คาร์ฟูร์เกาะติดเทรนด์ขยายบทบาทพัฒนาคอมมูนิตีมอลล์เป็นครั้งแรก ทุ่มทุน 140 ล้านบาท เปิดพรีเมียมมินิไฮเปอร์มาร์เก็ต สาขาสวนหลวง พร้อมเปิดบริการใหม่ “ควิกดีลิเวอรี” เอาใจลูกค้ายุคค่าครองชีพเพิ่ม คาดยอดขายสาขาสวนหลวงสิ้นปีนี้ทะลุ 400 ล้านบาท เผยเตรียมเปิดอีกอย่างน้อย 6 แห่งในปีหน้าทุกรูปแบบ
นางสาวประภาพรรณ พลอยแสงงาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารคาร์ฟูร์ไฮเปอร์มาร์เก็ต เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนประมาณ 140 ล้านบาท สร้างคอมมูนิตีมอลล์ในพื้นที่ 2 ไร่ขึ้นที่บริเวณสวนหลวงเปิดบริการในปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมด 15,000 ตารางเมตร และคาร์ฟูมินิไฮเปอร์มาร์เก็ต 2,000 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถ 172 คัน
สำหรับการเปิดคาร์ฟูร์มินิไฮเปอร์มาร์เก็ตนี้ เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นซื้อของตามชอปปิ้งมอลล์ใกล้บ้านมากขึ้น ตามผลสำรวจของบริษัทในหลายครั้งที่ผ่านมา และสอดคล้องกับภาวะในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพราะปัจจัยต่างๆ รวมทั้งเรื่องค่าน้ำมัน ขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้คาร์ฟูร์สามารถขยายธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้น
นางสาวประภาพรรณ กล่าวว่า คาร์ฟูมินิไฮเปอร์มาร์เก็ต สาขาสวนหลวง ถือเป็นพรีเมียมมินิไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาที่ 2 ซึ่งมีสินค้าทั้งหมด 30,000 ชนิด เป็นสินค้าจำเป็นและเน้นสินค้าประเภทอาหารประมาณ 60% มีสินค้าให้เลือกหลากหลายเหมือนกับสาขาปกติ
นายพิษณุ พงษ์วัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาค กล่าวเสริมว่า ภาพลักษณ์ของคาร์ฟูร์ สวนหลวง จะมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งในเรื่องของโทนสีของสโตร์ ป้าย หรือกราฟฟิกที่จะดูทันสมัย ซึ่งคอนเซปต์ลักษณะนี้จะตอบสนองพฤติกรรมการชอปปิ้งของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาก และสอดคล้องกับกฎหมายค้าปลีกของไทย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของชุมชนใหม่ๆ ที่เกิดจากการขยายโครงข่ายการคมนาคม
คาร์ฟูมินิไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาสวนหลวงจะรองรับลูกค้าในรัศมี 5 กิโลเมตร คาดว่า มียอดขายประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี และคุ้มทุนภายใน 3-5 ปี ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการสาขาสวนหลวงวันละประมาณ 2,500 คน เฉลี่ยการใช้จ่ายครั้งละ 500 บาท
คาร์ฟูร์ สาขาสวนหลวง ได้เปิดบริการใหม่ คือ “ควิกดีลิเวอรี” โดยบริการส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงบ้านในรัศมี 5 กิโลเมตร เมื่อลูกค้าชอปปิ้งที่คาร์ฟูร์ สาขาสวนหลวง ครบ 1,000 บาท และบริการเพิ่มขึ้นในระยะรัศมี 20 กิโลเมตรเมื่อซื้อของครบ 2,500 บาท
บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาทั้งหมด 6 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยปัจจุบันเปิดสาขาไปแล้ว 4 แห่ง และจะเปิดอีก 1-2 แห่งในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่า จะเป็นคอนเซปต์พรีเมียมมินิไฮเปอร์มาร์เกต ประมาณ 1 แห่ง คาดการณ์ว่า ยอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย
นางสาวประภาพรรณ พลอยแสงงาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารคาร์ฟูร์ไฮเปอร์มาร์เก็ต เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนประมาณ 140 ล้านบาท สร้างคอมมูนิตีมอลล์ในพื้นที่ 2 ไร่ขึ้นที่บริเวณสวนหลวงเปิดบริการในปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ค้าปลีกทั้งหมด 15,000 ตารางเมตร และคาร์ฟูมินิไฮเปอร์มาร์เก็ต 2,000 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถ 172 คัน
สำหรับการเปิดคาร์ฟูร์มินิไฮเปอร์มาร์เก็ตนี้ เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นซื้อของตามชอปปิ้งมอลล์ใกล้บ้านมากขึ้น ตามผลสำรวจของบริษัทในหลายครั้งที่ผ่านมา และสอดคล้องกับภาวะในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพราะปัจจัยต่างๆ รวมทั้งเรื่องค่าน้ำมัน ขณะเดียวกัน ก็ช่วยให้คาร์ฟูร์สามารถขยายธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้น
นางสาวประภาพรรณ กล่าวว่า คาร์ฟูมินิไฮเปอร์มาร์เก็ต สาขาสวนหลวง ถือเป็นพรีเมียมมินิไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาที่ 2 ซึ่งมีสินค้าทั้งหมด 30,000 ชนิด เป็นสินค้าจำเป็นและเน้นสินค้าประเภทอาหารประมาณ 60% มีสินค้าให้เลือกหลากหลายเหมือนกับสาขาปกติ
นายพิษณุ พงษ์วัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาค กล่าวเสริมว่า ภาพลักษณ์ของคาร์ฟูร์ สวนหลวง จะมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งในเรื่องของโทนสีของสโตร์ ป้าย หรือกราฟฟิกที่จะดูทันสมัย ซึ่งคอนเซปต์ลักษณะนี้จะตอบสนองพฤติกรรมการชอปปิ้งของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาก และสอดคล้องกับกฎหมายค้าปลีกของไทย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของชุมชนใหม่ๆ ที่เกิดจากการขยายโครงข่ายการคมนาคม
คาร์ฟูมินิไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาสวนหลวงจะรองรับลูกค้าในรัศมี 5 กิโลเมตร คาดว่า มียอดขายประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี และคุ้มทุนภายใน 3-5 ปี ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการสาขาสวนหลวงวันละประมาณ 2,500 คน เฉลี่ยการใช้จ่ายครั้งละ 500 บาท
คาร์ฟูร์ สาขาสวนหลวง ได้เปิดบริการใหม่ คือ “ควิกดีลิเวอรี” โดยบริการส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงบ้านในรัศมี 5 กิโลเมตร เมื่อลูกค้าชอปปิ้งที่คาร์ฟูร์ สาขาสวนหลวง ครบ 1,000 บาท และบริการเพิ่มขึ้นในระยะรัศมี 20 กิโลเมตรเมื่อซื้อของครบ 2,500 บาท
บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาทั้งหมด 6 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยปัจจุบันเปิดสาขาไปแล้ว 4 แห่ง และจะเปิดอีก 1-2 แห่งในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่า จะเป็นคอนเซปต์พรีเมียมมินิไฮเปอร์มาร์เกต ประมาณ 1 แห่ง คาดการณ์ว่า ยอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย