย ถือเป็นช่วงที่ยังไม่มีการทำตลาดอย่างจริงจัง มีเพียงการเปิดตัวสินค้าเข้าสู่ตลาดบ้าง รวมถึงมีการลงโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่ในปีนี้ เนื่องจากเรามีไลน์สินค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้วางโพซิชันในการทำตลาดกล้องดิจิตอลแล้วว่า จะรุกไปไหน ปีนี้จึงถือเป็นปีแรกที่บริษัทได้มีการทำตลาดอย่างจริงจัง ภายใต้งบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท

ส่วนสินค้าที่บริษัทจะใช้เป็นหัวหอกในการทำตลาดของกล้องดิจิตอล คือ กลุ่มกล้องดิจิตอล ที่เรียกว่า กล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมร่า ซึ่งเป็นกล้องที่มีฟังก์ชั่นการทำงานในโหมดวิดีโอ พร้อมฟังก์ชันการถ่ายภาพนิ่งที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก ซึ่งถือเป็นสินค้ากลุ่มนิชมาร์เก็ตที่อยู่ระหว่างกล้องวิดิโอดิจิตอล และกล้องดิจิตอล โดยในตลาดนี้ยังไม่มีผู้เล่นจริงจัง มีเพียงซันโยเท่านั้น

นายพศณัฐ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ซันโยหันมาทำตลาดกล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมร่า เนื่องจากซันโยเข้ามาตลาดกล้องทีหลัง ขณะที่เจ้าตลาดและแบรนด์อื่นๆ ค่อนข้างแข็งแกร่ง ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแบรนด์ค่อนข้างสูง บวกกับการแข่งในกลุ่มกล้องดิจิตอลภาพนิ่งค่อนข้างรุนแรง แต่ละปีภาพรวมกล้องดิจจิตอลมีราคาลดลง 10-20% ด้วยแล้ว จึงมองว่า การจับตลาดนิชมาร์เก็ต น่าจะเป็นสิ่งที่จะทำได้ง่ายกว่า

โดยปัจจุบันในกลุ่มกล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมร่า มีวางจำหน่ายอยู่ 6 โมเดล ปีนี้เปิดตัวรุ่นใหม่ อีก 3 โมเดล ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 19,990-39,990 บาท ขณะที่กล้องดิจิตอลภาพนิ่ง มีวางจำหน่ายอยู่แล้ว 6 โมเดล ปีนี้นำเข้ามาจำหน่ายอีก 2 โมเดล ราคาอยู่ในหลักพันบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้จาก 2 กลุ่มนี้ กว่า 70% มาจากกล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมร่า โดยปีนี้ตั้งยอดขายไว้ที่ 13,000 เครื่อง เติบโตจากปีก่อน 3 เท่า ส่วนอีก 30% มาจากกล้องดิจิตอลภาพนิ่ง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 1 เท่าตัว หรือประมาณ 20,000 เครื่อง หรือโดยรวมแล้ว กลุ่มกล้องดิจิตอล ปีนี้คาดว่า จะมีรายได้ที่ 240 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 1 เท่าตัว หรือคิดเป็นรายได้ 10% ของรายได้รวมบริษัท

ล่าสุด ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ ภายใต้ชื่อ Xacti Party Days 2008 ระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ สำหรับกลุ่มสินค้ากล้องดิจิตอลโดยเฉพาะ กับการนำเสนอสินค้าแบบลดราคา รวมถึงการผ่อนสินค้าปลอดดอกเบี้ย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่สถานการณ์ทางการเมืองมีผลกระทบกับตลาดกล้องดิจิตอลไปบ้างในช่างที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน มองว่า ช่วงไตรมาสสี่นี้ ซึ่งถือเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว และเป็นไฮซีซันของตลาดกล้องดิจิตอลอีกครั้ง เชื่อว่า การแข่งขันของตลาดกล้องดิจิตอลจะมีความรุนแรง จะมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะในเรื่องของการลดราคาสินค้า เพราะต่างก็ต้องการยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น