พาณิชย์ เตรียมจัดงาน "เมดอินไทยแลนด์" ขายของถูก เพื่อกระตุ้น ศก.ในประเทศ เผยยิ่งใหญ่กว่าปีก่อน 3 เท่า ยอดจองบูธทะลัก 6 หมื่นยูนิตแล้ว พร้อมยืนยัน ไม่หวังแข่งงานมหกรรมดีแน่ ถูกแน่ ของคลัง
วันนี้ (25 ก.ค.) นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดงานเมดอินไทยแลนด์ ระหว่างวันที่ 8 - 17 ส.ค.นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องการแข่งขันกับงานมหกรรมไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง แต่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า และจะนำสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมดมาร่วม
ขณะนี้ นายราเชนทร์ ยืนยันว่า มีผู้ประกอบการจองพื้นที่กว่า 6,000 บูธ จากที่ตั้งเป้าไว้ 4,000 บูธ ทั้งจากผู้ผลิต และส่งออก เช่น เครื่องหนัง เครื่องประดับ รวมทั้งโครงการธงฟ้าราคาประหยัด โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 5 พันล้านบาท และผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน
นายราเชนทร์ เชื่อมั่นว่า งานนี้จะช่วยลดค่าครองชีพ และปลุกกระแสให้คนไทยใช้สินค้าไทยรวมทั้งส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก โดยเชิญนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้าร่วม ซึ่งตอบรับแล้วกว่า 300 บริษัท
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่าย เช่น ไข่ไก่ ถาดละ 50 บาท เมื่อเทียบกับงานมหกรรมไทยแลนด์ดีแน่ถูกแน่ ถาดละ 60 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการหลายรายปฏิเสธไปร่วมงานนี้เพราะเห็นว่าซ้ำซ้อนกับงานมหกรรมไทยแลนด์ดีแน่ถูกแน่เพื่อคนไทย ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง ทำให้ผู้จัดงานเมดอินไทยแลนด์ต้องลดค่าเช่าพื้นที่ลงบูธละ 11,000 บาท จากเดิมราคาบูธละ 35,000 บาท
โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบการปฏิเสธการเข้าร่วมงานเมดอินไทยแลนด์ เพราะเห็นว่ากระทรวงอื่นๆ แย่งงานกันทำ และจัดงานซ้ำซ้อน แต่เพื่อให้งานเมดอินไทยแลนด์บรรลุตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จึงได้ปรับเงื่อนไขจูงใจการร่วมงานโดยลดอัตราค่าเช่าพื้นที่เหลือบูธละ 5,000 บาท และเสียค่าใช้จ่ายอีกบูธละ 6,000 บาท รวม 11,000 บาท จากเดิม 35,000 บาท และเพิ่มระยะเวลาการจัดงานด้วย
วันนี้ (25 ก.ค.) นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดงานเมดอินไทยแลนด์ ระหว่างวันที่ 8 - 17 ส.ค.นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องการแข่งขันกับงานมหกรรมไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง แต่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยจัดยิ่งใหญ่กว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า และจะนำสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมดมาร่วม
ขณะนี้ นายราเชนทร์ ยืนยันว่า มีผู้ประกอบการจองพื้นที่กว่า 6,000 บูธ จากที่ตั้งเป้าไว้ 4,000 บูธ ทั้งจากผู้ผลิต และส่งออก เช่น เครื่องหนัง เครื่องประดับ รวมทั้งโครงการธงฟ้าราคาประหยัด โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 5 พันล้านบาท และผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน
นายราเชนทร์ เชื่อมั่นว่า งานนี้จะช่วยลดค่าครองชีพ และปลุกกระแสให้คนไทยใช้สินค้าไทยรวมทั้งส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก โดยเชิญนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้าร่วม ซึ่งตอบรับแล้วกว่า 300 บริษัท
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่าย เช่น ไข่ไก่ ถาดละ 50 บาท เมื่อเทียบกับงานมหกรรมไทยแลนด์ดีแน่ถูกแน่ ถาดละ 60 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการหลายรายปฏิเสธไปร่วมงานนี้เพราะเห็นว่าซ้ำซ้อนกับงานมหกรรมไทยแลนด์ดีแน่ถูกแน่เพื่อคนไทย ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง ทำให้ผู้จัดงานเมดอินไทยแลนด์ต้องลดค่าเช่าพื้นที่ลงบูธละ 11,000 บาท จากเดิมราคาบูธละ 35,000 บาท
โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบการปฏิเสธการเข้าร่วมงานเมดอินไทยแลนด์ เพราะเห็นว่ากระทรวงอื่นๆ แย่งงานกันทำ และจัดงานซ้ำซ้อน แต่เพื่อให้งานเมดอินไทยแลนด์บรรลุตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จึงได้ปรับเงื่อนไขจูงใจการร่วมงานโดยลดอัตราค่าเช่าพื้นที่เหลือบูธละ 5,000 บาท และเสียค่าใช้จ่ายอีกบูธละ 6,000 บาท รวม 11,000 บาท จากเดิม 35,000 บาท และเพิ่มระยะเวลาการจัดงานด้วย
