นายเดวิด ลอเดอร์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมผงตราหมีแอ๊ดวานซ์ และนมผงตราหมีโพรเท็กซ์ชัน เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท จัดแคมเปญนมผงตราหมีฉลองครบรอบ 75 ปี สำหรับความไว้วางใจคนไทย นำร่องด้วยการจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “แบร์ แบรนด์ เซลส์ บิทซ์” (Bear Brand Sales Blitz) ปฏิบัติการขายแบบสายฟ้าแลบ ผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด ในระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน นี้ จำนวน 1,350 ร้านค้า ใน 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ร้อยเอ็ด หาดใหญ่ เชียงราย เชียงใหม่ สุพรรณบุรี และ นครราชสีมา
สำหรับกิจกรรม แบร์ แบรนด์ เซลส์ บิทซ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์นมผงตราหมี แอ๊ดวานซ์ และนมผงตราหมี โพรเท็กซ์ชัน จะเข้ามาตกแต่งชั้นจำหน่ายสินค้า ทั้งในชั้นวางจำหน่ายสินค้าปกติ และชั้นจำหน่ายสินค้าพิเศษพร้อมกับการติดป้ายโฆษณา การวางสแตนดี้ และแฮงกี้ โมบาย ของผลิตภัณฑ์ตราหมีฉลอง 75 ปี รวมถึงการส่งพนักงานขายเข้าไปให้ข้อมูลแนะนำผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค พร้อมช่วยร้านค้าจำหน่ายสินค้า ทั้งนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร้านค้าเทรดิชันนัลเทรด ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการจำหน่ายผ่านช่องทางเพียง 40% ขณะที่โมเดิร์นเทรด 60%
นายลอเดอร์ กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมผ่านทางช่องทางเทรดิชันนัลเทรด ผลักดันให้นมผงตราหมีสามารถกระจายสินค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังผลักดันภาพลักษณ์สินค้าดีมากขึ้น นอกจากนี้เพื่อเฉลิมฉลอง 75 ปี บริษัทยังได้เตรียมจัดกิจกรรมกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อรองรับการแข่งขันที่มีความรุนแรง สำหรับครึ่งปีหลังนี้บริษัทยังไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ ยังคงเน้นการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ โดยปัจจุบันเนสท์เล่ครองส่วนแบ่ง 25% จากมูลค่าตลาดนมผงสำหรับเด็ก 6,000 ล้านบาท
“ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ กำลังการซื้อที่ลดลง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดนมผงสำหรับเด็กมากนัก เนื่องจากพ่อแม่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่มีคุณภาพให้ลูก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทประสบกับภาวะต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับกิจกรรม แบร์ แบรนด์ เซลส์ บิทซ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์นมผงตราหมี แอ๊ดวานซ์ และนมผงตราหมี โพรเท็กซ์ชัน จะเข้ามาตกแต่งชั้นจำหน่ายสินค้า ทั้งในชั้นวางจำหน่ายสินค้าปกติ และชั้นจำหน่ายสินค้าพิเศษพร้อมกับการติดป้ายโฆษณา การวางสแตนดี้ และแฮงกี้ โมบาย ของผลิตภัณฑ์ตราหมีฉลอง 75 ปี รวมถึงการส่งพนักงานขายเข้าไปให้ข้อมูลแนะนำผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค พร้อมช่วยร้านค้าจำหน่ายสินค้า ทั้งนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร้านค้าเทรดิชันนัลเทรด ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการจำหน่ายผ่านช่องทางเพียง 40% ขณะที่โมเดิร์นเทรด 60%
นายลอเดอร์ กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมผ่านทางช่องทางเทรดิชันนัลเทรด ผลักดันให้นมผงตราหมีสามารถกระจายสินค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังผลักดันภาพลักษณ์สินค้าดีมากขึ้น นอกจากนี้เพื่อเฉลิมฉลอง 75 ปี บริษัทยังได้เตรียมจัดกิจกรรมกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อรองรับการแข่งขันที่มีความรุนแรง สำหรับครึ่งปีหลังนี้บริษัทยังไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ ยังคงเน้นการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ โดยปัจจุบันเนสท์เล่ครองส่วนแบ่ง 25% จากมูลค่าตลาดนมผงสำหรับเด็ก 6,000 ล้านบาท
“ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ กำลังการซื้อที่ลดลง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดนมผงสำหรับเด็กมากนัก เนื่องจากพ่อแม่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่มีคุณภาพให้ลูก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทประสบกับภาวะต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”