ตลาดเครื่องสำอางลักชัวรีแบรนด์สะเทือน ครึ่งปีแรกโตลดลง 5% ผู้บริโภคขยับการซื้อสินค้าในแบรนด์ที่ถูกกว่า “ทาลิก้า” สะดุด ยอดวืดต่ำกว่าเป้า 20% หันแตกไลน์สินค้าใหม่ช่วยกู้ยอด ล่าสุด ผุด “ไลท์ 590 คอลลาเจน บูสเตอร์” มั่นใจขายดีแน่ แย้มเตรียมลุยไลน์เครื่องสำอางกลุ่มสกินแคร์อีก 3 ตัว เชื่อดันรายได้ทะลุ 30 ล้านบาท
นางณัฐวดี ประภานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัท มิล เฟลอร์ จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทาลิก้า จากประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ จากการติดตามตลาดรวมเครื่องสำอาง พบว่า ตลาดเครื่องสำอางกลุ่มลักชัวรี่แบรนด์มีอัตราการเติบตที่ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นหลัก กำลังซื้อที่ลดลง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงตลอด ส่งผลให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อมาเป็นแบรนด์ที่มีราคาถูกลง แต่สินค้ามีคุณภาพไม่แตกต่างกันแทน นอกจากนี้ ครึ่งปีที่ผ่านมา ยังมีแบรนด์เครื่องสำอางเปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ยิ่งทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ทาลิก้าเอง ยอมรับว่า ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายตกลงไปกว่า 20% แต่ก็ยังไม่หนักใจมากนัก เพราะว่าสินค้าของบริษัทจะเป็นกลุ่มนิชมาร์เก็ต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เฉพาะที่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับผิวบริเวณรอบๆ ดวงตา ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้จะมั่นใจในแบรนด์และไม่ค่อยเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นมากนัก เพราะเป็นเรื่องของความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์
ดังนั้น จึงเชื่อว่า ครึ่งปีหลังนี้ยอดขายรวมของบริษัทน่าจะดีขึ้น เนื่องจากบริษัทจะเน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่ และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาด ภายใต้งบการตลาดกว่า 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ ในกลุ่มสกินแคร์เพิ่มอีก 3 ตัว คือ โทนเนอร์ คลีนเซอร์ และโลชั่น คาดว่า น่าจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท และล่าสุด กับการเปิดตัวสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี อย่าง “ไลท์ 590 คอลลาเจน บูสเตอร์” แสงความถี่ช่วยกระตุ้นการคอลลาเจนในผิว จำหน่ายในราคา 13,500 บาทต่อเครื่อง มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี หรือจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 500 เครื่องในสิ้นปีนี้ หรือทั้งปีบริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นเป็น 25-30 ล้านบาท (ไม่รวมยอดขายไลท์ 590) จากปีก่อนที่มีรายได้เพียง 15-20 ล้านบาท
นางณัฐวดี ประภานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัท มิล เฟลอร์ จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทาลิก้า จากประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ จากการติดตามตลาดรวมเครื่องสำอาง พบว่า ตลาดเครื่องสำอางกลุ่มลักชัวรี่แบรนด์มีอัตราการเติบตที่ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นหลัก กำลังซื้อที่ลดลง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงตลอด ส่งผลให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อมาเป็นแบรนด์ที่มีราคาถูกลง แต่สินค้ามีคุณภาพไม่แตกต่างกันแทน นอกจากนี้ ครึ่งปีที่ผ่านมา ยังมีแบรนด์เครื่องสำอางเปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ยิ่งทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ทาลิก้าเอง ยอมรับว่า ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายตกลงไปกว่า 20% แต่ก็ยังไม่หนักใจมากนัก เพราะว่าสินค้าของบริษัทจะเป็นกลุ่มนิชมาร์เก็ต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เฉพาะที่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับผิวบริเวณรอบๆ ดวงตา ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้จะมั่นใจในแบรนด์และไม่ค่อยเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นมากนัก เพราะเป็นเรื่องของความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์
ดังนั้น จึงเชื่อว่า ครึ่งปีหลังนี้ยอดขายรวมของบริษัทน่าจะดีขึ้น เนื่องจากบริษัทจะเน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่ และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาด ภายใต้งบการตลาดกว่า 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ ในกลุ่มสกินแคร์เพิ่มอีก 3 ตัว คือ โทนเนอร์ คลีนเซอร์ และโลชั่น คาดว่า น่าจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท และล่าสุด กับการเปิดตัวสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี อย่าง “ไลท์ 590 คอลลาเจน บูสเตอร์” แสงความถี่ช่วยกระตุ้นการคอลลาเจนในผิว จำหน่ายในราคา 13,500 บาทต่อเครื่อง มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี หรือจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 500 เครื่องในสิ้นปีนี้ หรือทั้งปีบริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นเป็น 25-30 ล้านบาท (ไม่รวมยอดขายไลท์ 590) จากปีก่อนที่มีรายได้เพียง 15-20 ล้านบาท
