xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง-พาณิชย์” เปิดศึกจัดงานขายของถูก ละเลงงบเอาหน้า-หนีปัญหาเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คลังสวมบทพ่อค้า ดึงเอกชนจัดงานขายของราคาถูก ตีปี๊บร้าน 30 บาท ปตท.-ซีพี แห่ร่วมแจม ด้านพาณิชย์ โวยโดนคลังแย่งงาน ก๊อบปี้แผนไปทั้งยวง แอบโคลนนิ่งร้านค้าราคาเดียว แต่ใช้ชื่อใหม่ เฉ่งยับทำงานซ้ำซ้อน เพราะต้องการหนีปัญหาตลาดการเงิน ด้านเอกชนโวยลั่น รัฐแข่งเอาหน้าทำตลาดพังแน่

วันนี้ (4 ก.ค.) ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้า “มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-20 ก.ค.นี้ ที่ชาเลนจ์เจอร์ 2-3 เมืองทองธานี โดยระบุว่า จะมีการเปิดตัวร้าน 30 บาท ซึ่งเป็นร้านต้นแบบรวมสินค้าไทยคุณภาพดี แต่มีอุปสรรคในเรื่องช่องทางจำหน่ายสินค้า อาทิ นาฬิกา เสื้อยืดเด็ก ปลาซิวแก้ว กุ้งแห้ง ปลาแห้ง รองเท้า ถุงเท้า เป็นต้น และเปิดให้ประชาชนเข้าจองพื้นที่ขายสินค้า 30 บาท ได้ถึงวันที่ 12 ก.ค.นี้ ซึ่งภายในงานจะมีการขายสินค้าคุณภาพ ราคาพิเศษซึ่งคาดว่า จะมีเงินสะพัดถึง 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัท ปตท.จะจับสลากลุ้นรับสิทธิการติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีในราคาพิเศษ โดยระบบ ดูดก๊าซ 3 หมื่นบาท และระบบ หัวฉีด 5 หมื่นบาท รวม 1,000 ถัง โดยให้จองวันละ 250 ถัง รวมทั้งกรมศุลกากรจะเปิดประมูลรถยนต์ ทั้ง โตโยต้า, บีเอ็มดับเบิลยู และเบนซ์พร้อมการลุ้นรถยนต์ประหยัดพลังงาน

สำหรับภาคเอกชนมาเข้าร่วมอย่าง บริษัท ซีพี จะนำไข่ไก่ และอาหารสดแช่แข็งมาขายในราคาถูกกว่าตลาดประมาณ 20% ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะมีหลอดไฟฟ้ามาแจกในงานให้เปล่าจำนวน 5 หมื่นหลอด

**พาณิชย์ โวยถูกแย่งงาน-ก๊อบปี้ร้านราคาเดียวไปทั้งดุ้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดงานสินค้าราคาถูกของกระทรวงฯ โดยระบุว่าว่า ขณะนี้ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมโครงการร้านค้าจำหน่ายสินค้ารายเดียวตามแนวความคิดของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และแฟชั่นรายใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ราคาเบื้องต้น 49-50 บาท/ชิ้น เปิดบริการในปีแรก 1,200-1,600 แห่งทั่วประเทศ

ผู้ผลิตสินค้าหลายราย ออกมาบ่นกับสื่อมวลชน โดยยอมรับว่า ตอนนี้ ผู้ผลิตสินค้ากำลังมีความสับสน และกังวลต่อความต่อเนื่องของนโยบายดูแลปัญหาปากท้องของประชาชนของกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ผลิตได้รับการติดต่อในระดับนโยบายของทั้ง 3 กระทรวง ให้ร่วมจัดทำโครงการต่างๆ และเป็นโครงการในลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น เช่น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง มีแนวคิดจะจัดทำร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูกราคาเดียวเหมือนกัน และขอความร่วมมือกำหนดราคาที่ต่ำกว่ากันเอง

“เรียกว่า ซ้ำซ้อนกันมากทั้งการจัดรายการลดราคาสินค้า จัดมหกรรมสินค้าราคาพิเศษ และยังขอให้ผลิตสินค้าป้อนตลาดในราคาต่ำกว่าทั่วไป 20-40% การที่รัฐขอให้ทำแบบนี้ ยิ่งทำให้การแข่งขันกัน ระหว่างรัฐ จะยิ่งเพิ่มภาระต่อเอกชน หนำซ้ำยังทำลายระบบการค้าปกติ เพราะยิ่งทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายหรือลดกำลังซื้อมีมากขึ้น เมื่อประชาชนเห็นว่ารัฐจะจัดงานก็มักจะรอซื้อแต่ของลดราคา กระทบต่อการซื้อขายในราคาปกติ สุดท้ายคนจะเลิกซื้อสินค้าส่งเสริมการขาย หากเอกชนจะไม่ร่วมมือกับภาครัฐก็กังวลต่อภาพพจน์บริษัทไม่ดีในสายตาประชาชน และภาครัฐเอง”

***“สุวิทย์” กั๊กงบจัดโอท็อป “มิ่ง” ช็อกงานล่ม

สำหรับการจัดงาน “เมืองแห่งภูมิปัญญาไทย หรือ OTOP CITY” ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ได้หยุดการจัดงานโอทอป ซิตี มิดเยียร์ ในเดือน ก.ค.ไปแล้ว ซึ่งปกติโอทอป ซิตี จะจัด 2 ครั้งในช่วงกลางปี (ประมาณ มิ.ย.-ก.ค.) และปลายปี (พ.ย.-ธ.ค.) และจัดต่อเนื่องมา 2 ปี

แม้ว่าก่อนหน้านี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะส่งหนังสือเชิญผู้ผลิตสินค้าโอท็อปชุมชนทั่วประเทศประมาณ 600 ราย ให้เข้าร่วมออกบูธแสดงสินค้าแล้ว

“งานจะเริ่มวันเสาร์ที่ 5 ก.ค.เพิ่งมารู้ว่ามีปัญหาเมื่อวันจันทร์ ที่ 30 มิ.ย.ว่า จัดไม่ได้อย่างกะทันหัน เพราะจู่ๆ กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งกำกับดูแลสำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งเป็นเจ้าของเงินงบประมาณที่ใช้ในการจัดงาน ไม่อนุมัติงบประมาณในการจัดงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายมิ่งขวัญ รมว.พาณิชย์ หารือร่วมกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. อุตสาหกรรมแล้ว แต่สุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้ ทำให้เกิดความ เดือดร้อนขึ้น ต้องโทร.ไปแจ้งผู้ผลิตชุมชนทั่วประเทศขอเลื่อนการจัดงานโอท็อปออกไปไม่มีกำหนด ทำให้หลายชุมชนไม่พอ ใจขู่ว่าจะเดินทางมาชุมนุมประท้วงรัฐบาล หากรัฐบาลไม่จัดงาน เหมือนทุกปี”

นอกจากนี้ ยังมีการอ้างเหตุผลว่า การเตรียมตัวจัดงานไม่ทัน แต่แท้จริงเกิดจากการจัดงานประสบปัญหาการขาดทุน และยังถูกตัดงบประมาณในการจัดงาน ทำให้ต้องร่วมงานมหกรรมสินค้าราคาดีของกระทรวงการคลัง ระหว่าง 7-18 ส.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น