xs
xsm
sm
md
lg

คลัง-แบงก์ชาติ-ตลท.ประชุมฉุกเฉิน รับมือวิกฤตตลาดเงินสหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บิ๊ก ตลท.ชงมาตรการฉุกเฉินกู้วิกฤตตลาดหุ้น เข้าที่ประชุมร่วมคลัง-แบงก์ชาติ เตรียมเข็นมาตรการชุดใหญ่รับมือผลกระทบจากสหรัฐฯ หวังเรียกความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุน คาดเสนอตั้งกองทุนพยุงหุ้นเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่อาจมีปัญหา ขณะที่ ดร.ซุป ยันพื้นฐาน ศก.ไทย ยังแข็งแกร่ง “สมชาย” พลิ้วแถลงมาตรการฉุกเฉินแค่จิตวิทยา “เลี้ยบ” โบ้ยพันธมิตรฯ ทำนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น

วันนี้ (18 ก.ย.) นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการเสนอวาระด่วนในการออกมาตรการเพื่อกู้วิกฤตตลาดหุ้นที่กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ โดยเบื้องต้นจะเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาด และอาจมีการเสนอตั้งกอทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ

นางภัทรียา ระบุว่า มาตรการเรียกความเชื่อมั่นที่อาจนำออกมาใช้น่าจะเป็นการจัดตั้งกองทุนเพื่อเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเป็นเงินจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อแสดงให้นักลงทุนเห็นว่าภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนมีความเชื่อมั่น และพร้อมที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมองพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังดี โดยเฉพาะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกิดจากวิกฤตสถาบันการเงินในต่างประเทศซึ่งจะมีผลกระทบกับไทยน้อยมาก

นางภัทรียา การที่ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันนี้ไปถึง 5% แล้วนั้น มาจากปัจจัยหลักเรื่องเดียวคือความกังวลต่อสถานการณ์วิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่อาจลุกลามออกไปอีก ซึ่งกดดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วทั้งภูมิภาคร่วงลงหนักในช่วงเช้าวันนี้

“วันนี้เป็นวันที่การลงทุนในตลาดหุ้นได้รับ effect จากวิกฤตการในสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก แต่จากการติดตามดูเมื่อเทียบกับภูมิภาคตลาดหุ้นอื่นก็ตกเช่นกัน”

ทั้งนี้ จากการรายงานของบริษัทจดทะเบียน พบว่า ความเกี่ยวข้องกับ เลห์แมน บราเธอร์ส มีไม่มากนัก โดยเป็นส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการเงิน ซึ่งเท่าที่รายงานเข้ามาที่ ตลท.ก็มีบ้างแต่เท่าที่ดูแล้วมีน้อย ไม่น่าจะกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานหรือฐานะของกิจการ

ขณะที่ กองทุนรวมเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ของไทยมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเลห์แมน ในหลักแค่ 100 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจากการประเมินแล้วเชื่อว่า ไม่ได้มีผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นนัยสำคัญ

“สำหรับการประชุมร่วมกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และแบงก์ชาติ ตลท.จะมีการพิจารณาแนวทางการรับมือปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยจะเน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน”

อย่างไรก็ตาม แนวทางหนึ่งที่น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ก็คือ ช่วงนี้นับเป็นจังหวะที่ดีของการเข้าไปลงทุนของกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ที่ได้จัดขึ้นมาในช่วงนี้ โดยมูลค่าสินทรัพย์ที่พร้อมลงทุนมีกว่า 8.2 พันล้านบาท เป็นโอกาสที่ดีที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนได้ในช่วงนี้ที่หุ้นไทยราคาปรับลดลงมาก

นอกจากนั้น จากการจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส ทางนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนต่างๆ ยังมีความมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจไทย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ส่วนกระแสข่าวลือที่บอกว่า สาเหตุที่ดัชนีหุ้นไทยวันนี้หลุดระดับ 600 จุด เป็นผลกระทบมาจากข่าวลือสะพัดในห้องค้าที่ว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปฎิเสธรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วยหรือไม่นั้น นางภัทรียา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่มีความชัดเจน คงต้องรอความชัดเจนก่อน แต่ปัจจัยหลักๆ มาจากกรณีปัญหาในสหรัฐมากกว่า

**ดร.ซุป ยันพื้นฐาน ศก.ไทยแข็งแกร่ง

นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (อังค์ถัด) กล่าวว่ารัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย ให้นักลงทุนไทยและต่างประเทศ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลกขณะนี้อยู่ในสภาวะไม่ปกติ การดำเนินการนโยบายต่างๆ ต้องรอให้มีความชัดเจน แม้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งทั้งทางด้านเงินออมและการส่งออกที่ดี แต่ควรเอื้ออำนวยให้ธุรกิจเอกชน เพื่อช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในส่วนเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง รัฐบาลไม่ควรชะล่าใจ เพราะกำลังซื้อของประชาชนได้ลดลงด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นายศุภชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ควรมีสถาบัน หรือองค์กร เข้ามาจัดการปัญหาทางการเงินโลก ซึ่งต้องเป็นการร่วมมือกันของหลายประเทศ

** “สมชาย” ยันมาตรการฉุกเฉินเป็นแค่จิตวิทยา

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์ หลังการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ตลท.และแบงก์ชาติ โดยเชื่อว่า ปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐฯ กรณีการล้มละลายของ เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 น่าจะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยา ต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังมีความเข้มแข็ง โดยรัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจ็คต์ ตามแผนงานต่อไป

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นหลังจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยร่วงหนักจนหลุด 600 จุดในวันนี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรืองจิตวิทยา การจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หากด้านจิตวิทยายังไม่ได้รับการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยส่วนหนึ่งที่กดดันตลาดหุ้นไทยคือปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่น และมีความกังวลมาโดยตลอด ดังนั้น จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาการเมืองให้ประเทศชาติกลับมาสามัคคีและปรองดองกันให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าพื้นฐานตลาดหุ้นไทยแข็งแกร่ง และบริษัทจดทะเบียนยังมีผลประกอบการที่ดีอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น