เทสโก้ โลตัส ยอมรับการทำตลาดดึงลูกค้าเข้าห้างเริ่มลำบาก เหตุปัญหาการเมือง เศรษฐกิจแย่ แต่ยืนยันลูกค้ายังไม่ลดการจับจ่ายเข้าห้าง พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “แม่บ้านยอดประหยัด” กระตุ้นการจับจ่าย
นายกวิน สัณฑกุล กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหาร เทสโก้โลตัสในไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งทางด้านการเมือง และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง เงินเฟ้อสูงถึง 9% แต่กำลื้อของผู้บริโภคไม่ได้สูงขึ้นตามไปด้วยแต่อย่างใด ส่งผลให้การทำตลาดในการดึงผู้บริโภคเข้าห้างยากมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะใกล้นี้ ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของบริษัท โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทฯมีลูกค้าเข้าเทสโก้โลตัสโดยรวมประมาณ 20-30 ล้านคนต่อเดือน ในเครือข่ายเทสโก้ทั้งหมด และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ บริษัทต้องทำการตลาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมและแคมเปญ โดยยึดปัจจัยหลักในการทำตลาดตามที่ได้ศึกษาวิจัยมา 5 ประเด็น คือ 1.ราคาต้องต่ำและถูก ซึ่งประเด็นการลดราคาเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด เพราะจับต้องได้ทันที 2.สินค้า ต้องเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคด้วยไม่ใช่ถูกอย่างเดียว 3.คิวในการจ่ายเงินและบริการต้องรวดเร็ว 4.บริการของพนักงานต้องสุภาพ เรียบร้อย 5. บรรยากาศในการชอปปิ้งในห้าง ที่ต้องดึงดูดลูกค้า
ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “แม่บ้านยอดประหยัด” (Mrs.Save) โดยนำเอา “กวาง-กมลชนก เขมะโยธิน” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แคมเปญนี้ โดยบริษัทใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานแคมเปญนี้ในช่วง 3 เดือนจากนี้
แคมเปญนี้เกิดจากการสำรวจลูกค้ากว่าา 15,000 คนจากทุกสาขา ถึงความต้องการและความพึงพอใจ พบว่า แม่บ้านคำนึงถึงความประหยัดมากที่สุด ทำให้เราตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการจึงเกิดแคมเปญนี้ ซึ่งแคมเปญนี้จะมีหลายกลยุทธ์ที่ตอบสนองลูกค้าได้ เช่น โปรโชั่นซื้อ 1 แถม 1, สินค้าโรลแบ็ค, เทสโก้โบรกเกอร์ประกันภัยหรือบิลเพย์เม้นท์ เป็นต้น โดยเฉพาะกลยุทธ์โรลแบ็คนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ล่าสุด หลังจากที่ทำมาประมาณ 8 สัปดาห์แล้วพบว่า มียอดขายเกินเป้าหมายที่ตั้งกว่า 15% ที่ผ่านมาโรลแบ็คช่วยลูกค้าประหยัดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้รวมของบริษัทในปีนี้เติบโตขึ้น 20%
นายกวิน สัณฑกุล กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหาร เทสโก้โลตัสในไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งทางด้านการเมือง และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง เงินเฟ้อสูงถึง 9% แต่กำลื้อของผู้บริโภคไม่ได้สูงขึ้นตามไปด้วยแต่อย่างใด ส่งผลให้การทำตลาดในการดึงผู้บริโภคเข้าห้างยากมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะใกล้นี้ ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของบริษัท โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทฯมีลูกค้าเข้าเทสโก้โลตัสโดยรวมประมาณ 20-30 ล้านคนต่อเดือน ในเครือข่ายเทสโก้ทั้งหมด และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ บริษัทต้องทำการตลาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมและแคมเปญ โดยยึดปัจจัยหลักในการทำตลาดตามที่ได้ศึกษาวิจัยมา 5 ประเด็น คือ 1.ราคาต้องต่ำและถูก ซึ่งประเด็นการลดราคาเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด เพราะจับต้องได้ทันที 2.สินค้า ต้องเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคด้วยไม่ใช่ถูกอย่างเดียว 3.คิวในการจ่ายเงินและบริการต้องรวดเร็ว 4.บริการของพนักงานต้องสุภาพ เรียบร้อย 5. บรรยากาศในการชอปปิ้งในห้าง ที่ต้องดึงดูดลูกค้า
ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “แม่บ้านยอดประหยัด” (Mrs.Save) โดยนำเอา “กวาง-กมลชนก เขมะโยธิน” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แคมเปญนี้ โดยบริษัทใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานแคมเปญนี้ในช่วง 3 เดือนจากนี้
แคมเปญนี้เกิดจากการสำรวจลูกค้ากว่าา 15,000 คนจากทุกสาขา ถึงความต้องการและความพึงพอใจ พบว่า แม่บ้านคำนึงถึงความประหยัดมากที่สุด ทำให้เราตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการจึงเกิดแคมเปญนี้ ซึ่งแคมเปญนี้จะมีหลายกลยุทธ์ที่ตอบสนองลูกค้าได้ เช่น โปรโชั่นซื้อ 1 แถม 1, สินค้าโรลแบ็ค, เทสโก้โบรกเกอร์ประกันภัยหรือบิลเพย์เม้นท์ เป็นต้น โดยเฉพาะกลยุทธ์โรลแบ็คนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ล่าสุด หลังจากที่ทำมาประมาณ 8 สัปดาห์แล้วพบว่า มียอดขายเกินเป้าหมายที่ตั้งกว่า 15% ที่ผ่านมาโรลแบ็คช่วยลูกค้าประหยัดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้รวมของบริษัทในปีนี้เติบโตขึ้น 20%