“เซน” ปักธงงัดกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ หวังกระทุ้งยอดช่วงครึ่งปีหลังอีกระลอก จากความสำเร็จครึ่งปีแรกโตพรวด 80% พร้อมเทอีก 80 ล้านบาท ผุดร้านอาหารเซนส์ บนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม.ชั้น 17 เสริมด้วยปรับโฉมพื้นที่ชั้น 6 เป็นที่จำหน่ายสินค้าเด็ก เดือน ต.ค.นี้ คุยสิ้นปีรายได้ทะลุเพิ่มอีกเท่าตัว จาก 1,800 ล้านบาท
นายอลัน นามชัยศิริ กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซน เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในช่วงไตรมาสแรก และไตรมาสสอง ที่ผ่านมา ที่ต่างก็มีรายได้กว่า 80% เท่าๆ กัน เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากกลยุทธ์การตลาดเกี่ยวกับการเพิ่มสินค้าแฟชั่นมากยิ่งขึ้น บวกกับการมีสถาบันการศึกษาเข้ามาเปิดใหม่ภายในศูนย์ ส่งผลให้อัตราการใช้พื้นที่ของลูกค้าในห้างเซนทั้งหมดที่มีอยู่ 70% ในขณะนี้ คาดว่า จะเพิ่มขึ้นถึง 85-90% ในสิ้นปีนี้ ทำให้บริษัทมองว่า เป็นกลยุทธ์ที่มาถูกทาง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันค่าครองชีพจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
และเพื่อให้อัตราการเติบโตในครึ่งปี หลังยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับในครึ่งปีแรก ล่าสุด บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จากที่มีในปัจจุบันเพียง 5% เป็น 25-30% ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อทำให้เกิดลูกค้าประจำอีกทางหนึ่ง ซึ่งมองว่าจะช่วยในเรื่องของ การที่ไม่ต้องไปแข่งขันในเรื่องของกลยุทธ์ทางด้านราคา เพื่อแย่งลูกกันกับห้างอื่น โดยสินค้าที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์นี้ จะมีทั้งไลน์เสื้อผ้า เครื่องตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร และสินค้าเด็ก รวมถึงสินค้าแฟชั่นอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งจะเปิดในครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ วิเวียน เวสท์วูดส์แฟล็กชิพสโตร์ และสินค้าแฟชั่นอีกกว่า 20 แบรนด์ที่จะเพิ่มเข้ามาในปลายปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมลงทุนอีก 80 ล้านบาท สำหรับเปิดร้านอาหารเซนส์ บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร บนชั้น 17 พร้อมเตรียมปรับพื้นที่บริเวณชั้น 6 ให้เป็นที่จำหน่ายสินค้าเด็ก โดยโยกสินค้าเครื่องเขียน หนังสือ ซีดี และเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือมือถือ ไปยังชั้น 5 ในสิ้นเดือนนี้และจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพฯ และไรมอนแลนด์ จัดเสวนารณรงค์สิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนภายใต้คอนเซปต์ “เซนเอิร์ทแคร์โซไซตี้” เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ลูกค้าตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ในชื่อ “แบ่งปัน และรักษ์โลก” เชิญชวนให้ลูกค้าที่เข้ามาชอปปิ้งร่วมบริจาคเสื้อผ้าและแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วซึ่งมีประโยชน์ต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยให้ส่วนลดเพิ่มขึ้น เพื่อลูกค้าบริจาคของใช้แล้วจากการซื้อสินค้าตามเงื่อนไขสูงสุดถึง 40%
นายอลัน นามชัยศิริ กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซน เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในช่วงไตรมาสแรก และไตรมาสสอง ที่ผ่านมา ที่ต่างก็มีรายได้กว่า 80% เท่าๆ กัน เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากกลยุทธ์การตลาดเกี่ยวกับการเพิ่มสินค้าแฟชั่นมากยิ่งขึ้น บวกกับการมีสถาบันการศึกษาเข้ามาเปิดใหม่ภายในศูนย์ ส่งผลให้อัตราการใช้พื้นที่ของลูกค้าในห้างเซนทั้งหมดที่มีอยู่ 70% ในขณะนี้ คาดว่า จะเพิ่มขึ้นถึง 85-90% ในสิ้นปีนี้ ทำให้บริษัทมองว่า เป็นกลยุทธ์ที่มาถูกทาง ถึงแม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันค่าครองชีพจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม
และเพื่อให้อัตราการเติบโตในครึ่งปี หลังยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับในครึ่งปีแรก ล่าสุด บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จากที่มีในปัจจุบันเพียง 5% เป็น 25-30% ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อทำให้เกิดลูกค้าประจำอีกทางหนึ่ง ซึ่งมองว่าจะช่วยในเรื่องของ การที่ไม่ต้องไปแข่งขันในเรื่องของกลยุทธ์ทางด้านราคา เพื่อแย่งลูกกันกับห้างอื่น โดยสินค้าที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์นี้ จะมีทั้งไลน์เสื้อผ้า เครื่องตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร และสินค้าเด็ก รวมถึงสินค้าแฟชั่นอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งจะเปิดในครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ วิเวียน เวสท์วูดส์แฟล็กชิพสโตร์ และสินค้าแฟชั่นอีกกว่า 20 แบรนด์ที่จะเพิ่มเข้ามาในปลายปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมลงทุนอีก 80 ล้านบาท สำหรับเปิดร้านอาหารเซนส์ บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร บนชั้น 17 พร้อมเตรียมปรับพื้นที่บริเวณชั้น 6 ให้เป็นที่จำหน่ายสินค้าเด็ก โดยโยกสินค้าเครื่องเขียน หนังสือ ซีดี และเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือมือถือ ไปยังชั้น 5 ในสิ้นเดือนนี้และจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพฯ และไรมอนแลนด์ จัดเสวนารณรงค์สิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนภายใต้คอนเซปต์ “เซนเอิร์ทแคร์โซไซตี้” เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ลูกค้าตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ในชื่อ “แบ่งปัน และรักษ์โลก” เชิญชวนให้ลูกค้าที่เข้ามาชอปปิ้งร่วมบริจาคเสื้อผ้าและแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วซึ่งมีประโยชน์ต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยให้ส่วนลดเพิ่มขึ้น เพื่อลูกค้าบริจาคของใช้แล้วจากการซื้อสินค้าตามเงื่อนไขสูงสุดถึง 40%
