xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าฯ ผวา ธปท.ใช้ยาแรงเกินขนาด แนะขึ้น ดบ.แค่ 0.5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หอการค้าฯ ส่งสัญญาณเตือน กนง.ไม่ควรปรับขึ้น ดบ.ครึ่งปีหลังเกิน 0.50% พร้อมแนะให้ทยอยปรับครั้งละ 0.25% ประธาน ส.อ.ท.ทวงสัญญารัฐบาล ส่งหนังสือแล้วเงียบหายไปในกลีบเมฆ พร้อมระบุ กกร.เตรียมนัดถกรับมือปัญหาน้ำมัน-เงินเฟ้อ วันจันทร์ที่ 7 ก.ค.นี้

วันนี้ (4 ก.ค.) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวถึงผลสำรวจภาวะธุรกิจครึ่งปีแรก และแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง จากผลสำรวจ 400 ผู้ประกอบการ ระหว่าง 25-30 มิ.ย.พบยอดขายลดลงร้อยละ 47 ต้นทุนแพงขึ้นร้อยละ 14 กำไรลดลงร้อยละ 69 ขณะที่คาดการณ์ทั้งปี ยอดขายจะลดลงร้อยละ 45 ต้นทุนแพงขึ้นร้อยละ 7 และกำไรลดลงร้อยละ 58

ปัจจัยที่กระทบต่อธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ ราคาน้ำมันสูงขึ้น ปัญหาโครงสร้างการเมือง อัตราแลกเปลี่ยน ระดับราคาสินค้าและต้นทุนการผลิต กำลังซื้อประชาชน อัตราดอกเบี้ย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค ซึ่งภาคธุรกิจมองธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังจะแย่ลงร้อยละ 35 ดีขึ้นร้อยละ 33 แต่ธุรกิจในครึ่งปีหลังบางอย่างดีขึ้น เช่น ภาคการเกษตร อาหาร ปิโตรเลียม และยานยนต์

สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาด่วน คือ ราคาน้ำมัน ที่กระทบต่อต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น ปัญหาการเมือง ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาอัตราดอกเบี้ย โดยอยากเห็นอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ในระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ และดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี

ทั้งนี้ หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครึ่งปีหลัง ก็ไม่ควรเกินร้อยละ 0.5 ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ครั้งนี้ควรขึ้นแค่ร้อยละ 0.25 และครั้งต่อไปค่อยขึ้นอีกร้อยละ 0.25 ทั้งนี้เชื่อว่า ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจจะโตร้อยละ 6 และครึ่งปีหลังน่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4.5 ทั้งปีน่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5-5.0

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในวันจันทร์นี้ (7 ก.ค.) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จะประชุมประจำเดือน ซึ่งจะมีการหารือถึงภาวะเศรษฐกิจที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบหนักขึ้น จากราคาน้ำมัน ค่าครองชีพ และเงินเฟ้อ ซึ่งผลกระทบนี้เริ่มเห็นผลทำให้การขายสินค้าและการลงทุนอุตสาหกรรมในประเทศเริ่มชะลอตัว และการค้าขายโดยเฉพาะการซื้อวัตถุดิบต่างๆ เริ่มใช้เงินสดมากกว่าสินเชื่อ ซึ่งในเรื่องของภาวะน้ำมันที่ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่นี้ ทำให้ต้นทุนต่างๆ มีมากขึ้น ถือเป็นวิกฤตการณ์ทั่วโลก โดยภาค อุตสาหกรรมได้รับภาระต้นทุนมาโดยตลอด ในส่วนของต้นทุนค่าขนส่งปัจจุบัน มีการปรับขึ้นแบบวันต่อวัน ส่วนราคาสินค้าจะขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องของผู้ประกอบการแต่ละราย

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นถึง 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประโยชน์ที่ได้รับต่อกองทุนเก็งกำไรต่างๆ มีถึง 60-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงอยากเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจ เข้ามาดูแลว่า จะทำอย่างไรที่จะลดการเก็งกำไรเพื่อร่วมแก้ปัญหาวิกฤตทั่วโลก

ประธาน ส.อ.ท.กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ กกร.ได้ทำหนังสือขอพบนายกรัฐมนตรีและทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับมา อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อสูงขึ้น ทางกกร.จะสรุปรวบรวมข้อคิดเห็นต่อรัฐบาล เช่น เสนอให้ลดภาษีนิติบุคคลเหลือร้อยละ 25 เช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเชียที่ลดภาษีไปแล้ว โดยนโยบายที่ผ่านมา รัฐบาลมีการลดภาษีในส่วนของภาษีบริษัทที่จดทะเบียนใน ตลท.และภาษีบุคคลธรรมดาไปแล้ว

ส่วนมาตรการดอกเบี้ย เอกชนเห็นร่วมกันว่า ไม่ควรปรับขึ้นทั้งระบบ เพราะจะยิ่งส่งผลต่อต้นทุนให้สูงขึ้น โดยแนวทางที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และชะลอภาวะเงินเฟ้อ คือ ควรออกพันธบัตรเพื่อการออมเงิน (Saving Bond) โดยยกเว้นภาษีให้ด้วย ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยโดยรวมไม่ต้องปรับขึ้น และชะลอเงินเฟ้อได้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น