วังเด็กทอยส์แลนด์ เดินเกมรุเต็มที่ หวังปั้นแบรนด์ “ฟิซเชอร์-ไพรซ์” ติดตลาดของเล่นเพื่อเสริมทักษะความรู้ในตลาดไทย รองรับตลาดของเล่นเสริมทักษะรุ่ง เตรียมนำเข้าสินค้าเพิ่มไลน์มากขึ้น มั่นใจปีนี้รายได้รวมเติบโต 20%
นางพิมพ์พิศา ชุณหเสนีย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท วังเด็กทอยส์แลนด์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อแม่และเด็กของเล่นสำหรับเด็ก เปิดเผยกับ “ผู้จัดการายวัน” ว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะทำการตลาดเชิงรุกสำหรับแบรนด์ “ฟิซเชอร์-ไพรซ์” มากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท แมทเทล เซาท์อีส เอเชีย จำกัด ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ ฟิซเชอร์-ไพรซ์ จากประเทศอเมริกา ประมาณต้นเดือนตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา
โดยมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางจำหน่ายแบรนด์ฟิซเชอร์-ไพรซ์ มากขึ้น จากเดิมที่มีช่องทางจำหน่ายหลักอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า และมีจำหน่ายบ้างในกลุ่มดิสเคานท์สโตร์บางสาขา และบางเอสเคยูที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในทำเลนั้นๆ อีกทั้งมีแผนที่จะนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายมากขึ้นด้วย เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดและเติมเต็มไลน์สินค้าด้วย
“บริษัทมั่นใจว่า สินค้าตัวนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันยอดขายรวมของบริษัทในปีนี้ให้เติบโตถึง 20% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองยังคงมีอยู่ในเวลานี้ก็ตาม โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯมียอดเติบโตแล้ว 20%”
เนื่องจากว่า สินค้าของฟิซเชอร์-ไพรซ์ นี้ เป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและช่วยเสริมสร้างการพัฒนาการของเด็ก ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเล่นหรือใช้เพื่อความบันเทิงอย่างเดียว ขณะที่พฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของเล่นสำหรับเด็กในปัจจุบันนี้ของพ่อแม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะคุณพ่อและคุณแม่ยุคใหม่จะให้ความสำคัญกับของเล่นของใช้สำหรับเด็กมากขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่คุณค่าของสินค้าที่จะช่วยในการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของบุตรหลานมากกว่าคำนึงถึงเรื่องราคา ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของเล่น ของใช้สำหรับเด็กจากต่างประเทศได้รับความสนใจมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าจากต่างประเทศมีการเติบโตขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มเป้าหมายของ ฟิซเชอร์-ไพรซ์ จะเน้นระดับบนเป็นหลัก จึงมั่นใจว่า กลุ่มเป้าหมายไม่ได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจแน่นอน เพราะกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะการลงทุนซื้อสินค้าให้กับลูกนั้น ยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพมากที่สุดไม่คำนึงเรื่องราคา โดยเฉพาะจะเน้นกลุ่มของคุณแม่ที่ใส่ใจศึกษาหาความรู้ ชอบอ่านหนังสือ เพราะว่าปีนี้เราจะเน้นการทำตลาดแบบให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องกับคุณแม่ โดยเบื้องต้น บริษัทนำเข้ามาจำหน่าย 15-20 รายการ เริ่มต้นมีราคาตั่งแต่ 200-8,000 บาทขึ้นไป
สินค้าที่กำลังได้รับความนิยม คือ เก้าอี้กระโดด หรือ Rainforest jumperoo ของเบบี้เกียร์หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของฟิซเชอร์-ไพรซ์ ราคากว่า 7,000 บาท มีเทคโนโลยีที่ช่วยการพัฒนาสำหรับเด็กเหมาะสำหรับเด็กที่กำลังหัดเดิน โดยเด็กจะมีพื้นที่สำหรับกระโดดหมุนได้แบบ 360 องศา พร้อมอุปกรณ์ของเล่นเสริม นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้โยกสำหรับเด็กอายุ 3 เดือน ถึง 1.5 ขวบ ที่สามารถปรับเป็นเก้าอี้ เตียงนอน เล่นหรือนอนได้ และ “Royal Step Stool Potty กระโถนสำหรับเด็กที่มีเสียงเพลงตามลักษณะของการขับถ่าย เป็นต้น
“แม้เก้าอี้กระโดดที่แม้ราคาจะสูงกว่า 7,000 บาท แต่ผู้ปกครองกับให้ความสนใจและเลือกซื้อส่งผลให้บริษัทมียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้และมีแผนที่จะนำเข้าสินค้าไลน์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น 10-20% นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้ผลิตสินค้าของเล่นสำหรับเด็กอาทิ ตุ๊กตา ชุดเครื่องครัว หุ่นยนต์ รถกระบะ รถแม็กโคร และนำเข้าของเล่นจากประเทศจีน เช่น คอมพิวเตอร์ แล็บทอป เป็นต้น”
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทเมื่อแยกตามแต่ละกลุ่มแบ่งเป็นของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิง 25% ของเล่นสำหรับเด็กผู้ชาย 25% ผลิตภัณฑ์เสริมพัฒนาการเด็ก 25% และผลิตภัณฑ์เอาต์ดอร์ เช่น รถแบตเตอรี่สามล้อ 25% โดยบริษัทมีช่องทางการจำหน่ายผ่านทางห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าส่งในสำเพ็ง พาหุรัด ร้านค้าปลีกทั่วไป ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมถึงร้านสมอลล์เวิลด์ ซึ่งบริษัทเป็นผู้เปิดให้บริการ ซึ่งมีอยู่ 8 สาขาทั่วประเทศ
นางพิมพ์พิศา ชุณหเสนีย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท วังเด็กทอยส์แลนด์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อแม่และเด็กของเล่นสำหรับเด็ก เปิดเผยกับ “ผู้จัดการายวัน” ว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะทำการตลาดเชิงรุกสำหรับแบรนด์ “ฟิซเชอร์-ไพรซ์” มากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท แมทเทล เซาท์อีส เอเชีย จำกัด ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ ฟิซเชอร์-ไพรซ์ จากประเทศอเมริกา ประมาณต้นเดือนตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา
โดยมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางจำหน่ายแบรนด์ฟิซเชอร์-ไพรซ์ มากขึ้น จากเดิมที่มีช่องทางจำหน่ายหลักอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า และมีจำหน่ายบ้างในกลุ่มดิสเคานท์สโตร์บางสาขา และบางเอสเคยูที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในทำเลนั้นๆ อีกทั้งมีแผนที่จะนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายมากขึ้นด้วย เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดและเติมเต็มไลน์สินค้าด้วย
“บริษัทมั่นใจว่า สินค้าตัวนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันยอดขายรวมของบริษัทในปีนี้ให้เติบโตถึง 20% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองยังคงมีอยู่ในเวลานี้ก็ตาม โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯมียอดเติบโตแล้ว 20%”
เนื่องจากว่า สินค้าของฟิซเชอร์-ไพรซ์ นี้ เป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและช่วยเสริมสร้างการพัฒนาการของเด็ก ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเล่นหรือใช้เพื่อความบันเทิงอย่างเดียว ขณะที่พฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของเล่นสำหรับเด็กในปัจจุบันนี้ของพ่อแม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะคุณพ่อและคุณแม่ยุคใหม่จะให้ความสำคัญกับของเล่นของใช้สำหรับเด็กมากขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่คุณค่าของสินค้าที่จะช่วยในการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของบุตรหลานมากกว่าคำนึงถึงเรื่องราคา ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของเล่น ของใช้สำหรับเด็กจากต่างประเทศได้รับความสนใจมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าจากต่างประเทศมีการเติบโตขึ้นตามไปด้วย
กลุ่มเป้าหมายของ ฟิซเชอร์-ไพรซ์ จะเน้นระดับบนเป็นหลัก จึงมั่นใจว่า กลุ่มเป้าหมายไม่ได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจแน่นอน เพราะกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะการลงทุนซื้อสินค้าให้กับลูกนั้น ยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพมากที่สุดไม่คำนึงเรื่องราคา โดยเฉพาะจะเน้นกลุ่มของคุณแม่ที่ใส่ใจศึกษาหาความรู้ ชอบอ่านหนังสือ เพราะว่าปีนี้เราจะเน้นการทำตลาดแบบให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องกับคุณแม่ โดยเบื้องต้น บริษัทนำเข้ามาจำหน่าย 15-20 รายการ เริ่มต้นมีราคาตั่งแต่ 200-8,000 บาทขึ้นไป
สินค้าที่กำลังได้รับความนิยม คือ เก้าอี้กระโดด หรือ Rainforest jumperoo ของเบบี้เกียร์หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของฟิซเชอร์-ไพรซ์ ราคากว่า 7,000 บาท มีเทคโนโลยีที่ช่วยการพัฒนาสำหรับเด็กเหมาะสำหรับเด็กที่กำลังหัดเดิน โดยเด็กจะมีพื้นที่สำหรับกระโดดหมุนได้แบบ 360 องศา พร้อมอุปกรณ์ของเล่นเสริม นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้โยกสำหรับเด็กอายุ 3 เดือน ถึง 1.5 ขวบ ที่สามารถปรับเป็นเก้าอี้ เตียงนอน เล่นหรือนอนได้ และ “Royal Step Stool Potty กระโถนสำหรับเด็กที่มีเสียงเพลงตามลักษณะของการขับถ่าย เป็นต้น
“แม้เก้าอี้กระโดดที่แม้ราคาจะสูงกว่า 7,000 บาท แต่ผู้ปกครองกับให้ความสนใจและเลือกซื้อส่งผลให้บริษัทมียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้และมีแผนที่จะนำเข้าสินค้าไลน์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น 10-20% นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้ผลิตสินค้าของเล่นสำหรับเด็กอาทิ ตุ๊กตา ชุดเครื่องครัว หุ่นยนต์ รถกระบะ รถแม็กโคร และนำเข้าของเล่นจากประเทศจีน เช่น คอมพิวเตอร์ แล็บทอป เป็นต้น”
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทเมื่อแยกตามแต่ละกลุ่มแบ่งเป็นของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิง 25% ของเล่นสำหรับเด็กผู้ชาย 25% ผลิตภัณฑ์เสริมพัฒนาการเด็ก 25% และผลิตภัณฑ์เอาต์ดอร์ เช่น รถแบตเตอรี่สามล้อ 25% โดยบริษัทมีช่องทางการจำหน่ายผ่านทางห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าส่งในสำเพ็ง พาหุรัด ร้านค้าปลีกทั่วไป ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมถึงร้านสมอลล์เวิลด์ ซึ่งบริษัทเป็นผู้เปิดให้บริการ ซึ่งมีอยู่ 8 สาขาทั่วประเทศ