ซีลวาเนีย ผนึก สหพัฒน์ ปิดจุดบอด เสริมทัพเพิ่มช่องทางขายต่างจังหวัด แตกไลน์สินค้ากลุ่มไฟฉายหลอดแอลอีดีช่วยดันยอด มั่นใจกลยุทธ์โปรดักส์มิกซ์ทำราคาขายได้ดี เปิดแคมเปญ “ทำบุญ 9วัด ทำทาน 9 โรงเรียน” ช่วงเข้าพรรษานี้ เชื่อทั้งปีขายผลิตภัณฑ์ชุดถวายสังฆทานได้ 1.6 ล้านชุด คาดปีนี้ยอดโตขึ้น 30%
นายอิศรา หริตวร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ทางซีลวาเนีย วางกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การเปิดตัวสินค้าใหม่ และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ภายใต้งบการตลาดรวมกว่า 100 ล้านบาท เพื่อที่จะทำให้บริษัทฯมีการเติบโต 30% ตามเป้าที่วางไว้ที่ 900 ล้านบาทซึ่งเติบโตกว่าตลาดรวม
ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายโต 15% ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และการเมือง รวมถึงมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะทางด้านราคา ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหลอดไฟปีนี้ คาดว่าจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา หรืออยู่ที่ประมาณ 6,500 ล้านบาท
บริษัทฯจะมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางจำหน่ายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งมองว่ายังไม่แข็งแรงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายหลัก 4 ราย ทั้ง 4 ภูมิภาคในประเทศไทย ด้วยการหาร้านค้ารายย่อยในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติม และที่สำคัญในส่วนของช่องทางโมเดิร์นเทรดในต่างจังหวัด บริษัทฯได้ร่วมกับทางสหพัฒน์ให้เป็นผู้ดูแลช่องทางจำหน่ายสู่ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดต่างๆเพิ่มอีกช่องทางหนึ่งด้วย คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ในส่วนต่างจังหวัดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในกรุงเทพฯ ยังจะมีการจัดโรดโชว์ไปตามออฟฟิศต่างๆด้วย
"ปัจจุบัน บริษัทฯมีช่องทางขายหลักอยู่ 3 ทาง คือ เทรดดิชันนอลเทรด, โปรเจกต์ และโมเดิร์นเทรด ซึ่งสร้างรายได้ให้ในอัตราประมาณ 33% เท่าๆกัน ทั้งนี้ในส่วนของช่องทางโมเดิร์นเทรด ขณะนี้จำหน่ายที่ โฮมโปร์ โฮมเวิร์ค และห้างสรรพสินค้าชั้นนำเท่านั้น ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ต ไม่สามารถเข้าไปวางจำหน่ายได้ เพราะทางผู้นำตลาดได้เข้าไปจำหน่ายในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นทางบริษัทฯจึงมุ่งไปที่ตลาดต่างจังหวัดแทน ซึ่งมองว่าสามารถเพิ่มช่องทางขายได้อีกมาก จึงได้ร่วมกับสหพัฒน์ ให้ดูแลช่องทางขายให้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา"
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา อย่าง ไฟฉายหลอดแอลอีดี อีก 3 รุ่น คือ แอลอีดี 9 เม็ด ราคา149 บาท, แอลอีดี14เม็ด ราคา 199บาท และแอลอีดี 21เม็ด ราคา 259บาท ซึ่งในตลาดมีผู้เล่นอยู่ก่อนแล้วอย่างออสแรม แต่คาดว่าผู้บริโภค จะให้การตอบรับที่ดี
ล่าสุดในส่วนของกลยุทธ์โปรดักส์มิกซ์ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้สูงขึ้น อย่างชุดหลอดไฟ ถวายสังฆทานนั้น ปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาดอีก 5 ล้านบาท มาใช้กับกิจกรรม "ทำบุญ 9 วัด ทำทาน 9 โรงเรียน" ในช่วงเข้าพรรษานี้โดยเฉพาะ ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยทั้งปีคาดว่าชุดหลอดไฟถวายสังฆทานจะสามารถขายได้มากกว่า 1.6ล้านชุด สูงขึ้นจากเดิมในปีก่อนที่ขายได้กว่า1.5 ล้านชุด
ปัจจุบันตลาดหลอดไฟมูลค่า 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็น หลอดไฟ 60% และชุดโคมไฟ 40% โดยมีฟิลิปส์เป็นผู้นำตลาด ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ขณะที่ซีลวาเนียมีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 12-15%
นายอิศรา หริตวร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ฮาเวลส์ ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ทางซีลวาเนีย วางกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การเปิดตัวสินค้าใหม่ และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ภายใต้งบการตลาดรวมกว่า 100 ล้านบาท เพื่อที่จะทำให้บริษัทฯมีการเติบโต 30% ตามเป้าที่วางไว้ที่ 900 ล้านบาทซึ่งเติบโตกว่าตลาดรวม
ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายโต 15% ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และการเมือง รวมถึงมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะทางด้านราคา ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหลอดไฟปีนี้ คาดว่าจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา หรืออยู่ที่ประมาณ 6,500 ล้านบาท
บริษัทฯจะมุ่งเน้นเพิ่มช่องทางจำหน่ายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งมองว่ายังไม่แข็งแรงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายหลัก 4 ราย ทั้ง 4 ภูมิภาคในประเทศไทย ด้วยการหาร้านค้ารายย่อยในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติม และที่สำคัญในส่วนของช่องทางโมเดิร์นเทรดในต่างจังหวัด บริษัทฯได้ร่วมกับทางสหพัฒน์ให้เป็นผู้ดูแลช่องทางจำหน่ายสู่ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดต่างๆเพิ่มอีกช่องทางหนึ่งด้วย คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ในส่วนต่างจังหวัดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในกรุงเทพฯ ยังจะมีการจัดโรดโชว์ไปตามออฟฟิศต่างๆด้วย
"ปัจจุบัน บริษัทฯมีช่องทางขายหลักอยู่ 3 ทาง คือ เทรดดิชันนอลเทรด, โปรเจกต์ และโมเดิร์นเทรด ซึ่งสร้างรายได้ให้ในอัตราประมาณ 33% เท่าๆกัน ทั้งนี้ในส่วนของช่องทางโมเดิร์นเทรด ขณะนี้จำหน่ายที่ โฮมโปร์ โฮมเวิร์ค และห้างสรรพสินค้าชั้นนำเท่านั้น ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ต ไม่สามารถเข้าไปวางจำหน่ายได้ เพราะทางผู้นำตลาดได้เข้าไปจำหน่ายในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นทางบริษัทฯจึงมุ่งไปที่ตลาดต่างจังหวัดแทน ซึ่งมองว่าสามารถเพิ่มช่องทางขายได้อีกมาก จึงได้ร่วมกับสหพัฒน์ ให้ดูแลช่องทางขายให้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา"
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา อย่าง ไฟฉายหลอดแอลอีดี อีก 3 รุ่น คือ แอลอีดี 9 เม็ด ราคา149 บาท, แอลอีดี14เม็ด ราคา 199บาท และแอลอีดี 21เม็ด ราคา 259บาท ซึ่งในตลาดมีผู้เล่นอยู่ก่อนแล้วอย่างออสแรม แต่คาดว่าผู้บริโภค จะให้การตอบรับที่ดี
ล่าสุดในส่วนของกลยุทธ์โปรดักส์มิกซ์ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้สูงขึ้น อย่างชุดหลอดไฟ ถวายสังฆทานนั้น ปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบการตลาดอีก 5 ล้านบาท มาใช้กับกิจกรรม "ทำบุญ 9 วัด ทำทาน 9 โรงเรียน" ในช่วงเข้าพรรษานี้โดยเฉพาะ ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยทั้งปีคาดว่าชุดหลอดไฟถวายสังฆทานจะสามารถขายได้มากกว่า 1.6ล้านชุด สูงขึ้นจากเดิมในปีก่อนที่ขายได้กว่า1.5 ล้านชุด
ปัจจุบันตลาดหลอดไฟมูลค่า 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็น หลอดไฟ 60% และชุดโคมไฟ 40% โดยมีฟิลิปส์เป็นผู้นำตลาด ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ขณะที่ซีลวาเนียมีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 12-15%