เผยโฆษณา ทีเซอร์ ความยาว 7.5 วินาที เตรียมจ่อเคเบิลทีวี ชี้ วิกฤตวงการโฆษณา สมองไหลสู่วงการอื่นๆ ส่งผลงานไม่พัฒนา เน้นขายมุกตลก บวกพิษเศรษฐกิจ ลูกค้าจำกัดงบ คนโฆษณาถูกบีบการสร้างสรรค์ผลงาน “B.A.D Award” ปีนี้ มุ่งกระตุ้นลุ้นผลงานดีๆ เข้าส่ง พร้อมจัดเวิร์กชอป ให้ความรู้กับคลื่นลูกใหม่ มุ่งสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ
นายนพดล ศรีเกียรติขจร นายกสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก และ Executive Creative Director โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถโฆษณาลงบนสื่อเคเบิลทีวีได้นั้น ทางวงการเอเยนซีก็ได้มีการพูดคุยกับทางกลุ่มเคเบิลทีวีมาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีแผนที่จะนำเอาภาพยนตร์โฆษณาแบบ 7.5 วินาที มาใช้ด้วย ในลักษณะของการชิงทีเซอร์ ซึ่งมองว่าต้องขึ้นอยู่กับโปรดักส์ด้วย อย่างไรก็ตาม คิดว่าเวลาถึงแม้จะสั้นแค่ 7.5 วินาที แต่ก็เป็นภาพยนตร์โฆษณาที่เหมาะกับบริษัทใหญ่ ที่พร้อมจะทุ่มงบกับการโฆษณาในลักษณะดังกล่าว ที่จะเน้นการยิงทีเซอร์บ่อยครั้ง ขณะที่ ฟรีทีวี จะเริ่มให้เวลาภาพยนตร์โฆษณาตั้งแต่ 15 วินาที 30 วินาที 45 วินาที และ 60 วินาที ตามลำดับ
นายนพดล กล่าวต่อว่า สถานการณ์ธุรกิจโฆษณาในช่วงนี้ ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ดูจากผลงานในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ที่ส่งเข้าประกวดในเวทีระดับโลกอย่าง คานส์ ของไทย จะมุ่งไปทางไทยสไตล์ คือ เน้นเรื่องของมุกตลก ขบขัน เสียมาก ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากวงการโฆษณาบ้านเรากำลังประสบปัญหาเรื่องของบุคลากรทางด้านวงการโฆษณาที่ค่อนข้างน้อย ขณะที่ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่คนเหล่านี้จะสามารถเข้าไปทำงานได้มีเพิ่มมากขึ้น
จากเดิมที่คนที่เรียนมาทางด้านโฆษณา จบมาแล้ว จะมุ่งเข้าบริษัทเอเยนซีโฆษณาในอดีต ปัจจุบันกว่า 40% ของคนโฆษณา อาจจะมุ่งไปทำงานด้านอื่นๆ แทน ไม่ว่าจะเป็น การทำหนังสั้น, ออนไลน์ หรือแม้แต่ทางด้านการจัดอีเวนต์ ซึ่งปัญหาดังกล่าวในฐานะของบริษัทเอเยนซีโฆษณา ได้หาทางออกโดยการมองหาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในวงการอื่นๆ เข้ามาร่วมงานทดแทน เช่น นักดนตรี ดีเจ คนทำหนังสั้น โดยมุ่งเน้นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก
อีกส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจ ที่อาจจะส่งผลให้ลูกค้ามีการจำกัดงบการโฆษณาลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดกับลูกค้าระดับใหญ่ โดยยังคงมีการวางแผนการทำตลาดระยะยาว มีการจัดธีมไว้ตลอดทั้งปี แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงเล็ก จะพบว่ามีการจำกัดงบสำหรับโฆษณาน้อยลง
ขณะเดียวกัน จะเป็นการแผนใช้สื่อในระยะสั้น ที่ต้องมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ครีเอทีฟโฆษณาทำงานหนักมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการแก้ปัญหาให้ลูกค้า การคิดงานโฆษณาภายใต้งบที่จำกัด ผลงานที่ออกมาจึงอาจจะไม่ค่อยเห็นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ที่สวยงามเท่าที่ควร
ในส่วนของทางสมาคมฯ หลังจากที่เห็นวิกฤตดังกล่าว จึงต้องการที่จะเน้นและต้องการโปรโมตให้งาน B.A.d Award 2008 เป็นเวทีการประกวดผลงานโฆษณาและงานออกแบบสร้างสรรค์ครั้งสำคัญของไทย ภายใต้แนวคิด “Really Really B.A.D” หรือ คมไม่จริง เฉือนไม่ขาด เพื่อต้องการให้เวทีการประกวดครั้งนี้ จะช่วยสะท้อนทิศทางของวงการโฆษณาในเมืองไทยได้
ขณะที่ คานส์ ถือเป็นเวทีที่สะท้อนวงการโฆษณาของโลก จากเดิมที่ผ่านมา “B.A.D Award” ถูกให้ความสนใจลดลง ซึ่งผลงานที่เข้าแข่งขันในปีนี้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ Best of the Best, Best, Certificate of Excellence และ Finalist โดยจะเริ่มรับสมัครผลงานเข้าประกวดตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.-30 ต.ค.2551 นี้ และจะประกาศผลรางวัล B.A.D Night ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเวิร์คชอปสำหรับนักศึกษาและบุคลากรในวงการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น Junior Workshop, Young Creative Competition และ Special Worshop เพื่อเปิดโลกทัศน์และสัมผัสบรรยากาศการทำงานเหมือนจริง และให้ความรู้และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานโฆษณาดีๆ ที่มากกว่ามุกตลก
นายนพดล ศรีเกียรติขจร นายกสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก และ Executive Creative Director โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถโฆษณาลงบนสื่อเคเบิลทีวีได้นั้น ทางวงการเอเยนซีก็ได้มีการพูดคุยกับทางกลุ่มเคเบิลทีวีมาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีแผนที่จะนำเอาภาพยนตร์โฆษณาแบบ 7.5 วินาที มาใช้ด้วย ในลักษณะของการชิงทีเซอร์ ซึ่งมองว่าต้องขึ้นอยู่กับโปรดักส์ด้วย อย่างไรก็ตาม คิดว่าเวลาถึงแม้จะสั้นแค่ 7.5 วินาที แต่ก็เป็นภาพยนตร์โฆษณาที่เหมาะกับบริษัทใหญ่ ที่พร้อมจะทุ่มงบกับการโฆษณาในลักษณะดังกล่าว ที่จะเน้นการยิงทีเซอร์บ่อยครั้ง ขณะที่ ฟรีทีวี จะเริ่มให้เวลาภาพยนตร์โฆษณาตั้งแต่ 15 วินาที 30 วินาที 45 วินาที และ 60 วินาที ตามลำดับ
นายนพดล กล่าวต่อว่า สถานการณ์ธุรกิจโฆษณาในช่วงนี้ ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ดูจากผลงานในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ที่ส่งเข้าประกวดในเวทีระดับโลกอย่าง คานส์ ของไทย จะมุ่งไปทางไทยสไตล์ คือ เน้นเรื่องของมุกตลก ขบขัน เสียมาก ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากวงการโฆษณาบ้านเรากำลังประสบปัญหาเรื่องของบุคลากรทางด้านวงการโฆษณาที่ค่อนข้างน้อย ขณะที่ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่คนเหล่านี้จะสามารถเข้าไปทำงานได้มีเพิ่มมากขึ้น
จากเดิมที่คนที่เรียนมาทางด้านโฆษณา จบมาแล้ว จะมุ่งเข้าบริษัทเอเยนซีโฆษณาในอดีต ปัจจุบันกว่า 40% ของคนโฆษณา อาจจะมุ่งไปทำงานด้านอื่นๆ แทน ไม่ว่าจะเป็น การทำหนังสั้น, ออนไลน์ หรือแม้แต่ทางด้านการจัดอีเวนต์ ซึ่งปัญหาดังกล่าวในฐานะของบริษัทเอเยนซีโฆษณา ได้หาทางออกโดยการมองหาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ในวงการอื่นๆ เข้ามาร่วมงานทดแทน เช่น นักดนตรี ดีเจ คนทำหนังสั้น โดยมุ่งเน้นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก
อีกส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจ ที่อาจจะส่งผลให้ลูกค้ามีการจำกัดงบการโฆษณาลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดกับลูกค้าระดับใหญ่ โดยยังคงมีการวางแผนการทำตลาดระยะยาว มีการจัดธีมไว้ตลอดทั้งปี แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงเล็ก จะพบว่ามีการจำกัดงบสำหรับโฆษณาน้อยลง
ขณะเดียวกัน จะเป็นการแผนใช้สื่อในระยะสั้น ที่ต้องมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ครีเอทีฟโฆษณาทำงานหนักมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการแก้ปัญหาให้ลูกค้า การคิดงานโฆษณาภายใต้งบที่จำกัด ผลงานที่ออกมาจึงอาจจะไม่ค่อยเห็นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ที่สวยงามเท่าที่ควร
ในส่วนของทางสมาคมฯ หลังจากที่เห็นวิกฤตดังกล่าว จึงต้องการที่จะเน้นและต้องการโปรโมตให้งาน B.A.d Award 2008 เป็นเวทีการประกวดผลงานโฆษณาและงานออกแบบสร้างสรรค์ครั้งสำคัญของไทย ภายใต้แนวคิด “Really Really B.A.D” หรือ คมไม่จริง เฉือนไม่ขาด เพื่อต้องการให้เวทีการประกวดครั้งนี้ จะช่วยสะท้อนทิศทางของวงการโฆษณาในเมืองไทยได้
ขณะที่ คานส์ ถือเป็นเวทีที่สะท้อนวงการโฆษณาของโลก จากเดิมที่ผ่านมา “B.A.D Award” ถูกให้ความสนใจลดลง ซึ่งผลงานที่เข้าแข่งขันในปีนี้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ Best of the Best, Best, Certificate of Excellence และ Finalist โดยจะเริ่มรับสมัครผลงานเข้าประกวดตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.-30 ต.ค.2551 นี้ และจะประกาศผลรางวัล B.A.D Night ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเวิร์คชอปสำหรับนักศึกษาและบุคลากรในวงการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น Junior Workshop, Young Creative Competition และ Special Worshop เพื่อเปิดโลกทัศน์และสัมผัสบรรยากาศการทำงานเหมือนจริง และให้ความรู้และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานโฆษณาดีๆ ที่มากกว่ามุกตลก