นายเควิน คอร์นิง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ลีวายส์ เปิดเผยว่า ตลาดยีนส์มีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะแบรนด์แฟชั่นยีนส์ทั้งหลาย ที่เข้ามาทำตลาดจับกลุ่มวัยรุ่น เพราะเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทในไทย ซึ่งลีวายส์ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดในไทยมากกว่า 50% หรือมียอดขายกว่า 50 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ทิ้งห่างอันดับสองอย่างมาก ต้องปรับตัว เพื่อรักษาตลาดและขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 18-25 ปี ไม่เช่นนั้นจะล้าสมัย
เนื่องจากแบรนด์ลีวายส์มักจะถูกรับรู้จากกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นแบรนด์เก่า ดังนั้น เราต้องพยายามปรับเพื่อให้ดูทันสมัยและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อเป็นการขยายฐานตลาด เป็นการสร้างความภักดีในแบรนด์ไปในตัวด้วย ล่าสุด ลีวายส์ ได้เปิดตัวโกลบอลแคมเปญ “Live Unbuttoned-ฉีกกฎ ปลดกระดุม” ของรุ่น 501 เพื่อจับกลุ่มยังเจนเนอเรชัน โดยมีรุ่นออริจินัล 8 แบบ รุ่นคอมแมอร์เชียล 1 แบบ และรุ่นลิมิเต็ด ที่มีเพียง 600 ตัวเท่านั้น ราคาตั้งแต่ 2,000-5,000 กว่าบาท โดยใช้งบตลาดในไทย 20% ของยอดขาย
“มีการทำวิจัยที่ผ่านมาเมื่อปี 2003 ปรับใหญ่ไปแล้วและล่าสุดปรับใหญ่ครั้งนี้อีก ยีนส์ลีวายส์มีมากว่า 100 ปีแล้ว ถ้าจะเติบโตต่อต้องหากลุ่มใหม่ พยายามปรับทัศนคติให้ได้ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใหญ่ และทุกแบรนด์ก็ล้วนมุ่งไปที่กลุ่มนี้ทั้งนั้น และเรามั่นใจว่าการปรับครั้งนี้จะช่วยทำให้ยอดขายเติบโต 10%”
ยอดขายลีวายส์ในไทยเป็นอันดับที่ 4 และ 5 สลับไปมา ในเอเชีย โดยตลาดที่ใหญ่ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และที่เติบโตเร็วมากเวลานื้ คือ จีน ซึ่งช่วง 7 ปีที่ผ่านมาลีวายส์ไทยเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตลอด โดยมีตลาดกลุ่มผู้หญิงผลักดันขึ้นมามาก ปัจจุบันสัดส่วน ชาย-หญิง 50-50% จาก 10 ปีที่แล้ว 85-15% โดยสำรวจพบผู้บริโภคมียีนส์เฉลี่ย 3 ตัวต่อคน
ส่วนช่องทางจำหน่ายมี 2 รูปแบบ คือ ชอปอินชอป 21 แห่ง วางแผนเปิด 3-4 จุดต่อปี และแบบเอาท์เล็ตที่มีกว่า 121 แห่ง สินค้ามีทั้งผลิตในไทยเพราะได้ไลเซนส์ เพียงประเทศเดียว และมีการนำเข้าบ้าง
เนื่องจากแบรนด์ลีวายส์มักจะถูกรับรู้จากกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นแบรนด์เก่า ดังนั้น เราต้องพยายามปรับเพื่อให้ดูทันสมัยและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อเป็นการขยายฐานตลาด เป็นการสร้างความภักดีในแบรนด์ไปในตัวด้วย ล่าสุด ลีวายส์ ได้เปิดตัวโกลบอลแคมเปญ “Live Unbuttoned-ฉีกกฎ ปลดกระดุม” ของรุ่น 501 เพื่อจับกลุ่มยังเจนเนอเรชัน โดยมีรุ่นออริจินัล 8 แบบ รุ่นคอมแมอร์เชียล 1 แบบ และรุ่นลิมิเต็ด ที่มีเพียง 600 ตัวเท่านั้น ราคาตั้งแต่ 2,000-5,000 กว่าบาท โดยใช้งบตลาดในไทย 20% ของยอดขาย
“มีการทำวิจัยที่ผ่านมาเมื่อปี 2003 ปรับใหญ่ไปแล้วและล่าสุดปรับใหญ่ครั้งนี้อีก ยีนส์ลีวายส์มีมากว่า 100 ปีแล้ว ถ้าจะเติบโตต่อต้องหากลุ่มใหม่ พยายามปรับทัศนคติให้ได้ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใหญ่ และทุกแบรนด์ก็ล้วนมุ่งไปที่กลุ่มนี้ทั้งนั้น และเรามั่นใจว่าการปรับครั้งนี้จะช่วยทำให้ยอดขายเติบโต 10%”
ยอดขายลีวายส์ในไทยเป็นอันดับที่ 4 และ 5 สลับไปมา ในเอเชีย โดยตลาดที่ใหญ่ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี และที่เติบโตเร็วมากเวลานื้ คือ จีน ซึ่งช่วง 7 ปีที่ผ่านมาลีวายส์ไทยเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตลอด โดยมีตลาดกลุ่มผู้หญิงผลักดันขึ้นมามาก ปัจจุบันสัดส่วน ชาย-หญิง 50-50% จาก 10 ปีที่แล้ว 85-15% โดยสำรวจพบผู้บริโภคมียีนส์เฉลี่ย 3 ตัวต่อคน
ส่วนช่องทางจำหน่ายมี 2 รูปแบบ คือ ชอปอินชอป 21 แห่ง วางแผนเปิด 3-4 จุดต่อปี และแบบเอาท์เล็ตที่มีกว่า 121 แห่ง สินค้ามีทั้งผลิตในไทยเพราะได้ไลเซนส์ เพียงประเทศเดียว และมีการนำเข้าบ้าง