กลุ่มชาราฟทุ่ม 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ลุยเปิดชอป “ฟอร์เอฟเวอร์21” 10 สาขา หลังได้ไลเซ่นส์แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา ส่วนไทยทุ่ม 150 ล้านบาทเนรมิตพื้นที่กว่า 3,450 ตารางเมตร ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ ใหญ่สุดในโลก ชูความหลายหลายของเสื้อผ้า ผลัดเปลี่ยนไม่ซ้ำแบบทุกๆอาทิตย์
นายอาตูล ตะวักลีย์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทชาราฟ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านแฟชั่นค้าปลีก เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ไลเซ่นส์เป็นผู้ดูแลและทำตลาดแบรนด์ฟอร์เอฟเวอร์21 จากประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้วหลายประเทศในแถบตะวันออกกลางและในเอเชีย รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ประเทศ อาทิ มาเลเซียมี 4 สาขา, สิงคโปร์ 2 สาขา, อินโดนีเซีย 1 สาขา, จอร์แดน 1 สาขา, บาเรน 2 สาขา, ดูไบ 6 สาขา และ ซาอุดิอารเบีย 2 สาขา
ล่าสุดขยายธุรกิจเข้ามาที่ประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ โดยใช้ใบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เปิดชอปฟอร์เอฟเวอร์21 พื้นที่ 3,450 ตารางเมตร ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นชอปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ อย่างไรก็ตามปีหน้าทางสหรัฐอเมริกาจะเปิดให้บริการชอปที่ใหญ่กว่าของไทยที่นิวยอร์ค
ศักยภาพและการเปิดรับแฟชั่นของกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าแฟชั่นมากขึ้น ตลาดเติบโตดีอยู่ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี จากจุดแข็งของฟอร์เอฟเวอร์21 คือ การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่มานำเสนออาทิตย์ละครั้ง โดยแต่ละแบบจะมีเพียง 10-30 ชิ้นเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นแฟชั่นและดีไซน์ที่นำเข้าจากสหรัฐช้ากว่าเพียง 2-3 วันเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายของเสื้อผ้าและแอทเซทเซอรี่ เริ่มตั้งแต่ 190 ไปจนถึงหลักพันบาท
อย่างไรก็ตามแผนของกลุ่มบริษัทชาราฟขณะนี้ ยังมีการพัฒนาชอปขึ้นอีกรวม 10 สาขา ในหลายๆประเทศที่ได้ไลเซ่นส์มา ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมอีกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า
ส่วนกลุ่มบริษัทชาราฟ ถือเป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากไทยหลายแบรนด์ ในแถบตะวันออกกลาง เช่น AIIZ ขณะที่ในประเทศไทย ชาราฟนำแบรนด์ฟอร์เอฟเวอร์21 ซึ่งถือเป็นแบรนด์จากต่างประเทศ เข้ามาจำหน่ายเป็นแบรนด์แรก โดยมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มแต่ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและทำเลที่เหมาะสมในอนาคต อย่างไรก็ตามมูลค่าตลาดแฟชั่นของไทย มีมูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท ในปีก่อน ปีนี้คาดว่าจะโตที่ประมาณ 11%
นายอาตูล ตะวักลีย์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทชาราฟ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านแฟชั่นค้าปลีก เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ไลเซ่นส์เป็นผู้ดูแลและทำตลาดแบรนด์ฟอร์เอฟเวอร์21 จากประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้วหลายประเทศในแถบตะวันออกกลางและในเอเชีย รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ประเทศ อาทิ มาเลเซียมี 4 สาขา, สิงคโปร์ 2 สาขา, อินโดนีเซีย 1 สาขา, จอร์แดน 1 สาขา, บาเรน 2 สาขา, ดูไบ 6 สาขา และ ซาอุดิอารเบีย 2 สาขา
ล่าสุดขยายธุรกิจเข้ามาที่ประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ โดยใช้ใบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เปิดชอปฟอร์เอฟเวอร์21 พื้นที่ 3,450 ตารางเมตร ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นชอปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ อย่างไรก็ตามปีหน้าทางสหรัฐอเมริกาจะเปิดให้บริการชอปที่ใหญ่กว่าของไทยที่นิวยอร์ค
ศักยภาพและการเปิดรับแฟชั่นของกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิงอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าแฟชั่นมากขึ้น ตลาดเติบโตดีอยู่ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี จากจุดแข็งของฟอร์เอฟเวอร์21 คือ การผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่มานำเสนออาทิตย์ละครั้ง โดยแต่ละแบบจะมีเพียง 10-30 ชิ้นเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นแฟชั่นและดีไซน์ที่นำเข้าจากสหรัฐช้ากว่าเพียง 2-3 วันเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายของเสื้อผ้าและแอทเซทเซอรี่ เริ่มตั้งแต่ 190 ไปจนถึงหลักพันบาท
อย่างไรก็ตามแผนของกลุ่มบริษัทชาราฟขณะนี้ ยังมีการพัฒนาชอปขึ้นอีกรวม 10 สาขา ในหลายๆประเทศที่ได้ไลเซ่นส์มา ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมอีกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า
ส่วนกลุ่มบริษัทชาราฟ ถือเป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากไทยหลายแบรนด์ ในแถบตะวันออกกลาง เช่น AIIZ ขณะที่ในประเทศไทย ชาราฟนำแบรนด์ฟอร์เอฟเวอร์21 ซึ่งถือเป็นแบรนด์จากต่างประเทศ เข้ามาจำหน่ายเป็นแบรนด์แรก โดยมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มแต่ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการและทำเลที่เหมาะสมในอนาคต อย่างไรก็ตามมูลค่าตลาดแฟชั่นของไทย มีมูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาท ในปีก่อน ปีนี้คาดว่าจะโตที่ประมาณ 11%