บอร์ดอีลิทตั้ง “ศศิธารา” นำทีมประเมินผลการทำงาน “รพี” ผู้จัดการใหญ่ทีพีซีตั้งเกณฑ์ต้องทำได้ตามที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ ระบุคะแนนขั้นต่ำ 70% จึงรอดตัว
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี มีมติตั้งคณะกรรมการประเมินผลการทำงานของ นายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ทีพีซี โดยมีตนเองเป็นประธาน ส่วนกรรมการมาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านต่างประเทศ ททท.และ นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ด เป็นต้น หลักเกณฑ์ที่จะใช้ประเมินจะคล้ายกับการประเมินผลงานของผู้ว่าการ ททท.
ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ประชุมนัดแรกไปแล้ว เพื่อกำหนดสาระสำคัญที่จะใช้เป็นเกณฑ์การวัดผลการประเมิน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1.คะแนนจากผลการทำงาน ได้แก่ ผลประกอบการหรือยอดจำหน่ายบัตรสมาชิก แผนการตลาดที่เป็นยุทธศาสตร์หลักขององค์กร การบริหารจัดการ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่จะต้องเป็นไปตามกรอบการแสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อตอนสมัครเข้ามารับตำแหน่ง เป็นต้น และ 2.คะแนนจากแบบสอบถามที่ส่งไปยังภาคเอกชน บุคคลากรในองค์กรทีพีซี เพื่อขอความคิดเห็นในมุมมองของภาคเอกชนและผู้ใต้บังคับบัญชา
ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวกำหนดว่า นายรพี จะต้องได้ 70% จากคะแนนเต็ม 100 ขึ้นไป จึงถือว่าสอบผ่าน ขณะเดียวกัน คณะกรรมการก็จะแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะมีการประชุมครั้งที่สองในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือรายละเอียดการประเมินแบบลงลึกอีกครั้งหนึ่ง
"ทุกรัฐวิสาหกิจผู้บริหารสูงสุดที่มีสัญญาว่าจ้าง จะต้องมีการประเมินผลการทำงานทุก 6 เดือน เพื่อเป็นการตรวจสอบการทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์องค์กร และเป็นการแสดงให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ที่ผู้สมัครได้ประกาศไว้จนได้รับคัดเลือกเข้ามาบริหารองค์กรสามารถดำเนินการได้จริง ซึ่งครั้งนี้ตั้งเกณฑ์ขั้นต่ำไว้ที่ 70% เป็นคะแนนที่ไม่โหดเกิดไป เพราะที่ผ่านมาการประเมินผลงานผู้ว่าการ ททท.ใช้เกณฑ์ขั้นต่ำที่ 80% ซึ่งหากนายรพีคะแนนไม่ถึง หรือ พบว่า มีปัญหาใดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานที่ชี้แจงได้ คณะกรรมการก็จะช่วยแนะนำข้อคิดเห็นให้ ซึ่งปัจจุบันนี้จะเห็นว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ททท.และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเราประสานความร่วมมือช่วยกันทำงานแบบบูรณาการมากขึ้น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เดียวกัน”
ทางด้าน นายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจกับการประเมินผลการทำงาน เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ และตั้งใจที่จะทำงานให้ได้ผลดีที่สุด โดยพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย และพร้อมที่จะยอมรับผลการประเมินที่จะออกมาเร็วนี้
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี มีมติตั้งคณะกรรมการประเมินผลการทำงานของ นายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ทีพีซี โดยมีตนเองเป็นประธาน ส่วนกรรมการมาจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านต่างประเทศ ททท.และ นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ด เป็นต้น หลักเกณฑ์ที่จะใช้ประเมินจะคล้ายกับการประเมินผลงานของผู้ว่าการ ททท.
ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ประชุมนัดแรกไปแล้ว เพื่อกำหนดสาระสำคัญที่จะใช้เป็นเกณฑ์การวัดผลการประเมิน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1.คะแนนจากผลการทำงาน ได้แก่ ผลประกอบการหรือยอดจำหน่ายบัตรสมาชิก แผนการตลาดที่เป็นยุทธศาสตร์หลักขององค์กร การบริหารจัดการ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่จะต้องเป็นไปตามกรอบการแสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อตอนสมัครเข้ามารับตำแหน่ง เป็นต้น และ 2.คะแนนจากแบบสอบถามที่ส่งไปยังภาคเอกชน บุคคลากรในองค์กรทีพีซี เพื่อขอความคิดเห็นในมุมมองของภาคเอกชนและผู้ใต้บังคับบัญชา
ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวกำหนดว่า นายรพี จะต้องได้ 70% จากคะแนนเต็ม 100 ขึ้นไป จึงถือว่าสอบผ่าน ขณะเดียวกัน คณะกรรมการก็จะแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะมีการประชุมครั้งที่สองในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือรายละเอียดการประเมินแบบลงลึกอีกครั้งหนึ่ง
"ทุกรัฐวิสาหกิจผู้บริหารสูงสุดที่มีสัญญาว่าจ้าง จะต้องมีการประเมินผลการทำงานทุก 6 เดือน เพื่อเป็นการตรวจสอบการทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์องค์กร และเป็นการแสดงให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ที่ผู้สมัครได้ประกาศไว้จนได้รับคัดเลือกเข้ามาบริหารองค์กรสามารถดำเนินการได้จริง ซึ่งครั้งนี้ตั้งเกณฑ์ขั้นต่ำไว้ที่ 70% เป็นคะแนนที่ไม่โหดเกิดไป เพราะที่ผ่านมาการประเมินผลงานผู้ว่าการ ททท.ใช้เกณฑ์ขั้นต่ำที่ 80% ซึ่งหากนายรพีคะแนนไม่ถึง หรือ พบว่า มีปัญหาใดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานที่ชี้แจงได้ คณะกรรมการก็จะช่วยแนะนำข้อคิดเห็นให้ ซึ่งปัจจุบันนี้จะเห็นว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ททท.และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเราประสานความร่วมมือช่วยกันทำงานแบบบูรณาการมากขึ้น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เดียวกัน”
ทางด้าน นายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจกับการประเมินผลการทำงาน เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ และตั้งใจที่จะทำงานให้ได้ผลดีที่สุด โดยพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย และพร้อมที่จะยอมรับผลการประเมินที่จะออกมาเร็วนี้