ไทยแอร์เอเชีย ดิ้นสู้โค้งสุดท้าย ชิงอัดแคมเปญถี่เฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน หวังกระตุ้นยอดขายช่วงไฮซีซัน ยอมรับพิษ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นผลเสียต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวเผ่นหนี ยอดจองล่วงหน้า ต.ค.-พ.ย.วูบกว่า 50% ยันไม่ปรับลดพนักงาน คุยบริหารจัดการได้ ย้ำไม่คิดปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน เหตุราคาโลกยังผันผวน
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ ไทยแอร์เอเชีย กล่าวยอมรับว่า ไฮซีซันปีนี้ สถานการณ์นักท่องเที่ยวอาจไม่คึกคักเท่ากับปีที่ผ่านๆ มา โดยวัดได้จาก ยอดการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าของ ไทยแอร์เอเชีย ในเดือนตุลาคม มีเพียง 50% และเดือนพฤศจิกายน มีเฉลี่ยเพียง 40% ของอัตราขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งน้อยกว่าปีก่อน ที่ช่วงนี้จะมียอดจองล่วงหน้าเข้ามามากถึง 80-100%
“แม้รัฐบาลจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว เกือบ 2 สัปดาห์ แต่สถานการณ์นักท่องเที่ยวก็ยังไม่กลับมาคึกคัก ทั้งนี้ เป็นเพราะช่วงเวลาที่ประเทศไทย ประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินนั้น มีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศและหลายกลุ่ม อาทิ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ได้เปลี่ยนการเดินทางไปยังประเทศอื่นแทน โดยเฉพาะตลาดจีน ที่ลดลงกว่า 50% เพราะช่วงวันชาติจีน 1-10 ตุลาคม ทุกปี ที่เป็นวันหยุดยาว ชาวจีนจะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก”
ดังนั้น ในต้นเดือนตุลาคมศกนี้ ไทยแอร์เอเชีย จึงเตรียมเปิดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปลายปีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายของปี ประกอบกับต้องการตอกย้ำกลยุทธ์สร้างการรับรู้และภักดีในตราสินค้า นั่นคือ แบรนด์ ของ ไทยแอร์เอเชีย ให้อยู่ในใจผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้เลือกใช้บริการเป็นลำดับแรกๆ เมื่อคิดจะเดินทางด้วยเครื่องบิน นอกจากนั้น บริษัทยังเพิ่มความถี่ของการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ช่วงไฮซีซั่นเป็นอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง จากปีก่อนๆ ในช่วงไฮซีซันจะไม่ทำแคมเปญเลย หรือ ถ้าทำก็ไม่เกินเดือนละ 1 ครั้ง เพราะปลายปีเป็นช่วงที่ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเดินทางท่องเที่ยวอยู่แล้ว
นายทัศพล กล่าวอีกว่า จากการที่ภาครัฐ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในทุกภาคส่วน รวมถึงไทยแอร์เอเชีย ได้เร่งโฆษณา ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย เรียกความเชื่อมั่นประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติให้กลับคืนมา ภายหลังการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ทำให้ยังมีความหวังว่า ช่วงปลายไตรมาส 4 ต่อเนื่องต้นปี ซึ่งถือว่ายังอยู่ในช่วงไฮซีซั่น สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนปรับลดอัตราพนักงาน เหมือนสายการบินอื่น เพราะสามารถบริหารจัดการจำนวนพนักงานกับงานที่มีอยู่ให้ลงตัวในต้นทุนที่พอเหมาะ และก็ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมัน ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เพราะมองว่าราคาน้ำมันยังไม่หยุดนิ่ง แต่มีแนวโน้มผันผวนตลอดเวลา