ททท.หมดมุก งัดแคมเปญ VISIT THAILAND YEAR กลับมาใช้ใหม่ปีหน้า ภายใต้สโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ ชูสินค้าไทยเนส และ เฮลธ์ตี้ เสนอขายภายใต้กลยุทธ์ แวลู ฟอร์มันนี่ หวังกระชากใจฉุดต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในยุคเศรษฐกิจซบทั่วโลก ส่วนในประเทศเข็น 300 กิจกรรมบูมตลาดคนไทย คุยงบปี 52 ได้เต็มๆ 4,418 ล้านบาท ตามที่ขอ ด้าน “วันชัย” ประธานบอร์ด สั่งการเร่งแผนประชาสัมพันธ์ หลังพบจุดบอด กิจกรรมเยอะแต่คนไทยไม่รู้
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมเสนอแคมเปญ VISIT THAILAND YEAR 2009 เป็นกลยุทธ์การทำตลาดต่างประเทศในปี งบประมาณ 2552 ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมศกนี้ ภายใต้สโลแกน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โดยมีสินค้าทางการท่องเที่ยวที่จะนำเสนอใน 7 กลุ่ม หลัก หรือ เซเว่น วันเดอร์ แต่ปี 2552 นี้ จะเน้นชูจุดขายในกลุ่มของ ไทยเนส แบบไลฟ์สไตล์ตามวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมของคนไทย และ กลุ่ม เฮลธ์ทัวริสซึม ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าที่ไทยมีความแข็งแกร่ง
ส่วนสินค้าในกลุ่มบีช หรือ หาดทรายชายทะเล จะเป็นกลุ่มรองที่จะนำเสนอ เพราะเป็นสินค้าที่ติดตลาดเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวแพร่หลายแล้ว และการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เช่นนี้ เพื่อตอกย้ำความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย และ นำเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาซ้ำ ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 60%
สำหรับ VISIT THAILAND YEAR เป็นแคมเปญ ที่ ททท.ได้ประกาศใช้ไปเมื่อ 20 ปีก่อน หรือประมาณปี พ.ศ.2530 ถือเป็นยุคแรกๆ ที่ประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะนำพารายได้เข้าประเทศ และ ททท.ก็ประสบความสำเร็จในแคมเปญนี้เป็นอย่างดี ทำให้ต่างชาติรู้จักประเทศไทย ทำให้ประเทศอื่นๆ ได้ออกแคมเปญโดยใช้เวิร์ดดิ้งคล้ายแบบนี้ เช่นกัน ส่วน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ททท.เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2541
ดังนั้น การนำแคมเปญ VISIT THAILAND YEAR กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังปั่นป่วน แต่ไทยจะเสนอทางออกด้วยการเป็นเดสติเนชั่น แวลู ฟอร์มันนี่ หรือคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย ซึ่งมีแนวคิดจะนำเสนอผ่านแอดโฆษณาในต่างประเทศ ว่า มาประเทศไทย สามารถใช้จ่ายเงินได้เท่าๆ กับท่องเที่ยวอยู่ภายในประเทศ โดยเฉพาะในตลาดแถบอเมริกา และยุโรป ล่าสุด เดือนตุลาคมศกนี้ จัดเมกกะแฟมทริป เชิญสื่อมวลชน และบริษัทนำเที่ยวกว่า 700 ราย จาก 50 ประเทศ เดินทางมาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว โดยปีนี้ ททท.เน้นนำเสนอเส้นทางภาคเหนือและอีสาน เป็นหลัก ให้สมกับเป็นปีท่องเที่ยวอีสาน
****อัด 300 กิจกรรมบูมตลาดคนไทย***
สำหรับตลาดในประเทศ ปีงบประมาณ 2552 เตรียมดำเนินการจัดกิจกรรมให้ถี่ขึ้นในแต่ละเดือนผ่านสำนักงาน ททท.ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศ รวม กว่า 300 งาน พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมนำเที่ยวเพื่อสังคม เช่น นำเด็กพิการซ้ำซ้อนเดือนทางท่องเที่ยวช่วงวันเด็กต้นปีหน้าให้ครบ 76 จังหวัด
“เป็นครั้งแรก ที่ ททท.จะลงจัดกิจกรรมในครอบคลุมทุกเซ็กเม้นของนักท่องเที่ยว เช่น ผู้สูงอายุ ครอบครัว วัยรุ่น วัยทำงาน คนท้อง คนพิการ และสัตว์เลี้ยง จากที่ผ่านมา ททท.จะทำกิจกรรมเพียงกลุ่มเลี้ยงสัตว์ และผู้สูงวัย แต่เพราะเศรษฐกิจไม่ดี เราจึงต้องทำงานแบบเจาะลึกเป็นรายตลาด”
ในส่วนของงบประมาณ ล่าสุด ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณแล้ว โดย ททท. จะได้งบ 4,481 ล้านบาท เป็นเงินที่ไม่ถูกปรับลดเลย ขณะนี้รอเพียงการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภาเท่านั้นก็จะเสร็จกระบวนการ ทั้งนี้วงเงินดังกล่าว มากกว่างบปี 2551 ที่ได้รับมาประมาณ 3,900 ล้านบาท
***เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้***
นางพรศิริ กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหาร ททท.ซึ่งมี นายวันชัย ศารทูรทัต ประธานบอร์ด ททท.เป็นประธาน และได้เห็นว่า ททท.มีโครงการจำนวนมาก ที่ดำเนินการไปแล้ว และที่จะทำต่อไป แต่ที่ผ่านมายังขาดการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน จึงแนะนำให้ ททท. ไปเร่งหาแนวทางจัดทำแผนงานประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เกิดการรับรู้ในวงกว้าง และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้จริง
ทางด้าน นางสาว เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร ททท.กล่าวว่า งบประมาณปี 2552 ที่คาดว่า ททท.จะได้รับจัดสรร 4,418 ล้านบาท จะแบ่งใช้ตลาดในประเทศ 1,050 ล้านบาท ตลาดต่างประเทศ 2,290 ล้านบาท และงบสำหรับใช้ลงทุนในโครงการใหญ่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ก 609 ล้านบาท และเป็นงบ ที่ ททท.ตั้งเบิกแทนกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อนำเข้าเป็นทุนประเดิมในกองทุนเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว อีก 20 ล้านบาท
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมเสนอแคมเปญ VISIT THAILAND YEAR 2009 เป็นกลยุทธ์การทำตลาดต่างประเทศในปี งบประมาณ 2552 ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมศกนี้ ภายใต้สโลแกน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โดยมีสินค้าทางการท่องเที่ยวที่จะนำเสนอใน 7 กลุ่ม หลัก หรือ เซเว่น วันเดอร์ แต่ปี 2552 นี้ จะเน้นชูจุดขายในกลุ่มของ ไทยเนส แบบไลฟ์สไตล์ตามวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมของคนไทย และ กลุ่ม เฮลธ์ทัวริสซึม ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าที่ไทยมีความแข็งแกร่ง
ส่วนสินค้าในกลุ่มบีช หรือ หาดทรายชายทะเล จะเป็นกลุ่มรองที่จะนำเสนอ เพราะเป็นสินค้าที่ติดตลาดเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวแพร่หลายแล้ว และการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เช่นนี้ เพื่อตอกย้ำความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย และ นำเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาซ้ำ ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 60%
สำหรับ VISIT THAILAND YEAR เป็นแคมเปญ ที่ ททท.ได้ประกาศใช้ไปเมื่อ 20 ปีก่อน หรือประมาณปี พ.ศ.2530 ถือเป็นยุคแรกๆ ที่ประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะนำพารายได้เข้าประเทศ และ ททท.ก็ประสบความสำเร็จในแคมเปญนี้เป็นอย่างดี ทำให้ต่างชาติรู้จักประเทศไทย ทำให้ประเทศอื่นๆ ได้ออกแคมเปญโดยใช้เวิร์ดดิ้งคล้ายแบบนี้ เช่นกัน ส่วน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ททท.เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2541
ดังนั้น การนำแคมเปญ VISIT THAILAND YEAR กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกกำลังปั่นป่วน แต่ไทยจะเสนอทางออกด้วยการเป็นเดสติเนชั่น แวลู ฟอร์มันนี่ หรือคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย ซึ่งมีแนวคิดจะนำเสนอผ่านแอดโฆษณาในต่างประเทศ ว่า มาประเทศไทย สามารถใช้จ่ายเงินได้เท่าๆ กับท่องเที่ยวอยู่ภายในประเทศ โดยเฉพาะในตลาดแถบอเมริกา และยุโรป ล่าสุด เดือนตุลาคมศกนี้ จัดเมกกะแฟมทริป เชิญสื่อมวลชน และบริษัทนำเที่ยวกว่า 700 ราย จาก 50 ประเทศ เดินทางมาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว โดยปีนี้ ททท.เน้นนำเสนอเส้นทางภาคเหนือและอีสาน เป็นหลัก ให้สมกับเป็นปีท่องเที่ยวอีสาน
****อัด 300 กิจกรรมบูมตลาดคนไทย***
สำหรับตลาดในประเทศ ปีงบประมาณ 2552 เตรียมดำเนินการจัดกิจกรรมให้ถี่ขึ้นในแต่ละเดือนผ่านสำนักงาน ททท.ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศ รวม กว่า 300 งาน พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมนำเที่ยวเพื่อสังคม เช่น นำเด็กพิการซ้ำซ้อนเดือนทางท่องเที่ยวช่วงวันเด็กต้นปีหน้าให้ครบ 76 จังหวัด
“เป็นครั้งแรก ที่ ททท.จะลงจัดกิจกรรมในครอบคลุมทุกเซ็กเม้นของนักท่องเที่ยว เช่น ผู้สูงอายุ ครอบครัว วัยรุ่น วัยทำงาน คนท้อง คนพิการ และสัตว์เลี้ยง จากที่ผ่านมา ททท.จะทำกิจกรรมเพียงกลุ่มเลี้ยงสัตว์ และผู้สูงวัย แต่เพราะเศรษฐกิจไม่ดี เราจึงต้องทำงานแบบเจาะลึกเป็นรายตลาด”
ในส่วนของงบประมาณ ล่าสุด ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณแล้ว โดย ททท. จะได้งบ 4,481 ล้านบาท เป็นเงินที่ไม่ถูกปรับลดเลย ขณะนี้รอเพียงการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภาเท่านั้นก็จะเสร็จกระบวนการ ทั้งนี้วงเงินดังกล่าว มากกว่างบปี 2551 ที่ได้รับมาประมาณ 3,900 ล้านบาท
***เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้***
นางพรศิริ กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหาร ททท.ซึ่งมี นายวันชัย ศารทูรทัต ประธานบอร์ด ททท.เป็นประธาน และได้เห็นว่า ททท.มีโครงการจำนวนมาก ที่ดำเนินการไปแล้ว และที่จะทำต่อไป แต่ที่ผ่านมายังขาดการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน จึงแนะนำให้ ททท. ไปเร่งหาแนวทางจัดทำแผนงานประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เกิดการรับรู้ในวงกว้าง และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้จริง
ทางด้าน นางสาว เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร ททท.กล่าวว่า งบประมาณปี 2552 ที่คาดว่า ททท.จะได้รับจัดสรร 4,418 ล้านบาท จะแบ่งใช้ตลาดในประเทศ 1,050 ล้านบาท ตลาดต่างประเทศ 2,290 ล้านบาท และงบสำหรับใช้ลงทุนในโครงการใหญ่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ก 609 ล้านบาท และเป็นงบ ที่ ททท.ตั้งเบิกแทนกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อนำเข้าเป็นทุนประเดิมในกองทุนเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว อีก 20 ล้านบาท